ฮันนี่แบดเจอร์ สัตว์ที่ Guinness World Records เคยจารึกไว้ว่า “ห้าว” ที่สุดในโลก
ในโลกนี้มีการจัดอันดับสัตว์ต่างๆ หลายแบบ แต่การจัดอันดับที่เพี้ยนที่สุดอย่างหนึ่งคือการจัดอันดับ สัตว์ที่ ‘ห้าว’ ที่สุดในโลก หรือให้ตรงกว่านั้นก็คือสัตว์ที่ ‘ไร้ความกลัว’ ที่สุดในโลก
ซึ่งที่เพี้ยนก็เพราะในทางปฏิบัติ เรายากจะรู้ได้ว่าสัตว์มัน ‘กลัว’ หรือไม่ (มันไม่มีเกณฑ์วัด) และสัตว์หลายๆ ชนิดที่ระบบประสาทไม่ได้พัฒนาไปมาก มันก็อาจ ‘ไม่มีความรู้สึกกลัว’ ด้วยซ้ำ
แต่ทั้งๆ ที่มัน ‘วัดไม่ได้’ ก็ยังมีสัตว์ชนิดหนึ่งในโลกที่ Guinness World Records เคยจารึกไว้ว่า ‘ห้าว’ หรือ ‘ไร้ความกลัว’ ที่สุดในโลก และสัตว์ชนิดนั้นก็คือสัตว์ที่เรียกว่า ฮันนี่แบดเจอร์ (Honey Badger)
ฮันนี่แบดเจอร์ไม่ใช่สัตว์ที่คนไทยคุ้นเคยเท่าไร แต่ถ้าจะหาเอาสัตว์ที่สายพันธุ์ใกล้เคียงที่สุดที่คนไทยคุ้นหน่อย มันถือว่าเป็นสายพันธุ์ใกล้กับตัวนาก แบดเจอร์ และวูฟเวอรีน (พวกนี้อยู่ในวงศ์เพียงพอนเหมือนกัน – คนละตระกูลกับวงศ์พังพอนนะ) และเอาจริงๆ หน้าตาและโครงสร้างมันคล้ายกับวูฟเวอรีนมาก เพียงแต่ญาติห่างๆ ของมันนี้อยู่คนละทวีปกันเท่านั้นเอง (ฮันนี่แบดเจอร์อยู่ในแอฟริกา ส่วนวูฟเวอรีนอยู่ในอเมริกาเหนือ)
แต่ก็จะลงลึกเลยเถิดไปในรายละเอียดในการจัดประเภททางชีววิทยาไปมากกว่านี้ เรามาตอบคำถามที่ท่านผู้อ่านก็คงอยากรู้ดีกว่าว่าทำไมเจ้าฮันนี่แบดเจอร์ ถึงเป็นสัตว์ที่ไร้ความกลัวที่สุด
คำตอบง่ายๆ คือ มันเป็นสัตว์ที่ ‘กล้าชน’ กับสัตว์แทบทุกชนิดในแอฟริกาทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ขนาดพอกับหมาบ้าน (ลำตัวมันยาวราว 60 ซม. และหนักประมาณ 10-15 กก.) เรียกได้ว่าแม้ว่าจะตัวแค่นี้ แต่ถ้าลองมันได้เผชิญหน้ากับ ‘เจ้าป่า’ อย่างสิงโตที่ตัวใหญ่กว่ามันไม่รู้กี่เท่า มันก็กล้าสู้ ไม่หนี แล้วก็ไม่ถูกกินด้วย
อะไรมันจะห้าวขนาดนั้น และอะไรทำให้มันห้าวแบบนั้น?
