ขึ้นคานแล้วไง ใครแคร์

1 Min
521 Views
04 Jan 2021

“ขึ้นคาน”

“หญิงเหล็ก” (เซิ่งหนี่ว์ – 剩女)

“เค้กคริสต์มาส” (Christmas Cake)

สามคำนี้เมื่อแปลออกมาแล้ว ได้ออกมาความหมายเดียว นั่นคือเป็นคำที่เอาไว้เรียกสาวๆ ที่เลยวัยแต่งงานไปแล้ว โดย “หญิงเหล็ก” คือคำที่คนจีนเอาไว้เรียกสาวๆ ที่มีความแข็งแกร่งอยู่รอดด้วยตัวเองได้ “เค้กคริสต์มาส” เป็นคำเปรียบเทียบของชาวญี่ปุ่น ระหว่างสาวๆ กับเค้กในวันหยุด ที่ไม่สามารถขายได้หลังจากวันที่ 25 ธันวาคม (ถ้าเป็นคนของไทยก็ต้องเป็นปีใหม่) แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนหมายถึงเรื่องเดียวกันคือ “ขายไม่ออก”

แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงทุกคน เพราะปัจจุบันนี้ก็มีสาวๆ หลายคนที่ตั้งใจ และจงใจให้ตัวเองขายไม่ออก ซึ่งประเด็นนี้เราไม่ได้ยกเมฆมาพูด เพื่อต้องการเข้าข้างสาวๆ แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะข้อมูลจาก Asia Research Institute ต่างหากที่ได้ระบุไว้ว่า อัตราการครองโสดของสาวเอเชียเพิ่มขึ้น โดยประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการครองโสดเยอะที่สุดอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ และไทยรองลงมาอยู่ที่ 33 เปอร์เซ็นต์

อัตราความโสดที่เพิ่มขึ้น ก็ได้เพิ่มจำนวนคนเหงาให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งขนาดตลาดของอัตราคนเหงานี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีอย่างเห็นได้ชัด และสอดคล้องกันกับหลักการตลาดของ Philip Kotler ในหนังสือ Marketing 4.0 ที่ได้พูดถึงบทบาทของผู้หญิง กำลังมีอิทธิพลมากขึ้นทั้งในบ้านและที่ทำงาน ผู้หญิงจะกลายเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในระบบเศรษฐกิจยุคปัจจุบันได้

โดยลักษณะนิสัยของผู้หญิงส่วนมาก เป็นคนชอบหาข้อมูล บ่อยครั้งที่ตัดสินใจว่าซื้อแต่สุดท้ายก็ย้อนกลับไปหาข้อมูลใหม่ เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และนอกจากการหาข้อมูลแล้ว ผู้หญิงยังชอบพูดคุยเรื่องแบรนด์มากกว่าอีกด้วย โดยมักสอบถามจากเพื่อนๆ หรือ คนรอบตัว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาแบรนด์และเหล่านักการตลาด

ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโสดมากขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ที่การเลือกอยู่ตัวคนเดียวทำให้จับจ่ายใช้คล่องมากกว่า หรือจะเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ ที่แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเป็นโสดก็ไม่ได้ทำร้ายใคร และถ้าหากเราโอเคที่จะเป็นโสด การขึ้นคานก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรแต่อย่างใด

แต่หากจะเป็นโสดทั้งทีก็อย่าลืมดูแลสุขภาพการเงินและสุขภาพใจให้ปลอดภัยตลอดรอดฝั่งก็เพียงพอแล้วล่ะ

อ้างอิง