เปิดตำนานคุกกี้กล่องแดง ‘อิมพีเรียลและอาร์เซนอล’ ทำไมถึงเป็นของขวัญยอดฮิตในช่วงปีใหม่ และกล่องเอามาใช้ใส่เข็มกับด้ายเหมือนกันทั่วโลก
1 – ใกล้สิ้นปีแบบนี้ถือเป็นช่วงเทศกาลที่คนออกไปเฉลิมฉลองกันเป็นจำนวนมาก และที่ขาดไม่ได้คือการมอบของขวัญช่วงสิ้นปีให้กับญาติผู้ใหญ่หรือคนที่เรารัก และหนึ่งในของขวัญที่เห็นได้ในทุกปีคงหนีไม่พ้นคุกกี้กล่องสีแดงอย่าง ‘อิมพีเรียลและอาร์เซนอล’
ส่วนเหตุผลที่ทำให้คุกกี้สองยี่ห้อนี้กลายเป็นของขวัญช่วงปีใหม่ ต้องย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในปี 1933 มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง คือแอนนา (Anna) และ มารินัส เกลเซน(Marinus Kjeldsen) ได้เปิดร้านเบเกอรีเล็กๆ ชื่อว่า Kjeldsens ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Norre Snede ประเทศเดนมาร์ก และจะทำเป็นบัตเตอร์คุกกี้ที่ทำขึ้นจากเนยธรรมชาติมาขายในช่วงคริสต์มาส พร้อมขายให้กับคนในราชวงศ์เท่านั้น
แต่ความอร่อยก็เป็นที่เลื่องลือจนผู้คนอยากลิ้มลองกันบ้าง ทำให้ทางร้านผลิตคุกกี้ออกมาขายให้ทุกคนได้ชิม และวางขายทุกช่วงเวลาไม่ใช่แค่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น กลายเป็นว่าคุกกี้นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ในช่วงนั้นสามารถส่งออกคุกกี้ไปใน 130 ประเทศทั่วโลก
2 – ซึ่งการที่ต้องส่งออกคุกกี้ไปในหลายประเทศ ทำให้บรรจุภัณฑ์ต้องเป็นกล่องเหล็กวงกลมที่มีความคงทน ลดแรงกระแทกได้ดี และช่วยป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไป เพื่อคงความสดใหม่ของคุกกี้ไว้ได้ พร้อมมีกระดาษชิ้นเล็กๆ ห่อคุกกี้ไว้เพื่อป้องไม่ให้แตกหักง่าย
ทำให้ในสมัยก่อนต้องนำเข้าบัตเตอร์คุกกี้เข้ามา จึงมีราคาที่สูง ประกอบกับภาพลักษณ์ที่เป็นกล่องเหล็ก ดูพรีเมียม คนเลยนิยมให้เป็นของขวัญกัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่
3 – ก่อนที่ในปี 2528 จะมีบริษัทผู้ผลิตสินค้าไทยซื้อลิขสิทธิ์สูตรและส่วนผสมมาผลิตในประเทศ โดยมี 2 ยี่ห้อยอดฮิตอย่าง ‘อิมพีเรียล’ ที่ผลิตโดยบริษัท KCG Concept จำกัด และ ‘อาร์เซนอล’ ที่ผลิตโดยบริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด
โดยคอนเซ็ปต์หลักของสองยี่ห้อนี้จะคล้ายกับคุกกี้ต้นตำรับจากเดนมาร์ก ทั้งความเป็นเอกลักษณ์ของสูตร รูปทรงของคุกกี้และรูปลักษณ์ของกล่องใส่คุกกี้ แต่แตกต่างกันตรงที่อิมพีเรียลหน้ากล่องจะเป็นรูปทหารเดนมาร์ก แต่อาร์เซนอลจะใช้รูปทหารอังกฤษ พร้อมมีรูปหอนาฬิกา Big Ben อยู่ด้วย
4 – ถึงแม้ปัจจุบันบัตเตอร์คุกกี้จะหาซื้อง่ายและมีราคาที่จับต้องได้ จนบางคนอาจจะไม่อยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ ไม่อยากได้ในตอนที่จับฉลากของขวัญ หรือกินบ่อยจนเอากล่องไปใส่เข็มกับด้ายได้หลายกล่องแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่แม่ๆ ทั่วโลกทำตามกันโดยไม่ได้นัดหมาย โดยยืนยันได้จากมีผู้ใช้ Reddit ได้เปิดลิสต์ว่ามีผู้คนตั้งแต่อเมริกาเหนือจรดใต้ ไปจนถึงยุโรปจรดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เก็บเข็มกับด้ายไว้ในกล่องคุกกี้
วัฒนธรรมที่แผร่หลายนี้ก็ได้อานิสงส์มาจากการที่แม่บ้านทั่วโลกมีโอกาสได้รับบัตเตอร์คุกกี้ในกล่องเหล็กเป็นของขวัญ ประกอบกับในช่วงนั้นไม่ค่อยมีร้านขายกล่องพลาสติกหรือกล่องเก็บของมากนัก พอเจอบรรจุภัณฑ์อะไรที่ดูแข็งแรง ก็จับมาล้างทำความสะอาดใส่ของกันทั้งนั้น
และยิ่งกล่องเหล็กใส่คุกกี้ที่มักมีลักษณะเป็นทรงกลม เข้ากับหลอดด้ายที่เป็นทรงกลมเหมือนกันและกล่องยังเป็นทรงสูง ทำให้พอเหมาะกับการเก็บกล่องเข็มกับด้ายในแนวตั้งแล้วยังเหลือที่เก็บหลอดด้ายซ้อนทับกันได้อีก แต่ทุกวันนี้จะเห็นว่าผู้คนที่เย็บผ้า ซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ชำรุดเองลดน้อยลงมาก ทำให้พฤติกรรมการเก็บอุปกรณ์เย็บผ้าไว้ในกล่องคุกกี้จะพบได้ในรุ่นแม่เป็นส่วนใหญ่
แต่อย่างไรก็ตาม บัตเตอร์คุกกี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของกินจากในอดีตที่ถูกส่งต่อมายังปัจจุบัน แต่ยังเป็นตำนานทั้งประวัติศาสตร์การกำเนิดคุกกี้ ที่ทำให้กลายเป็นของขวัญยอดนิยมในช่วงปีใหม่ และก่อเกิดวัฒนธรรมการเก็บเข็มและด้ายไว้ในกล่องคุกกี้ที่มีให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
อ้างอิง:
- In Europe, the history of cookies as a dessert dates back to ancient times preceding even the written word. https://tinyurl.com/32c49dyc
- รู้จักกับประวัติของคุกกี้กล่องแดงในตำนาน ‘อิมพีเรียล’ https://tinyurl.com/3pmxdnj2
- Sewing Kits, Umbilical Cords, and Mold: Here’s What You Keep in Royal Dansk Tins https://tinyurl.com/2365awyk