‘เฮลซ์บลูบอย’ แบรนด์ที่ไม่หวือหวา แต่หวานชื่น รื่นรมย์ มานานกว่า 64 ปี และฟันกำไรได้ถึงพันล้าน
Select Paragraph To Read
- 1 - ‘เฮลซ์บลูบอย’ แบรนด์ที่หวานชื่นรื่นรมย์มานานถึง 64 ปี
- 2 - ยืนหนึ่งในตลาดน้ำหวาน ด้วยภาพจำที่ชัดเจน
- 3 - น้ำหวานที่ต้องมีติดบ้าน แถมเก็บไว้ได้นาน
- 4 - จากน้ำหวานในขวดแก้ว สู่การรังสรรค์ได้สารพัดเมนู
- 5 - แบรนด์น้ำหวานที่ไม่หวือหวา แต่ฟันกำไรได้ถึงพันล้าน
1 - ‘เฮลซ์บลูบอย’ แบรนด์ที่หวานชื่นรื่นรมย์มานานถึง 64 ปี
‘เฮลซ์บลูบอยหวานชื่น รื่นรมย์’ สโลแกนคุ้นหู ที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงภาพน้ำหวานสีสดใสในขวดแก้ว ที่มาพร้อมคาแรกเตอร์เด็กผู้ชายผิวเหลืองใส่หมวกยืนอยู่บนฉลาก ซึ่งภาพที่คุ้นตานี้สะท้อนให้เห็นว่าน้ำหวานเฮลซ์บลูบอย เป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนานถึง 64 ปี
โดยมีการนำเสนอภาพลักษณ์แบบเดิมที่เราคุ้นชินกัน และขายสินค้าเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง 9 รสชาติ และได้เปิดตัวรสชาติที่ 10 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ ‘กลิ่นบลูฮาวาย’ จะเห็นว่านานๆ ทีเฮลซ์บลูบอยจะออกรสชาติใหม่สักที แต่ภายใต้น้ำหวานที่เรียบง่าย ไม่หวือหวานี้กลับสร้างกำไรได้ถึงพันล้าน อะไรที่ทำให้เฮลซ์บลูบอยหวานชื่นรื่นรมย์มาได้นานขนาดนี้
2 - ยืนหนึ่งในตลาดน้ำหวาน ด้วยภาพจำที่ชัดเจน
Key Success ข้อแรกคือ การสร้างภาพจำที่ชัดเจน ที่ใครเห็นก็รู้ว่านี่แหละคือน้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์เจ้าหนูบลูบอยหรือตัวอักษรคำว่า ‘Hale’s’ ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ใครเห็นก็มักจะจำได้ และยากที่จะเลียนแบบ เพราะฟอนต์นี้เกิดขึ้นจากการแกะสลักบล็อกไม้ด้วยมือ ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์
3 - น้ำหวานที่ต้องมีติดบ้าน แถมเก็บไว้ได้นาน
เฮลซ์บลูบอยได้วางตัวตนในตลาดไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นน้ำหวานเข้มข้น ซึ่งถือว่าเป็นสารตั้งต้นวัตถุดิบ เพื่อให้ความหวาน จึงแตกต่างจากเครื่องดื่มสำเร็จรูปทั่วไป และตั้งใจไว้ว่าจะให้เฮลซ์บลูบอยเป็นสินค้าสำหรับครัวเรือน ที่ทุกคนต้องมีติดบ้านไว้ จึงเน้นขายสินค้าดี ในราคาที่ไม่แพง
แถมยังทำมาให้เก็บไว้ได้นาน เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่าซื้อมาแล้วคุ้มค่า ชงดื่มได้ยาวๆ โดยสิ่งที่คงความอร่อยไว้ได้นานคือ การเลือกใช้น้ำตาลคุณภาพดีในการผลิตน้ำหวาน และการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วซึ่งจะช่วยยืดอายุน้ำหวานให้อยู่ได้นานถึง 2-5 ปี ซึ่งต่างจากขวดพลาสติก ที่จะทำให้มีอายุเพียง 1 ปี ก่อนที่รสชาติจะเริ่มเพี้ยน
4 - จากน้ำหวานในขวดแก้ว สู่การรังสรรค์ได้สารพัดเมนู
นอกจากเฮลซ์บลูบอยจะเป็นน้ำหวานที่หลายบ้านมีติดครัวไว้แล้ว ยังเป็นน้ำหวานที่ร้านอาหารและคาเฟ่หลายๆ ร้านเลือกใช้ เพื่อนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม อย่างนมชมพูหรือนมเย็น และน้ำแดงมะนาวโซดา รวมไปถึงเมนูของหวานอย่างน้ำแข็งไส พุดดิ้ง และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย นั่นยิ่งทำให้เฮลซ์บลูบอยขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
5 - แบรนด์น้ำหวานที่ไม่หวือหวา แต่ฟันกำไรได้ถึงพันล้าน
เฮลซ์บลูบอยไม่ได้ทำการตลาดอะไรที่หวือหวา หรืออัดงบมหาศาลเพื่อทำแคมเปญโฆษณา แต่กลับทำกำไรปีหนึ่งได้ถึงพันล้าน โดยมีกำไรเติบโตเฉลี่ยถึง 54 เปอร์เซ็นต์ และครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากถึง 55 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งความเรียบง่ายนี้สามารถตีตลาดครองใจผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งถ้าคนไทยในต่างแดนคิดถึงรสชาติน้ำหวานที่คุ้นเคยเมื่อไหร่ แค่เดินเข้าไปร้ายขายของสำหรับชาวเอเชีย ก็สามารถหาซื้อเฮลซ์บลูบอยได้
ถึงแม้ในปัจจุบันตลาดน้ำหวานจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามากมาย แต่ก็ยังไม่มีแบรนด์ไหนที่สามารถโค่นแบรนด์ในตำนานอย่างเฮลซ์บลูบอยได้ ด้วย Key Success ทั้งหมดที่เล่ามา และการรักษามาตรฐาน ทั้งขวด โลโก้ และรสชาติ ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเปลี่ยนใจจากเฮลซ์บลูบอยได้เลย
อ้างอิง:
- จากโชห่วยสู่น้ำหวานคู่ไทย ตำนาน 64 ปี ‘เฮลซ์บลูบอย’ การตลาดไม่หวือหวา แต่กำไรพันล้าน https://tinyurl.com/yeyjsw6h
- ทำไมเฮลซ์บลูบอย “หวานชื่นรื่นรมย์” ถึงเป็นน้ำหวานเบอร์ 1 ตลอดกาล? https://tinyurl.com/2pxcznfj
- เฮลซ์บลูบอย น้ำหวานบ้านๆ กำไรพันล้าน https://tinyurl.com/2rjwyvwk