4 Min

รู้ไหม อินเดียประกาศกร้าวว่า ‘ไม่มีคนขี้กลางถนนแล้ว’ ตั้งแต่ปี 2019

4 Min
984 Views
08 Jun 2022

อินเดียเป็นชาติที่มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา อย่างไรก็ดี มิติทางวัฒนธรรมที่เลื่องลือตั้งแต่เหนือจรดใต้ราวกับว่ามันเป็นอัตลักษณ์ประจำชาติก็คือการที่ชาตินี้เต็มไปด้วยคนที่สามารถนั่งลงถ่ายหนักกลางถนนได้อย่างหน้าตาเฉย ราวกับทุกพื้นที่ของอินเดียคือส้วม

พฤติกรรมแบบนี้จริงๆ มีคำเรียกในภาษาอังกฤษว่า ‘Open Defecation’ หรือถ้าแปลตรงๆ ก็คือการขี้กลางแจ้งซึ่งจริงๆ มันก็คือการถ่ายหนักทั้งหมดที่ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องสุขาหรือในส้วมอย่างเป็นสุขลักษณะ

และก็ว่ากันตรงๆ จริงๆ มนุษยชาติก็ขับถ่ายกันแบบนี้มาช้านานแบบไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนสมัยก่อนอยู่กับธรรมชาติ ประชากรไม่หนาแน่น จะไปขับถ่ายกลางทุ่งหรือลงน้ำก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร

ปัญหาคือ พอมันเริ่มเกิดเมืองใหญ่ๆ คนเริ่มแออัด ก็เกิดการขับถ่ายของเสียในพื้นที่แคบๆ และแหล่งน้ำที่จำกัด ทำให้เกิดโรคระบาดอย่างอหิวาตกโรค ซึ่งชาติที่ค้นพบว่าการปล่อยให้คนขับถ่ายในแหล่งน้ำดีจะทำให้โรคนี้ระบาดคืออังกฤษ และหลังจากการค้นพบช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ก็เลยเกิดไอเดียว่าสังคมต้องมีส้วมแบบถูกสุขลักษณะ และต้องมีระบบการกำจัดน้ำเสียที่แยกจากน้ำดี เพื่อป้องกันโรคระบาด

ไอเดียแบบนี้มาถึงไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 โดยในไทยมีการประกาศบังคับให้ประชาชนขับถ่ายในส้วมกันเมื่อปี 1897 หรือเมื่อ 125 ปีมาแล้ว โดยก็มีการสร้างส้วมสาธารณะกันอย่างหนัก บังคับว่าบ้านไหนไม่มีส้วมจะไม่ได้ทะเบียนบ้าน เป็นต้น

ซึ่งก็แน่นอนมันใช้เวลาเป็นสิบๆ ปีกว่าคนไทยจะยอมขับถ่ายในส้วมกัน แต่ในที่สุด เราก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่รู้สึกว่าคนที่ขับถ่ายกลางแจ้งเป็นพวกป่าเถื่อน

แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ทุกสังคมที่เป็นแบบนั้น โดยเฉพาะสังคมที่ใหญ่มากๆ และนี่ก็เป็นปัญหาของทั้งจีนและอินเดีย ถ้าใครพอจะจำได้ จริงๆ จีนสัก 20 ปีก่อน ข่าวคนขับถ่ายในที่สาธารณะยังเป็นเรื่องที่เห็นเรื่อยๆ เลย แต่สุดท้ายมาทุกวันนี้ จีนก็ศิวิไลซ์และปราศจากการขับถ่ายในที่สาธารณะในที่สุดในภาพรวม

ทีนี้ก็ถึงคิวอินเดีย 

ตั้งแต่พรรคประชาชนอินเดียของ นเรนทรา โมดี ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในปี 2014 ภารกิจหนึ่งก็คือการทำให้อินเดียสะอาด และสิ่งที่ถูกยกมาเป็นวาระแห่งชาติก็คือ การทำให้คนอินเดียเลิกขี้กลางถนนให้ทันวันครบรอบวันเกิด 150 ปี ของ มหาตมะคานธี ในเดือนตุลาคม ปี 2019

ย้อนไปในปี 2011 สถิติในอินเดียก็โหดจริงๆ ครัวเรือนตามชนบทแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่มีส้วม การขี้กลางถนนแพร่หลายมากๆ ระดับที่มีการประเมินว่าคนอินเดียกว่า 600 ล้านคนขี้กลางถนนเป็นปกติ และก็คงไม่ต้องบอกว่านี่มันเยอะกว่าชาติใดในโลก

ที่โหดกว่านั้นคือถ้าย้อนไปในปี 1981 ครัวเรือนอินเดียตามชนบทมีส้วมแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หรือในทางปฏิบัติก็คือไม่มีเลย คนยังต้องไปขี้กลางป่า กลางทุ่ง ลงแม่น้ำลำคลองล้วนๆ

