ชวนดูปรากฏการณ์ ‘กินหมาล่าทุกวันก็ยังไหว’ ความเผ็ดแต่ไม่เผ็ดแบบเมนูอื่นในไทย แถมจัดจ้านครบรสถึงใจใครหลายๆ คน
1 – นาทีนี้ถ้าพูดถึงอาหารที่ฮอตฮิตในไทยคงต้องยกให้ ‘หมาล่า’ เป็นนัมเบอร์วัน เห็นได้ชัดจากร้านหมาล่าที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และมีร้านดังที่คนยอมต่อแถวยาวเหยียดหลายชั่วโมง โดยในปี 2566 นี้คาดว่าภาพรวมของตลาดจะโตถึง 4.5 เปอร์เซ็นต์ โดยสร้างมูลค่ารวมกว่า 425,000 ล้านบาท
ประกอบกับหลายปีที่ผ่านมานี้มีนักธุรกิจชาวจีนมาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งในประเทศจีนก็ถือว่าเป็นยุคทองของร้านหม้อไฟ สังเกตได้จากในปี 2565 มีจำนวนร้านหม้อไฟเพิ่มขึ้นในจีนสูงถึง 269,080 ร้าน จึงเกิดการนำเข้าวัฒนธรรมการกินหม้อไฟเข้ามาเปิดกิจการในไทยด้วย
2 – โดยรสชาติของหม้อไฟจีนที่มีซุปหมาล่าเป็นตัวชูโรงนั้น ก็ดันไปถูกจริตกับการกินของคนไทยที่นิยมใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และในอาหารไทยเองก็มีรสชาติครบเครื่อง ทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ไปจนถึงรสชาติขม ทำให้คนไทยเคยชินกับการบริโภคอาหารหลากหลายรสชาติ
โดยจะมีความใกล้เคียงกับรสชาติของ ‘ฮวาเจียว’ (花椒 huājiāo) ที่เป็นเครื่องเทศหลักในหมาล่า ซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มาพร้อมกับรสชาติเผ็ดๆ ชาๆ ประกอบกับน้ำจิ้มที่เป็นรสชาติแปลกใหม่และมีส่วนผสมมากมาย เปิดโอกาสให้ได้ลอง DIY น้ำจิ้มในสไตล์ของตัวเอง จึงยิ่งถูกปากคนไทยเข้าไปใหญ่
อีกเหตุผลหนึ่งมาจากพลัง soft power ของซีรีส์จีน ที่เข้ามาตีตลาดอย่างหนักหน่วง มีการปรับเนื้อหาให้ร่วมสมัย และฉายในแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งที่คนไทยเข้าถึงได้ เช่น Netflix, WeTV และ iQIYI จึงทำให้วัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่เริ่มเข้ามานั่งในใจคนไทยมากขึ้น
3 – ซึ่งถ้ามองย้อนไปในช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา หมาล่าก็ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก จากการสำรวจ Social Data ผ่าน Social Listening Tools และฟีเจอร์ต่างๆ พบว่าเสน่ห์ที่ทำให้คนตกหลุมรักหมาล่ากว่า 46.9 เปอร์เซ็นต์ คือน้ำจิ้มที่อร่อย รองลงมาคือเรื่องของวัตถุดิบ และน้ำซุปตามลำดับ สอดคล้องกับรสนิยมการกินอาหารของคนไทย
ส่วนประเภทหมาล่าที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากถึง 42 เปอร์เซ็นต์ คงหนีไม่พ้นหมาล่าสายพาน ตามด้วยหม้อไฟ และชาบูตามลำดับ และแน่นอนว่าร้านหมาล่ายอดนิยมที่คนพูดถึงมากที่สุดถึง 47.1 เปอร์เซ็นต์ ต้องเป็น ‘ร้านสุกี้จินดา’ ชาบูหมาล่าเสียบไม้ในรูปแบบสายพานเจ้าแรกๆ ที่เป็นฝีมือคนไทย ที่ไม่ว่าจะเปิดใหม่อีกกี่สาขา คนก็ต่อแถวรอกินเพียบ
4 – ด้วยความที่ร้านหมาล่าฮอตฮิตติดลมบนขนาดนี้ จึงช่วยฟื้นฟูธุรกิจร้านอาหารที่เคยซบเซาจากวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาให้เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้เล่นกระโจนเข้ามาในสนามนี้อีกมากมาย เช่น ร้านสู่ต้าเสีย, Hotpot Man, สุกี้หลินหลิน ฯลฯ ซึ่งถือเป็นความท้าทายในการแข่งขันของธุรกิจร้านหมาล่า ที่ถ้าใครจับจุดได้ก่อน และจับจุดได้อย่างถูกทางก็น่าจะเติบโตได้อย่างสวยงามในสนามนี้
อ้างอิง:
- ส่องกระแส “หม้อไฟหม่าล่า” “เผ็ดลิ้นชา” มาแรงทั่วไทย https://tinyurl.com/nhpk742c
- ทำไม ธุรกิจ “ร้านหม้อไฟจีน” ถึงกำลังมาแรง ในบ้านเรา? https://tinyurl.com/2p4wsnzu
- เจาะธุรกิจหมาล่า https://tinyurl.com/24mm256u