2 Min

อยากช่วยโลก? กินหนอน-แมลงอาจเป็นทางออก

2 Min
1050 Views
27 May 2021

อย่างที่เราทราบกันดีว่าโลกเราเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอาหารอย่างหนักหน่วง มีกิจกรรมของมนุษย์มากมายที่ส่งผลให้มันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือปศุสัตว์ เพราะการเลี้ยงหมูหรือวัวเนื้อให้ออกมายอดเยี่ยมดีต่อการบริโภคนั้นใช้ทั้งพื้นที่และปริมาณอาหารมาก การปศุสัตว์ปล่อยก๊าซมีเทนปริมาณมากและทำให้พื้นที่ป่าลดลง โดยมากกว่าครึ่งของก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมอาหารมาจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์

เราไม่ได้กำลังจะบอกให้คุณเลิกกินเนื้อแน่นอนในบทความนี้ แต่ในระยะหลังมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องการลดปริมาณการบริโภคสัตว์ใหญ่จากฟาร์ม แต่ก็ยังต้องการโปรตีนและไขมันดีๆ จากสัตว์อยู่ ทำให้มีข้อเสนอเรื่องโปรตีนชั้นเยี่ยมใหม่ๆ ซึ่งก็คือ กินหนอน และแมลง แทน

งานวิจัยจากประเทศสวิสเซอร์และเยอรมนีระบุว่าการกินแมลงอาจส่งผลอย่างมากต่อการลดคาร์บอนในปัจจุบัน แมลงหลายชนิดสามารถกินได้และให้สามารถอาหารที่ดี (เรื่องนี้เชื่อว่าสำหรับคนไทยคงไม่ได้น่าแปลกอะไร) การเพาะแมลงใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยกว่าวัวหรือแกะอย่างแน่นอน นอกจากนี้มันยังมีวงจรชีวิตที่สั้นกว่า

มีการเปิดเผยข้อมูลการเลี้ยงจิ้งหรีดกับเนื้อวัว ในขนาด 1 กิโลกรัม พบว่าเพื่อให้ได้เนื้อวัว 1 กิโลกรัมต้องใช้ปริมาณถึง 8 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับจิ้งหรีดที่ต้องการปริมาณอาหารเพียง 1.2 กิโลกรัม และมีเนื้อให้บริโภคมากถึง 80% ของขนาดตัว นับว่าใช้ทรัพยากรน้อยกว่ากันมากดังนั้นมันจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีในอนาคต

ที่สำคัญคือมันมีคุณค่าทางโภชนาการทั้งโปรตีนและไขมัน โดยแมลงในแต่ละชนิดจะให้สารอาหารที่แตกต่างกันออกไป เหมือนกับความต่างที่เรากินเนื้อวัน แกะ หรือหมู โดยที่ในแมลงมีเปลือกดิบ 100 กรัมให้พลังงานราว 90-150 กิโลแคลอรีและมีโปรตีนสูง ในขณะที่หนอนให้ปริมาณไขมันที่สูงกว่า โดยมีไขมันถึง 20 กรัมเมื่อเทียบกับจิ้งหรีดที่มีไขมันราว 4-12 กรัม ต่อ 100 กรัมเท่านั้น

 

| food-safety

 

การกินแมลงเป็นทางเลือกนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ มันถูกเสนอขึ้นมาตั้งแต่ปี 2013 และทางสหภาพยุโรป (EU) ก็ได้มีการอนุมัติให้สามารถเพาะเลี้ยงหนอนและแมลงที่กินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับองค์การอาหารและการเกษตร (FAO) พร้อมระบุชนิดแมลงที่สามารถกินได้มากกว่า 2 พันชนิด

ปัจจุบันการกินหนอนและแมลงเริ่มเปิดตลาดในยุโรปในฐานะอาหารแห่งความยั่งยืน แม้จะยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากมายนักแต่ผู้คนเริ่มเปิดใจให้กับแมลงมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลางกรุงลอนดอนเป็นที่ตั้งจองบริษัท Entocycle ซึ่งส่งออกหนอนแมลงวันแปรรูปไปทั่วโลก โดยเลือกสายพันธุ์แมลงวันลายที่มีขนาดใหญ่กว่าแมลงวันปกติ และมันยังช่วยกินขยะของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย

วัฒนธรรมการกินแมลงใช่เรื่องใหม่มากมายในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยเองก็กินแมลงและหนอนกันมายาวนาน แม้ว่าวัฒนธรรมการกินสมัยใหม่จะทำให้มันขาดช่วงไปบ้าง แต่ในอนาคตการกินแมลงอาจกลับมาเป็นวัฒนธรรมร่วมได้เมื่อมันสามารถสร้างโปรตีนและไขมันให้กับเราได้โดยใช้ทรัพยากรและพื้นที่น้อยกว่าเดิมมาก

คุณล่ะ ชอบกินแมลงไหม แล้วคิดยังไงกับการการกินแมลงเพื่อความยั่งยืน

อ้างอิง:

  • The Guardian. Would you eat insects to save the planet from global warming? > https://bit.ly/2RGPyCf
  • The Guardian. If we want to save the planet, the future of food is insects> https://bit.ly/3y4DjQD
  • คมชัดลึก. ‘แมลง’ อาหารแห่งอนาคต!? . https://bit.ly/3y4iDYY
  • BBC. โลกร้อน : ภาวะโลกร้อนเกี่ยวกับอาหารที่เรากินอย่างไร. https://bbc.in/3uEHv7x