เพราะเด็กไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก มาย้อนดูเหตุผลทำไมเด็กถึงควรได้รับการปกป้องมากกว่าผู้ใหญ่ กับต้นกำเนิดแนวคิดและสิทธิที่ปกป้องเด็กจากความรุนแรง
เพราะพวกเขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นพวกเขาจึงควรได้รับการปกป้อง
แนวคิดการปกป้องเด็กจากความรุนแรงเกิดขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 ก่อนที่ข้อกำหนดและสิทธิเด็กว่าควรได้รับการปกป้องจากความรุนแรงจะเกิดขึ้นในปี 1924 เพราะเด็กคือกลุ่มคนที่ควรได้รับการคุ้มครองมากที่สุด ไม่ว่าจะจากความรุนแรงภายในบ้าน ในชุมชน หรือความรุนแรงจากสงคราม และการเมือง
เป็นเรื่องจริงที่ว่า ไม่ว่าใครหรืออายุเท่าไรก็ไม่ควรต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงทั้งสิ้น
แต่ภายใต้มโนสำนึกเชื่อว่าเราทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่า “เด็ก” คือกลุ่มคนที่ไม่ควรถูกใช้ความรุนแรงมากที่สุด นอกเหนือจากการปกป้องตามสัญชาตญาณแล้ว เด็กคือกลุ่มคนที่ได้รีบความคุ้มครองตามสิทธิให้อยู่ห่างไกลจากความรุนแรงมากเป็นอันดับต้นๆ เพราะเด็กไม่สามารถปกป้องตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยอำนาจหรือพละกำลัง
ก่อนหน้าที่เราจะพูดเรื่องสิทธิเด็กที่เกิดขึ้นบนโลกการปกครองยุคหลัง เด็ก เป็นกลุ่มที่ได้รับการปกป้องจากเรื่องเลวร้าย ความรุนแรง และเรื่องเพศมาก่อนหน้านั้นแล้ว
“ความเป็นเด็ก” (Childhood) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อราว 300 ปีก่อน โดยที่ก่อนหน้านั้นในโลกตะวันตกเด็กไม่ได้เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง พวกเขาเป็นเหมือนกับผู้ใหญ่ตัวเล็กที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับผู้ใหญ่ ไม่ได้ถูกปกป้องจากเรื่องราวความรุนแรงเหมือนในปัจจุบัน

jean-Jacques Rousseau | historyprogram
แต่เรื่องราวก็เปลี่ยนไปในศตวรรษที่ 18 จากนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส Jean-Jacques Rousseau ผู้นำเสนอแนวคิดโรแมนติก ที่ปฏิเสธความคิดเดิมว่ามนุษย์คือความเลวร้าย เห็นแก่ตัวตามธรรมชาติ แต่ Rousseau เสนอแนวคิดอีกแง่ความจริงแล้วมนุษย์เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ มีความดีงามอยู่ด้านใน ความชั่วร้ายและความเห็นแก่ตัวเป็นเพราะสังคมต่างหาก ดังนั้นเด็กก็คือความบริสุทธิ์ผุดของมนุษย์ที่ยังไม่มีกรอบของสังคมมาครอบ
นั่นคือจุดเริ่มต้นของแนวความคิดว่าทำไมเด็กถึงควรปกป้องจากสิ่งชั่วร้ายและความรุนแรง

| learnenglishkids
หลังจากนั้นโลกเราได้เผชิญหน้ากับความรุนแรงอย่างใหญ่หลวงหลายครั้ง โดยเฉพาะสงครามโลกที่ 1 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนและเด็กไปมากมาย เมื่อจบสงครามองค์การสันนิบาตชาติ (The League of Nations) ในปี 1924 ได้ร่างปฏิญญาเจนีวาว่าด้วยสิทธิเด็ก ขึ้นเป็นครั้งแรก โดย Eglantyne Jebb ผู้ก่อตั้งกองทุน Save the Children ซึ่งในปฏิญญาระบุว่าทุกคนเด็กมีสิทธิที่จะเติบโต ได้รับความช่วยเหลือในยามจำเป็น เด็กมีความสำคัญมากกว่า และควรถูกปกป้องจากการแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงควรได้รับการเลี้ยงดูปลูกจิตสำนึกและการเป็นพลเมืองที่ดีด้วย
ต่อมาสิทธิเด็กและสตรีเป็นสิ่งที่ถูกพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปี ก้าวผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานหลังจากนั้นองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ก็ถือกำเนิดขึ้น และเป็นความก้าวหน้าด้านสิทธิของเด็กอย่างจริงจัง เมื่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเกิดขึ้นในปี 1989 และได้รับการรับรองใน 196 ประเทศ
อนุสัญญาทั้งหมด 54 ข้อ จะประกอบไปด้วยสาระสำคัญเรื่องสิทธิของเด็ก 4 ด้าน ได้แก่ สิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง สิทธิในการพัฒนา และสิทธิในการมีส่วนร่วม
ดังนั้นเด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและปกป้องจากความรุนแรง ไม่ว่าจะจากสิทธิมนุษยชน แนวคิด หรือจิตใต้สำนึก เพราะเด็กคือกลุ่มคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นพวกเขาจึงควรได้รับการปกป้อง ไม่ว่าจะจากความรุนแรงภายในบ้าน ภายในโรงเรียน ในชุมชน หรือความรุนแรงจากสงครามและการเมือง
พวกเขาควรถูกปกป้องจากความรุนแรงเหล่านั้นไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม
อ้างอิง:
- UNICEF. History of child rights. https://uni.cf/39DFe3M
- UNICEF.Child rights and why they matter. https://uni.cf/3ud6XAg
- Psychologytoday. When Childhood Was Discovered. https://bit.ly/3du8sn2