ฮอนด้า แอคคอร์ด นับว่าเป็นรถยนต์จากทางฝั่ง ฮอนด้า ที่พวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเป็นรถยนต์ซีดาน ระดับตำนานที่ถูกพัฒนายาวนานกว่า 40 ปี
โดยในปัจจุบัน ฮอนด้า แอคคอร์ด ถูกจัดอยู่ในยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน และเป็นรุ่นเรือธงสำคัญของ ฮอนด้าอีกด้วย เป็นเหมือน Trusted Leader ในตลาด D-segment มาพร้อม Features ใหม่ที่ถูกเสริมขึ้นมาให้ตอบ โจทย์การขับขี่ในยุคนี้มากขึ้น
แต่ทำไม Accord ถึงเป็นรถยนต์ที่คนระดับผู้นำเลือกใช้ และมี Feature ใหม่ที่ถูกเสริมขึ้นมาอะไรบ้าง เราจะมาดูกันทีละประเด็น
1 – ต้องเล่าก่อนว่า ในปี 2021 นี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด มาในคอนเซปต์ “WHAT LEADER TRUSTS – เชื่อในเส้นทางแห่งผู้นำที่คุณเลือก” ซึ่งเราก็จะเห็นผ่าน เทคโนโลยี ดีไซน์ และ Features ต่างๆ ที่ช่วยตอกย้ำคำว่า ‘เส้นทางที่ผู้นำเลือก’ ในครั้งนี้
2 – โดยไฮไลท์สำคัญก็คือเทคโนโลยี e:HEV ที่พา ฮอนด้า แอคคอร์ด ก้าวล้ำไปอีกระดับ กับระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive ระบบ Full Hybrid ทรงพลัง
ฮอนด้า แอคคอร์ด ตัวเรือธงตัวนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ระบบ Full Hybrid เครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว มอบกําลังสูงสุด 215 PS จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัว-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง ไฟฟ้า (E-CVT) และ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดนํ้ามันที่ดีเยี่ยม 24.4 กม./ลิตร (เมื่อทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ)
ซึ่งหากมองจากปัจจัยหลายๆ อย่าง การขับเคลื่อนด้วยระบบ Full Hybrid นับว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการขับขี่ในปัจจุบัน เพราะเป็นระบบที่เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกัน และสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อย่างเดียวได้ เพราะระบบไฮบริดอัจฉริยะ สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะสม ตอบสนองทุกการขับขี่ซึ่งมี ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า / Hybrid Drive Mode โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด / Engine Drive Mode โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์
ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามีบทบทความสำคัญในโลกอนาคต และนับเป็นก้าวสู่การสร้างสรรค์สังคมปลอดมลพิษ (Carbon-free Society) อีกด้วย
3 – หรืออย่างรุ่นเครื่องยนต์ TURBO เองก็มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ขุมพลัง 190 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร ที่มอบสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม 16.4 กม./ลิตร (เมื่อทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมด้วย Exterior Design ใหม่ ที่เสริมเอาไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และ ท่อไอเสียคู่ พร้อมปลอกท่อไอเสียสเตนเลส เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น และที่สำคัญครั้งนี้รุ่น TURBO ยังมาพร้อม Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะอีกด้วย คุ้มค่าครบครันจริงๆ
4 – โดยในทุกครั้งที่เราพูดถึง ฮอนด้า ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่พูดถึง Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัย อัจฉริยะ ที่มีมาให้ใน ฮอนด้า แอคคอร์ด ทุกรุ่นย่อยแล้ว เป็นจุดสำคัญของฮอนด้าในช่วงที่ผ่านมา
Honda SENSING เป็นเทคโนโลยีที่ผสานการทำงานของเรดาห์กับกล้องด้านหน้าในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของ ตัวผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนอย่างแท้จริง
อีกทั้งในรุ่น e:HEV TECH ยังมี Multi-view Camera System ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง , Cross Traffic Monitor ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย และ Honda Smart Parking Assist System ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก ที่เข้ามาสนับสนุนการใช้งาน การขับขี่ และการจอด อีกด้วย
5 – ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ระบบปรับอากาศของรุ่น e:HEV ยังมาพร้อม Plasmacluster Technology ระบบฟอกอากาศ พลาสมาร์คลัสเตอร์ ไม่ใช่แค่สมรรถนะดี ขับขี่สนุก แต่ยังมอบสุขภาพที่ดี และอากาศบริสุทธิ์ให้ทุกการเดินทางอีกด้วย
6 – โดยสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกคนไว้วางใจ ฮอนด้า ก็คือ Service & Maintenance ที่ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นไหนก็มั่นใจได้ คุ้มค่ากว่าใครแน่นอน อาทิ
- ในรุ่น e:HEV รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานถึง 10 ปี และรับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบไม่จำกัดระยะทาง ให้คุณเชื่อมั่นในทุกเส้นทาง
- ให้คุณอุ่นใจได้มากกว่า ฟรี!! ค่าแรงเช็กระยะ ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
- พร้อมบริการสุด Exclusive หายห่วงในทุกๆ การเดินทางกับ Honda Roadside Assistance 24hrs โปรแกรมสุดพิเศษ ที่จะคอยดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทีมผู้ช่วยจากฮอนด้าก็พร้อมให้บริการช่วยเหลือคุณถึงที่
- บริการพิเศษ!! ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ Honda ULTIMATE CARE เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
7 – จากที่เรากล่าวไปข้างต้น ทั้งดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมโดดเด่น เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ครบครัน สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย มาพร้อมชุดแต่งภายในลายไม้และเบาะหนัง สีน้ำตาลพรีเมียม ทำให้ ฮอนด้า แอคคอร์ด นับว่าเป็น รถยนต์แห่งผู้นำ ในตลาด D-Segment อย่างแท้จริง
แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับ ฮอนด้า แอคคอร์ด e:HEV บ้าง มาร่วมแชร์กันดีกว่า
หรือหากสนใจสามารถดู รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2_HondaTheAccord