คำตอบคือ เพราะ ‘พลังป้องกัน’ ของมันสูงมากๆ มันเป็นสัตว์ที่หนังหนาสุดๆ (ภาษาเกมก็ต้องเรียก ‘สายแทงค์’) หนาระดับที่อย่าว่าแต่เขี้ยวเล็บสิงโตจะทำอะไรมันไม่ได้เลย คนเอาหอกปาใส่ เอาธนูยิง เอามีดพร้าไปสับ ก็ยังฟันแทงไม่เข้า
ซึ่งพลังป้องกันที่สุดๆ นี้ของมัน ก็ทำให้มันกล้าบ้าบิ่นมาก แบบโดนขนเม่นก็ยังชิลๆ โดนผึ้งรุมต่อยก็ไม่สนใจอะไร หรือกระทั่งโดนงูเห่าฉก มันก็ยังไม่สะท้าน เพราะมันมีภูมิต้านทานพิษงูเห่า แบบโดนกัด มันก็เพียงแต่สะลึมสะลือนอนแอ้งแม้งไปไม่กี่นาที ก็จะลุกมางัวเงียๆ ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป
และฮันนี่แบดเจอร์ก็ไม่ได้มีแค่พลังป้องกันตัวเองสูง มันยังเป็นสัตว์ที่มีเขี้ยวเล็บและกรามที่แข็งแรงสุดๆ เรียกได้ว่าในโลกนี้ก็คงจะมีสัตว์ไม่กี่ชนิดที่กินเต่าไปทั้งกระดองได้ และฮันนี่แบดเจอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น มันเคี้ยวเต่าไปได้ทั้งกระดองเลย และสัตว์ที่มันกินเข้าไปทุกชนิด มันก็กินทั้งเนื้อและกระดูก
ความแข็งแกร่งทั้งพลังป้องกันและพลังโจมตีนี้เอง ทำให้มันห้าวสุดๆ แบบที่เรียกว่าสัตว์ตัวเล็กๆ นี่ไม่ต้องพูดเลย มันกล้าสู้หมด และวันไหนมันห้าวๆ และหิว มันกล้าเข้าไปแย่งอาหารของสิงโตด้วยซ้ำ และถ้าถามว่าสิงโตไม่กล้าสู้มันเหรอ? คำตอบคือบางทีก็ไม่อยากยุ่งกับสัตว์ตัวเล็กใจใหญ่ชนิดนี้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะฆ่าสิงโตไม่ได้แน่ๆ แต่สิงโตที่เผชิญหน้ากับมันก็ต้องบาดเจ็บน่าดู โดยเฉพาะตัวผู้ เนื่องจากมีรายงานว่า มันชอบจ้องจะกัดถุงอัณฑะของสิงโตเวลาสู้กัน เรียกได้ว่าถ้าสิงโตเจอฮันนี่แบดเจอร์ อาจไม่ได้กลัวตายเลยไม่อยากสู้ แต่สิงโตกลัว ‘สูญพันธุ์’ ต่างหากก็เลยถอย
ซึ่งขนาดสิงโตยังไม่กลัว ก็ไม่แปลกเลยว่าสัตว์ตัวเล็กกว่านั้นเจ้าฮันนี่แบดเจอร์ก็ยิ่งไม่กลัวไปใหญ่ ปกติฮันนี่แบดเจอร์จะใช้เล็บอันแหลมคมของมันขุดดินอย่างคล่องแคล่วเพื่อจะทำเป็นที่นอน แต่มันก็ไม่เคยกลัวที่จะไปแย่งที่นอนสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ขุดรูนอนอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหมาจิ้งจอกหรือตัวอะไร
และจริงๆ อีกมิติของความห้าวของฮันนี่แบดเจอร์ที่เป็นตำนานก็คือ มันชอบกินรังผึ้ง แบบนึกขึ้นได้ก็ออกเดินดุ่มๆ ไปกินเลย ผึ้งจะต่อยเท่าไรไม่สน เพราะต่อยไม่เข้าอยู่แล้ว
