สำหรับข้าวต้มกุ๊ย หลายคนน่าจะเข้าใจว่ามันเป็นอาหารของชนชั้นแรงงานในอดีตที่เรามักเรียกว่า ‘กุ๊ย’ ซึ่งคำว่า กุ๊ย เป็นคำไทยที่ยืมมาจากคำจีนอย่าง ‘เคียวเกี๋ยกุ้ย’ เป็นคำที่เอาไว้เรียกคนไม่ดี นักเลง หรืออันธพาลนั่นเอง แล้วพอมันเป็นอาหารของคนกลุ่มนั้น เราก็หยิบเอาคำนั้นมาใช้เรียกไปโดยปริยาย แต่ทราบกันหรือไม่ว่าที่มาของเมนูอาหารรสเลิศนี้อาจมีอะไรมากกว่านั้น
มีหลายตำนานและหลายที่มา เอาเป็นว่าเราเอาที่มาเหล่านั้นมาตรวจสอบดูกันดีกว่า ว่าอะไรเป็นอย่างไร มีมุมน่าสนใจของแต่ละที่มาอย่างไรบ้าง แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องของอาหาร แต่ดูเหมือนว่าข้าวต้มกุ๊ยและที่มานั้นจะมาจากแง่มุมของภาษาอย่างชัดเจน
1. มาจากคำว่า ‘พุ้ย’: เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับคำนี้ แต่ก็มีความเชื่อที่ว่า ข้าวต้มกุ๊ยนั้นเพี้ยนมาจากคำว่า ‘พุ้ย’ หรือข้าวต้มพุ้ยที่เป็นคำกริยาของการเขี่ยข้าวจากชามเข้าปากด้วยตะเกียบ ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกับการทานข้ามต้มกุ๊ยนั่นแหละ แต่ก็มีคนทักท้วงว่า การเพี้ยนทางภาษาไม่น่าจะเป็นไทยไปจีนได้ เพราะส่วนมากน่าจะเป็นการเพี้ยนจากศัพท์จีนมาเป็นภาษาไทยเสียมากกว่า
2. อาหารของคนชนชั้นแรงงาน: จากอดีตจนถึงปัจจุบันความหมายของกุ๊ยยังเป็นคำในแง่ลบอยู่เสมอ ในช่วงมีการอพยพจากชาวจีนมาอาศัยดำเนินชีวิตอยู่ที่ไทยเป็นจำนวนมาก ในช่วงแรกก็มักจะรับทำงานรับจ้างประเภทใช้แรงงานเป็นหลัก อาหารอย่างข้าวต้มกุ๊ย แน่นอนว่าเป็นอาหารที่ราคาไม่แพง ให้ข้าวและน้ำเยอะกินกับกับข้าวไม่กี่อย่าง ทำให้คนทำงานกินอิ่มอยู่ท้องและมีแรงทำงาน แต่มักจะมีการดื่มสุราหรือทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอ ทำให้เมนูแบบนี้ถูกเรียกว่าเป็นอาหารของกุ๊ย หรือกลุ่มอันธพาลหรือคนไม่ดีนั่นเอง
3. อาหารของคนลากรถ: ประเด็นนี้ต้องอธิบายในเชิงภาษากันหน่อย อย่างที่เราบอกว่าในอดีตคนจีนที่อพยพเข้ามามักจะเป็นชนชั้นแรงงานไม่ว่าจะแบกหาม ก่อสร้าง หรือลากรถ และมีช่วงหนึ่งของไทยเราที่คนจีนยังเรียกว่าข้าวต้มแบบนี้อยู่ว่า ‘ชิ่วเชียม้วย’ เป็นอาหารของคนลากรถ (ซึ่งก็นับว่าเป็นอาชีพชั้นต่ำในช่วงนั้น) พอมีคนทำอาชีพนี้อยู่มาก ก็มีคนมาขายอาหารเพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ชาวจีนเลยเรียกเมนูนี้ว่า ‘ชิ่วเชียม้วย’ อย่างที่เรากล่าวไปด้านบน แล้วเราก็มักจะเหมารวมคนพวกนี้ว่ากุ๊ยด้วยนั่นเอง แต่พอเวลาผ่านไป ‘ชิ่วเชียม้วย’ ก็เริ่มเลือนรางและจางหายไปเหลือเพียงคำว่าข้าวต้มกุ๊ยที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
4. อาหารรอบดึก: สมัยก่อนจะมีการเปิดร้านอาหารในช่วงดึก ไว้สำหรับบริการคนที่สังสรรค์ สูบฝิ่น หรือออกมาจากการเที่ยวโคมเขียว และนักพนัน พอออกมาดึก ท้องก็หิวก็ต้องหาอะไรทานหน่อย แล้วด้วยความที่มันเป็นสถานที่อโคจร เป็นสถานที่มืด คนทั่วไปเลยมองว่าคนแบบนี้เป็นกุ๊ย เพราะฉะนั้นคนกินอาหารอะไรแบบนี้ก็มีแต่พวกกุ๊ยทั้งนั้น มันก็เลยถูกจำว่าเป็นข้าวต้มกุ๊ยไปโดยปริยาย
แต่ไม่ว่าที่มาจะเป็นอย่างไร ด้วยรสชาติที่อร่อย กินแล้วอยู่ท้อง วัตถุดิบที่ราคาแพงและดีขึ้น ทำให้มันกลายเป็นอาหารจานโปรดเมนูหนึ่งของคนไทย ที่รับประทานกันทุกชนชั้นและทุกเชื้อสายกันไปแล้ว
กว่าจะพิมพ์ถึงตรงนี้ ตัวผู้เขียนเองก็ต้องกลืนน้ำลายเป็นพักๆ เนื่องจากเป็นแฟนคลับของข้าวต้มกุ๊ยมาตั้งแต่เด็กแล้ว เอาล่ะ เราลองมาเล่าให้ฟังกันหน่อยดีกว่า ว่าคุณคิดว่าที่มาทั้ง 4 ที่ อันไหน น่าจะเป็นความจริงได้มากที่สุด และมีร้านข้าวต้มกุ๊ยร้านไหนอร่อยๆ มาแนะนำบ้าง คอมเมนต์ด้านล่างเลยเผื่อเพื่อนๆ จะมีโอกาสได้ไปลิ้มลองกัน!