รู้ไหม? ร่างทรงเคยผิดกฎหมายร.5 เชื่อว่า ‘หลอกลวง-สมคบคิด’

3 Min
1028 Views
14 Feb 2022

เกิดมาเป็นคนไทย ถ้าไม่เคยได้ยินคำว่าร่างทรงเลยสักครั้งน่าจะเป็นเรื่องแปลก

สังคมไทยอยู่คู่กับความเชื่อมาแต่โบราณกาล ร่างทรงก็เป็นหนึ่งในความเชื่อที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน บ้างก็บอกว่านี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล บ้างก็นำมันไปต่อยอดจนกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญทำเงินติดอันดับประเทศ และบ้างก็บอกว่านี่เป็นเพียงความงมงาย

และรู้หรือไม่ว่า หนึ่งในคนที่เชื่อว่าร่างทรงเป็นเพียงเรื่องงมงาย ก็คือรัชกาลที่ 5’ หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งท่านเชื่อว่า ร่างทรงเป็นตัวสร้างความวุ่นวาย จนถึงขั้นวางขื่อแปในบ้านเมือง สั่งห้ามไม่ให้มีการทรงร่าง และลงโทษแม้กระทั่งคนปล่อยบ้านให้สำนักร่างทรงเช่าอยู่

มันเกิดอะไรขึ้นในสมัยนั้นกันนะ?

ความเชื่อโบราณ

ร่างทรง เป็นสื่อหรือตัวกลาง (medium) ของอำนาจเหนือธรรมชาติ (คือผี) ที่อาศัยชั่วคราวในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์หรือคนในชุมชน ร่างทรงสมัยเริ่มแรกเป็นผู้หญิงที่เป็นใหญ่ในพิธีกรรมทำหน้าที่เสมือนหัวหน้าเผ่าพันธุ์

ในหลักฐานทางโบราณคดี ที่บ้านโคกพนมดี จังหวัดชลบุรี ก็มีการค้นพบโครงกระดูกเพศหญิงเรียกเจ้าแม่โคกพนมดีราว 3,000 ปีมาแล้ว โครงกระดูกประดับประดาด้วยลูกปัดเปลือกหอยราว 120,000 เม็ด ทั้งยังมีกำไลข้อมือ และเครื่องประดับศีรษะ กับของอีกนานัปการที่บ่งถึงฐานะศักดิ์สิทธิ์

ความเชื่อนั้นอยู่ยงจนถึงสมัยประมาณรัชกาลที่ 3 ที่ชนชั้นนำสยามเริ่มแสดงโลกทรรศน์ ที่สามารถแยกระหว่างความจริงกับความงมงายออกจากกันได้

เหตุทำนายไฟไหม้ประหลาด

วัฒนธรรมการทรงเจ้านั้นยังปรากฏในลัทธิเต๋า และแพร่หลายมากในชุมชนชาวจีนในประเทศไทยอย่างน้อยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือสมัยรัชกาลที่ 3

การทรงเจ้าในชุมชนชาวจีนนี้ลุกลามขึ้นเรื่อยจนกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่คำทำนายเรื่องไฟไหม้ที่ดันแม่นหลายครั้งจนมีพิรุธ และกระทบต่อการปกครองในศูนย์กลางแห่งอำนาจรัฐ เช่น ในปี พ.. 2446 เกิดคำพยากรณ์ว่าจะมีไฟไหม้ที่ตึกแถวบริเวณเสาชิงช้า ราษฎรบางรายถึงกับอพยพหลบหนี

พวกที่อยู่แถวนั้นเล่ากันต่อๆ มาว่า โหรทูลเกล้าฯ ถวายคำทำนายว่า เพลิงจะไหม้อย่างใหญ่ที่ตำบลแถวถนนเสาชิงช้าในวันแรม 2 ค่ำ หรือ 3 ค่ำ จะไล่เอาตัวโหรผู้ทำนายหรือได้ความมาแต่ใครก็เอาตัวตนไม่ได้ เป็นแต่ชาวร้านพูดกันต่อๆ กันมา

บทลงโทษความงมงาย

ท้ายที่สุด เพื่อจัดการกับปัญหาความกลัวที่มักมาพร้อมกับอัคคีภัย ทางการจึงสั่งห้ามการทรงเจ้า เพราะคิดว่าเป็นการแอบวางเพลิง