แต่นี่ก็ยังไม่แปลกเท่าไร เพราะหมีก็ทำแบบเดียวกันนี้ (แม้ว่าเจ้าฮันนี่แบดเจอร์จะตัวเล็กกว่ามากๆ) และที่โหดสุดของมันคือมันชอบกินงูเห่า แบบกินเป็นขนมเลย ซึ่งอาวุธร้ายที่สุดของงูเห่าอย่างพิษของมันยังทำอะไรฮันนี่แบดเจอร์ไม่ได้ จึงทำให้วิธีการล่างูเห่าของฮันนี่แบดเจอร์จะไม่ใช่การหลบหลีกงูเห่าแล้วเข้างับ แต่มันจะดุ่มๆ เข้าไปงับแบบงูเห่าจะกัดหรือจะอะไรตอบมันก็ไม่สนเลย มันเห็นเป็นเพียงอาหารที่เลื้อยได้ และในทางปฏิบัติ บางทีมันกินงูเห่าไปสักพัก แล้วก็จะหลับไปเพราะพิษ ก่อนที่ในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้นมันจะสะลึมสะลือตื่นมากินต่อ
และแม้ว่ามันจะชอบกินรังผึ้งกับงูเห่า แต่จริงๆ มันเป็นสัตว์ที่กินง่ายมากๆ และกินทุกอย่างที่มันหาได้ แบบพวกรากพืชก็กิน นก หนู กบ กิ้งก่า เต่า แมลง มันกินหมด และมีรายงานด้วยซ้ำว่าถ้ามันหิวจัดๆ บางทีมันก็ขุดศพมนุษย์มากินด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า มันไม่เกรงกลัวอะไรไม่พอ มันยังไม่เลือกกินในระดับ ‘กินไม่เลือก’ อีกด้วย
และถ้าเท่านั้นยังแสบไม่พอ นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า มันเป็นสัตว์ที่ฉลาดเป็นกรดด้วย โดยมันเป็นหนึ่งในสัตว์ไม่กี่ชนิดในโลกที่เรียกได้ว่า ‘ใช้เครื่องมือ’ เป็น แบบเรียกว่าถ้าเอื้อมไม่ถึงรังผึ้งมันก็สามารถไปดันขอนไม้แถวๆ นั้นมาเป็นฐานยืนได้ และนี่ก็ยังไม่นับว่ามนุษย์เคยทดลองจับมันขังไว้ มันก็สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่นแท่งไม้ เพื่อช่วยให้มันหลุดออกมาจากที่จองจำได้อีกด้วย
คุณลักษณะทั้งหมดของฮันนี่แบดเจอร์ทำให้มันถูกมองว่าเป็นสัตว์ ‘ตัวแสบ’ ในธรรมชาติ และถึงแม้ว่ามันจะหลีกเลี่ยงในการเผชิญหน้ากับมนุษย์ แต่บางทีเวลามันหิวๆ มันก็เข้ามากินเป็ดไก่ที่มนุษย์เลี้ยงไว้เหมือนกัน และนี่ก็คงจะเป็นจุดที่มนุษย์ค้นพบว่า มันเป็นสัตว์ที่ ‘ฟันแทงไม่เข้า’ และเรียกได้ว่าน่ารำคาญมากๆ เพราะไล่ยากสุดๆ (ก็สิงโตมันยังไม่กลัว นับประสาอะไรกับมนุษย์)
อย่างไรก็ดี มนุษย์ก็คือมนุษย์ ที่สุดมนุษย์ก็ค้นพบว่าเจ้าสัตว์ที่ฟันแทงไม่เข้านี้มีจุดอ่อนอยู่ดี ก็คืออวัยวะภายใน ดังนั้นอาวุธที่ใช้ในการกำราบมันที่เหมาะสมก็คืออาวุธจำพวกกระบอง อธิบายง่ายๆ คือถึงฟันแทงไม่ตาย แต่โดนทุบไปทีก็ตายได้เหมือนกัน
และที่โหดกว่านั้นก็คือ แม้ว่าเจ้าฮันนี่แบดเจอร์จะถือว่าเป็นสัตว์ที่ ‘ห้าว’ ที่สุดในแอฟริกาหรือในโลก แต่ก็ยังไม่วายที่มันจะถูกมนุษย์จับมากิน ในแอฟริกาตลาดอาหารป่านี่ไปหาดีๆ ก็จะพบว่ามีเนื้อฮันนี่แบดเจอร์วางขาย
แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าสัตว์สุดห้าวนี้จะสูญพันธุ์หรอกนะ เพราะมันไม่ได้เข้าใกล้คำว่าสูญพันธุ์เลย ไม่ว่าจะเป็นเพราะเนื้อมันไม่ได้ถูกปากมนุษย์เท่าไร หรือจะเป็นเพราะว่าความ ‘ห้าว’ ของมันก็ได้ ที่คงสร้างความปวดกบาลให้กับมนุษย์ที่ไปล่ามันมากินไม่น้อย
ก็ไม่แปลกนัก เพราะนี่คือสัตว์ตัวขนาดเท่าหมาบ้านที่กล้าเข้าไปแย่งอาหารสิงโตเชียวนะ