ดังนั้นพูดง่ายๆ การมีส้วม 1 ใน 3 ครัวเรือนในปี 2011 นี่คือพัฒนามากแล้ว

แน่นอนว่ารัฐบาลกลางของอินเดียก็ไม่ได้ภูมิใจและพอใจในสถานะแบบนี้อีกแล้วในศตวรรษที่ 21 เพราะนั่นทั้งดูไม่ดีเลยในการท่องเที่ยว และเป็นภาระทางสาธารณสุข มันก็เลยเกิดโครงการอินเดียสะอาด’ (ชื่อทางการภาษาฮินดีผสมอังกฤษคือ Swachh Bharat Mission) ขึ้นในปี 2014 ซึ่งเฟสแรก เป้าหมายคือจะทำให้การขี้กลางถนนหมดไปจากอินเดียให้ทันครบรอบ 150 ปีวันเกิดของ มหาตมะ คานธี หรือพูดง่ายๆ คือพยายามจะทำให้คนอินเดียทั้งหมดเลิกขี้กลางแจ้งภายในเวลา 5 ปี

สิ่งที่เขาทำคืออะไร? ก็ไม่ได้ต่างจากที่ไทยทำเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้วเท่าไร เขาสร้างส้วมสาธารณะ สนับสนุนให้ทุกครัวเรือนต้องมีส้วม แต่เท่านั้นยังไม่พอ เขายังไล่ตี’ (ตามสไตล์ตำรวจอินเดีย) พวกที่แอบไปขี้ในที่สาธารณะ และมีการขู่จะตัดสวัสดิการรัฐด้วย

ผลรวมๆ ก็คือมีส้วมกว่า 100 ล้านแห่งถูกสร้างขึ้นในโครงการนี้ และทำให้ในทางปฏิบัติคนอินเดียในทุกรัฐมีส้วมใช้หมดแล้วแม้แต่ในชนบทห่างไกล และทั้งหมดก็ทำให้นายกฯ โมดีออกมายืดอกประกาศอย่างภาคภูมิใจในวันครบรอบวันเกิด 150 ปี มหาตมะ คานธี ว่า ณ ตอนนี้ ไม่มีคนอินเดียที่ยังขี้กลางถนนเหลืออยู่อีกแล้ว

ดังนั้น ถ้าเราเชื่อโมดี อินเดียที่เราเคยรู้จักและคุ้นเลยในอดีตที่เดินๆ อยู่ก็จะเห็นคนนั่งขี้ หรือนั่งรถไฟก็จะเห็นคนนั่งขี้ริมทางแล้วโบกมือให้ ก็ย่อมไม่มีเหลือแล้วถ้าเราไปเที่ยวอินเดียหลังการระบาดของโควิดจบลง

แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

แน่นอนรัฐบาลกลางอินเดียเคลมแบบนี้ องค์การอนามัยโลกลงไปสำรวจก็พบว่าคนอินเดียถึง 94 เปอร์เซ็นต์นั้นก็ใช้ส้วมเป็นปกติ

แต่ถ้ามองในเชิงวัฒนธรรม นี่เป็นเรื่องน่ากังขาอยู่

เพราะไม่น่าจะมีชาติใดในโลกที่ทำให้คนเลิกขี้กลางถนนได้ภายในเวลา 10 ปีด้วยซ้ำ (ขนาดจีนยังทำไม่ได้) แต่อินเดียเคลมว่าตัวเองทำได้ในเวลา 5 ปี ดังนั้น ดูจากกรอบเวลามันไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นไปได้ เพราะสุดท้าย ประวัติศาสตร์สังคมมนุษย์ก็สอนเราว่าคนไม่ได้เปลี่ยนนิสัยหรือกระทั่งเปลี่ยนวัฒนธรรมกันง่ายและเร็วขนาดนั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือยังมีความเป็นไปได้สูงว่าถึงมีส้วม ก็จะมีคนเลือกไม่ใช้เพราะชอบบรรยากาศของการไปขี้ในที่โล่งแจ้งแบบเดิมๆ มากกว่า

ที่โหดกว่านั้นก็คือ มีคนที่ยังเชื่อว่าการไปขี้ในที่สาธารณะมันสะอาดกว่าการขี้ที่บ้าน หรือถ้าเป็นในระดับส้วมสาธารณะ คนอินเดียในวรรณะสูงก็จะไม่อยากใช้ เพราะเข้าไปมันอาจทำให้เขาต้องสัมผัสขี้ของพวกวรรณะต่ำกว่าโดยเฉพาะพวกจัณฑาล

แต่ก็นั่นเอง กลุ่มคนที่น่าจะดีใจระดับไชโยโห่ร้องที่สุดที่สังคมอินเดียเต็มไปด้วยส้วมก็น่าจะเป็นผู้หญิงอินเดียตามชนบท เพราะสำหรับพวกเธอ การที่ในบ้านไม่มีส้วมให้ใช้ และพวกเธอต้องไปขับถ่ายนอกบ้าน มันทำให้พวกเธอต้องไปเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางเพศด้วย เพราะพวกนักข่มขืนในอินเดียชอบดักข่มขืนผู้หญิงที่ไปทำธุระส่วนตัวในตอนกลางคืน

และที่ตลกคือ ประเด็นเรื่องว่าในบ้านอินเดียควรจะมีส้วมหรือไม่คือประเด็นของหนังตลกอินเดียที่ทำเงินกระจุยกระจายในปี 2017 อย่าง Toilet: Ek Prem Katha (มีใน Netflix ถ้าใครอยากดู) และถ้าเราอยากรู้ว่าคนอินเดียคิดยังไงกับโครงการที่รัฐบาลกลางไปไล่สร้างส้วมเพื่อให้คนอินเดียยุติการไปขี้กลางแจ้ง หนังเรื่องนี้ก็เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่ดี เพราะมันออกมาตอนช่วงโครงการกำลังพีคๆ พอดีเลย

อ้างอิง