ทำไม ‘กระเป๋านักเรียนประถม’ ของญี่ปุ่น ถึงราคาแพงกว่า 10,000 บาท และการเลือกซื้อแต่ละครั้ง ก็เป็น ‘เรื่องใหญ่’ ของทั้งครอบครัว
ในปี 2014 ดาราสาวอเมริกัน โซอีย์ เดสชาเนล (Zooey Deschanel) ได้นำกระเป๋านักเรียนประถมญี่ปุ่นมาสะพาย ซึ่งการทำแบบนั้นของเธอในช่วงที่เธอยังดังสุดขีดก็ทำให้คนพยายามทำตาม ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าการถือกระเป๋านักเรียนประถม ตามดาราดังแห่งยุคมันน่าจะเฟี้ยวน่าดู และก็น่าจะไม่แพงอะไรหรอก
แต่นั่นก็ทำให้ชาวโลกต้องช็อก เพราะชาวโลกไม่เคยรู้มาก่อนว่ากระเป๋านักเรียนญี่ปุ่นที่ดูเรียบๆ ไม่มียี่ห้อใดๆ ราคามันสูงถึงหลักหมื่นบาททั้งนั้น คือมีราคาเป็น ‘สินค้าแบรนด์เนม‘ เลย และนี่ก็คือราคามาตรฐานมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะจากผลสำรวจในปี 2022 กระเป๋านักเรียนประถมทั่วๆ ไปมีราคาใบละประมาณ 15,000 บาท หรือพูดง่ายๆ ก็คือเด็กประถมญี่ปุ่นใช้กระเป๋าราคาเป็นหมื่น
บางคนอาจบอกว่านี่เป็นเรื่องของการแสดงความมั่งคั่งแบบเงียบๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งก็อาจจะไม่ผิดที่จะพูดแบบนั้น แต่ถ้าเราจบแค่นี้เราก็จะไม่เห็นมิติต่างๆ ของกระเป๋านักเรียนประถมญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า Randoseru
ว่ากันว่า randoseru เป็นคำที่มาจากภาษาดัตช์ว่า ransel แปลว่า ‘กระเป้าเป้‘ โดยญี่ปุ่นเริ่มรับเอาเป้มาใช้ช่วงสมัย ‘ปฏิรูปเมจิ‘ เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นพยายามเปลี่ยนสังคมให้เป็นแบบตะวันตก แต่ยุคโน้น Randoseru ไม่ได้หมายถึงกระเป๋านักเรียน แต่หมายถึงกระเป๋าของทหารของกองทัพญี่ปุ่นยุคใหม่ และเอาจริงๆ แล้วนักเรียนญี่ปุ่นก็แทบไม่มีการใช้เป้เลยในช่วงศตวรรษที่ 19 และครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และถ้าสงสัยว่านักเรียนญี่ปุ่นขนหนังสือไปโรงเรียนยังไง คำตอบคือ ‘ห่อผ้า‘ ไป โดยการเอาผ้าห่อของแทนกระเป๋าอันเป็นศาสตร์หนึ่งของญี่ปุ่นโบราณ ระดับที่มีการเรียกผ้าที่ใช้ห่อสัมภาระนี้ว่า Furoshiki
แล้ว Randoseru กลายมาเป็นกระเป๋านักเรียนประถมได้ยังไง? คำตอบเร็วๆ ก็คือ มันเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัว ญี่ปุ่นค่อยๆ กลายเป็นชาติที่มั่งคั่งมาก (ตอนพีกๆ คือรวยรองจากอเมริกา) และช่วงนี้เองที่นักเรียนชั้นประถมของญี่ปุ่นเริ่มใช้ Randoseru โดยในยุคแรก ผู้ชายจะใช้ Randoseru สีดำ ส่วนผู้หญิงจะใช้สีแดง
บางคนอาจเข้าใจว่าที่เป็นแบบนี้มันคือระเบียบ คำตอบคือไม่ใช่ โรงเรียนประถมญี่ปุ่นไม่ได้บังคับให้ใช้ Randoseru แต่มันเป็นธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นเองที่จะซื้อ Randoseru ให้ลูกเมื่อเข้า ป.1 และตามธรรมเนียมลูกก็จะใช้กระเป๋าใบนี้ยาวๆ ไปจนจบ ป.6
แน่นอน เด็กเข้าเรียนประถมก็ต้องซื้อกระเป๋าใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เรื่องแปลกในสายตาของชาวโลกคือทำไมมันจึงแพงมากๆ?
