ไม่ไหวก็แค่ร้องออกมา จะมีน้ำตาบ้างก็ได้ ในเมื่อนี่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์
ทำไมชีวิตมันต้องเหนื่อยยากขนาดนี้?
ทั้งการทำงานที่ต้องเจอกับปัญหาล้านแปด ลูกค้าเรื่องมาก เพื่อนร่วมงานก็ห่วย
ทั้งการต่อสู้กับความรู้สึกภายในตัวเองที่คิดว่า ไม่เก่งสักที ไม่ดีพอสักอย่าง จนหาความสุขไม่เจอ
ทั้งการดีลกับปัญหาความสัมพันธ์ที่บางทีก็ผิดใจกันไม่รู้กี่รอบ ทะเลาะกันจนนับครั้งไม่ไหว
ไหนจะหมดพลังไปกับการเดินทางที่ไม่เฮลตี้กับร่างกายอีก จนหลายครั้งก็รู้สึกท้อ
เมื่อคนเราอยู่ในสภาวะที่ราวกับถูกบีบคั้นอยู่ตลอดเวลา คงไม่แปลกที่บางคนจะมี ‘น้ำตา’ ออกมาบ้าง แต่อย่าเข้าใจผิดว่า การร้องไห้ = คุณกำลังอ่อนแอ
การร้องไห้ ไม่ใช่สัญลักษณ์แห่งความอ่อนแออย่างที่ใครคิด
การร้องไห้ ไม่ใช่สิ่งสะท้อนว่าเราเป็นเด็กขี้แยที่ยังไม่โต
การร้องไห้ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เก่ง หรือไม่มีประสิทธิภาพ
คุณแค่กำลังอยู่ในสภาวะที่อ่อนไหว
แม้คนเรามักถูกสอนว่า “โตแล้วต้องไม่ร้องไห้” แต่น้ำตา อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของเราที่สุดแล้วก็ได้ นอกจากนี้คำสอนนั้นยังอาจขัดกับหลักการทำงานของระบบน้ำตาของร่างกายเสียอีก
เพราะปกติแล้วน้ำตาจะถูกผลิตออกมาเมื่อดวงตาเกิดการระคายเคือง ร่างกายจึงผลิตน้ำตาขึ้นมาเพื่อชะล้างอาการระคายเคืองให้หมดไป หรือแม้กระทั่งน้ำตาที่เกิดจากความรู้สึก ก็เป็นน้ำตาที่ประกอบด้วยสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
ดังนั้น น้ำตาและการร้องไห้ ไม่มีสิ่งไหนที่แสดงถึงความอ่อนแอเลย แต่กลับเป็นเครื่องช่วยเยียวยาเราจากความเจ็บปวด และการระคายเคืองด้วยซ้ำไป
อย่าได้กลัวที่จะร้องไห้ออกมา คนเราอ่อนไหวได้ หรือแม้กระทั่งจะอ่อนแอบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไร ในเมื่อความเข้มแข็งไม่ได้หายไปไหน มันรอให้เราพร้อมกลับไปหาได้เสมอ
อ้างอิง
- ระบบการสร้างน้ำตาและทางระบายน้ำตาทำงานผิดปกติ
https://bit.ly/3MNKxSm