รัชกาลที่ 5 จึงได้ทรงออกประกาศใน ร.. 109 กล่าวว่า

“…น่าสงไสยพวกคนทรงที่ทรงเจ้าแลสมักพรรคพวก จะคิดอ่านให้คนนับถือบนบานเพื่อจะหาผลประโยชน ส่วนคนพาลอื่น ๆ เหนเปนช่องโอกาศที่จะขู่กรรโชกราษฎรให้ตกใจ ด้วยจะคิดหาผลประโยชนอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็พลอยทำการโกหกว่า เจ้าลงทรงตัวบอกข่าวคราวราษฎรไปต่าง ๆ เมื่อกลัวจะมิสมคำดังว่า ก็คิดอ่านการทุจริตทิ้งไฟประกอบเหตุ

หนึ่งปีถัดมา จึงได้สั่งเป็นประกาศกรมพระนครบาลในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ร.. 110 เพื่อปราบปรามคนทรงเจ้า

“ (หาก) มีผู้นำเหตุมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานกรมพระนครบาลพิจารณาสอบสวนได้ความสมจริงแล้ว ผู้เปนคนทรงลงเจ้านั้นจะลงพระราชอาญาตามประกาศแลจะปรับเจ้าของตึกเจ้าของเรือนเจ้าของโรงผู้เปนเจ้าของที่ให้ทรงเจ้าเปนเงิน 20 บาท พระราชทานเปนรางวัลแก่ผู้มาแจ้งเหตุกึ่งหนึ่ง เปนพินัยหลวงกึ่งหนึ่ง ถ้าผู้ที่แจ้งเหตุนำเจ้าพนักงานเกาะตัวผู้เข้าทรงเจ้าได้ในขณะเข้าทรงลงเจ้านั้น จะพระราชทานเงินที่ปรับเจ้าของตึกเจ้าของเรือนเจ้าของโรง 20 บาทเปนรางวัลจงเต็ม

สรุปได้ว่า ถ้าคนสมัยนั้นถูกจับได้ว่าทรงเจ้าหรือลอบวางเพลิง จะได้รับโทษอย่างหนัก ตั้งแต่โบย 30 ที ถึง 50 ที ไปจนถึงประหารชีวิตสำหรับคนร้ายวางเพลิง และยังมีการปรับ 20 บาท (ซึ่งสมัยนั้นคงเป็นเงินจำนวนไม่น้อย) สำหรับเจ้าของโรงเรือนที่ปล่อยให้คนทรงเจ้าประกอบพิธี

ความเชื่อดำรงอยู่

คอลัมน์ สุจิตต์ วงษ์เทศ ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3-9 ธันวาคม พ.. 2564 ได้แสดงทัศนะไว้ว่าความเหลื่อมล้ำเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างทรงแพร่หลาย เพราะเมื่อคนรู้สึกไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัย ก็จะกระตุ้นให้คนหันไปพึ่งพาอำนาจธรรมชาติผ่านร่างทรงเพื่อขอความมั่นคงและปลอดภัย

ในปัจจุบันร่างทรงยังเป็นความเชื่อหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ในทุกซอกหลืบของสังคมไทย ใครศรัทธาจะเชื่อ หรือมองว่ามันงมงาย ก็คงแล้วปัจเจกบุคคล

แต่ถ้าหากความเชื่อนั้นลุกลามไปจนถึงขั้นหลอกลวงจนทำให้คนเดือดร้อน แน่นอนว่าเราอาจจะได้เห็นกฎหมายเข้ามาจัดการ ไม่ต่างจากในสมัยรัชกาลที่ 5 เท่าไหร่

อ้างอิง

  • พิพัฒน์ กระแจะจันทร์. รัฐประหารร่างทรง ถึงวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ไทย. ศิลปวัฒนธรรม. 2559
  • ดร. นนทพร อยู่มั่งมี. คดีไฟไหม้ในกรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ 5 : ภาพสะท้อนวิถีชีวิตของราษฎรและการปกครองของรัฐสมัยใหม่. ศิลปวัฒนธรรม. 2558
  • มติชนสุดสัปดาห์. ‘ร่างทรงดึกดำบรรพ์ เข้าสิงด้วยศาสนาผี. https://www.matichonweekly.com/column/article_493189