คำตอบก็คือ มันก็เป็นธรรมเนียมเช่นกันของคนญี่ปุ่นที่จะใช้กระเป๋าเพียงใบเดียวจนจบชั้นประถม ดังนั้นกระเป๋ามันต้องแข็งแรงสุดๆ ซึ่งกระเป๋าแข็งแรง ก็ต้องแพงเป็นธรรมดา เพราะวัสดุมันต้องแข็งแรง และเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ใช้ของในประเทศเป็นหลักและก็ไม่มีประเทศไหนใช้กระเป๋าเด็กประถมแบบญี่ปุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือที่เราเห็น Randoseru ที่เด็กญี่ปุ่นใช้ มันก็คือ ‘งานฝีมือญี่ปุ่น‘ แท้ๆ แบบไม่ได้ใช้เครื่องจักรเย็บ แต่ใช้มือเย็บ และในแง่นี้มันก็น่าจะเป็นคำอธิบายพอว่าทำไม Randoseru ที่ขายๆ กันนั้นราคา 20,000 ขึ้นไปเป็นปกติ
แต่ ‘ความซับซ้อน‘ ยังไม่จบแค่นี้
ตามธรรมเนียมญี่ปุ่น คนที่จะมีหน้าที่จ่ายเงินซื้อ Randoseru ให้เด็กประถม คือปู่ย่าตายายของเด็ก แต่คนซื้อคือพ่อแม่ของเด็ก และคนที่ใช้ก็คือเด็ก โดยที่เขาสำรวจในปี 2022 กระเป๋าของเด็กประถมญี่ปุ่นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นกระเป๋าที่ปู่ย่าตายายซื้อให้ ดังนั้นกระบวนการเลือกกระเป๋ามันเลยอีนุงตุงนังมาก แบบต้องเรียกครอบครัว 3 รุ่นมาประชุมกันเลย โดยมีศัพท์เรียกกิจกรรมนี้ของครอบครัวว่า ran-katsu และนี่ก็ไม่ใช่คุยกันแป๊บๆ แบบนัดกินข้าวกัน คุยกัน แล้วไปซื้อเลย แต่เขาใช้เวลาคุยกันเป็นปีกว่าจะให้ทุกฝ่ายตกลงร่วมกันว่าประเป๋าแบบไหนคือกระเป๋าที่เหมาะที่สุดสำหรับเด็กญี่ปุ่นที่กำลังจะเข้าชั้นประถม
ทั้งหมดที่เล่ามาก็เรียกได้ว่ามันมีพิธีรีตองเยอะ สมเป็นธรรมเนียมญี่ปุ่นจริงๆ และก็อย่างที่บอก Randoseru ไม่ใช่สิ่งที่โรงเรียนจะบังคับให้เด็กใช้ แต่ถ้าเด็กคนไหนไม่มี Randoseru ก็จะแปลกประหลาดกว่าเพื่อน และนั่นน่าจะทำให้โดนเพื่อนล้อหรือแกล้งได้แน่ๆ และพ่อแม่ไปจนถึงปู่ย่าตายายก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น ก็เลยต้องซื้อ Randoseru อันแสนแพงให้
แน่นอนว่ายุคหลังๆ คนญี่ปุ่นเกิดน้อยลง ปีๆ หนึ่งมีเด็กประถมน้อยลง Randoseru ก็มียอดขายลดลง แต่เนื่องจากมันเป็น ‘สิ่งจำเป็น‘ ในทางสังคม บริษัทผู้ผลิต Randoseru ก็เลยเพิ่มราคาเพื่อทดแทนยอดขายที่ลดลงนี้ และภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมันก็เลยมาตกอยู่ที่ปู่ย่าตายาย ไปจนถึงพ่อแม่ที่ไม่มีปู่ย่าตายายคอยซื้อกระเป๋าให้หลาน
แต่นั่นเอง สิ่งหนึ่งที่สะท้อนว่า Randoseru ราคาแพงเกินไปแล้ว ก็คือ ณ ปัจจุบัน มี Startup ให้นักเรียนญี่ปุ่นเช่า Randoseru ได้ โดยมีแพ็กเกจต่างๆ ให้จ่ายรายเดือนในเรตและสิทธิต่างๆ กัน เช่นจ่ายเยอะ ก็อาจได้สิทธิเปลี่ยนกระเป๋าได้ถี่กว่า เป็นต้น
โดยทั้งหมดนี้ ภาพรวมๆ ก็น่าจะเป็นขาลงของอุตสาหกรรม Randoseru ที่ลดความสำคัญลงไปในสังคมผู้สูงอายุ แต่มันก็คงยังไม่ได้หายไปไหน เพราะตราบใดที่คนญี่ปุ่นยังมีลูก และยังเข้าเรียนชั้นประถมในญี่ปุ่นอยู่ เด็กที่เข้าเรียน ป.1 ส่วนใหญ่ก็ยังคงจะได้ Randoseru ใบใหม่ไปเรียนอยู่ดี
อ้างอิง
- Kotoku. Japan’s School Bags Are Expensive and Fashionable. https://shorter.me/Stuio
-
One From Nippon. $450 for a School Bag?! https://shorter.me/_LGxY
-
Japan Today. Japan’s school backpacks keep getting more expensive, so now parents can rent them. https://shorter.me/PIsDg