รู้ไหม การ “ดวลปืน” เคยเป็นกีฬาโอลิมปิกเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว

4 Min
2216 Views
13 Jul 2021

การแข่งโอลิมปิกนั้นเป็นการแข่งกีฬานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ ส่วนกีฬาอะไรจะถูกบรรจุในโอลิมปิกบ้างนั้นก็แล้วแต่ยุคสมัย ซึ่งขอบอกเลยว่ากีฬาที่กำลังจะแข่งในโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ปี 2021 นี้ ก็ไม่เหมือนโอลิมปิกครั้งแรกหรอก

เอาล่ะ เราเกริ่นมาเพื่ออยากจะเล่าเรื่อง “แปลกๆ” ของกีฬาอย่างหนึ่งที่หายไปจากโอลิมปิกหลังจากการที่มันถูกบรรจุให้มีแข่งเพียงครั้งเดียวในปี 1908 และกีฬาที่ว่าก็คือ “กีฬาดวลปืน”

ดวลปืนแบบที่เราเห็นในหนังคาวบอยนี่แหละ และหลายๆ คนก็คงสงสัยว่าการดวลปืนเป็น “กีฬา” ได้ยังไง

ตรงนี้เราจะขอเล่าย้อนไปถึงที่มาของ “การดวล” ก่อนจะมาเป็นกีฬา

การดวล: วิถียุติความขัดแย้งของอภิชน

เราอาจคุ้นกับการดวลในพวก “หนังคาวบอย” ที่สุด แต่จริงๆ การดวลเป็นสถาบันทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่มากๆ ของโลกตะวันตก ซึ่งย้อนไปได้ตั้งแต่ยุคกลาง

คนในสมัยโน้นเขาไม่ได้ “ดวล” กันในฐานะ “กีฬา” แน่ๆ แต่เหตุผลหลักๆ ของการดวลก็คือการยุติความขัดแย้ง

ซึ่งในยุคกลาง การดวลจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีคดีความ และศาลไม่สามารถจะตัดสินได้ เพราะไม่มีพยาน การยุติความขัดแย้งของคู่กรณีก็เลยใช้การดวลดาบกัน ใครชนะก็ถือว่าเป็นฝ่ายถูก ซึ่งโดยทั่วไปก็ไม่มีกติกาที่ชัดเจน ก็สู้กันจนกว่าจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยอมแพ้ สู้ต่อไม่ได้ หรือตาย

การดวลในแถบเยอรมนีศตวรรษที่ 15 | Wikipedia

อันนี้คนยุคเราก็อาจฟังดูป่าเถื่อน แต่ในความเป็นจริง ในยุคที่ระบบยุติธรรมยังทำงานไม่ดีแต่ความขัดแย้งระหว่างคนในสังคมยังมี มันก็ต้องมีสถาบันบางอย่างที่จะเป็นช่องทางมาตรฐานที่จะยุติความขัดแย้งไม่ให้ลุกลามใหญ่โตจนเกิดปัญหาในสังคม และ “การดวล” ก็ทำหน้าที่นั้นมาตลอด

ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจเช่นกันก็คือ หลังยุคกลาง ช่วงยุคที่เรียกว่าสมัยใหม่ตอนต้น แม้ว่าสังคมจะเริ่มเป็นสมัยใหม่แล้ว แต่เหล่าอภิชนในยุโรปนั้นก็ยังทำการ “ดวล” กันเป็นปกติ เพราะชนชั้นสูงของสังคมเหล่านี้อยู่ “เหนือกฎหมาย” อยู่แล้วโดยสถานะทางกฎหมาย ดังนั้นเวลาขัดแย้งกัน มันไม่มีศาลไหนจะมีอำนาจตัดสินคนพวกนี้ได้ และการยุติความขัดแย้งระหว่างกันและกันก็เลยต้องพึ่งวิธีโบราณอย่างการดวล

ในยุโรปยุคกลางมาจนถึงกลางศตวรรษที่ 18 การดวลนั้นจะใช้ดาบดวลกัน ก่อนที่ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 จะเปลี่ยนเป็นปืนในช่วงสั้นๆ และค่อยๆ เสื่อมความนิยมไปในศตวรรษที่ 19

ตรงนี้ขอย้อนหน่อยว่า ในยุโรปสมัยใหม่ตอนต้น มีแต่อภิชนเท่านั้นจะพกดาบได้ เป็นอภิสิทธิ์ทางชนชั้นเลย ดังนั้นนี่จึงเป็นชนชั้นที่ได้รับการฝึกใช้ดาบมาตลอด และการใช้ดาบเพื่อยุติความขัดแย้งก็ไม่แปลก

อย่างไรก็ดี หลังการปฏิวัติฝรั่งเศสและการล่มสลายของอภิชนทั่วยุโรปในศตวรรษที่ 19 กลุ่มคนที่มีอำนาจใหม่ในสังคมคือพวกพ่อค้าที่เป็นคนรวย คนพวกนี้ไม่คุ้นเคยกับการยุติความขัดแย้งด้วยการดวลดาบ และในช่วงนั้นระบบยุติธรรมแบบสมัยใหม่ก็พัฒนามาพอดี ศาลเกิดขึ้นใต้คอนเซปต์ใหม่ที่จะตัดสินทุกคนภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันและยุติธรรม ดังนั้นเวลาทุกคนมีเรื่องก็ไปศาลได้ ศาลจะเป็นผู้ยุติความขัดแย้ง นี่เลยทำให้การดวลไม่ว่าจะดาบหรือปืนนั้นไม่มีหน้าที่ทางสังคมอีกต่อไป

และภาวะแบบนี้ก็เป็นจริงทั้งในยุโรป และอเมริกา เพราะในอเมริกาที่ทุกคนพกปืนได้มาตั้งแต่ตั้งประเทศ (และเป็นความภูมิใจมาถึงทุกวันนี้) ช่วงแรกๆ ก็เรียกได้ว่าดวลปืนกันสนุกสนานด้วยเหตุผลเดียวกับคนยุโรปก็คือ เพื่อยุติความขัดแย้ง

อย่างไรก็ดี รัฐต่างๆ ก็ค่อยๆ ออกกฎหมายให้การดวลปืนผิดกฎหมายไปทีละรัฐ และเรียกได้ว่าในตอนช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกาตอนกลางศตวรรษที่ 19 ก็แทบไม่มีใครมาดวลปืนกันแล้ว

ซึ่งตรงนี้เราก็อาจสงสัยว่าแล้วพวก “คาวบอย” นี่อยู่ตรงไหน?

คำตอบคือ ในช่วงครึ่งหลังของอเมริกาศตวรรษที่ 19 หรือช่วงหลังสงครามกลางเมือง อเมริกาได้ขยายดินแดนไปทางตะวันตก และดินแดนใหม่ๆ นั้นก็เรียกได้ว่ากฎหมายไม่ทำงาน และกลายเป็นพื้นที่ที่ “ปืนคือกฎหมาย” แบบในหนังคาวบอย ซึ่งจะมีการดวลปืนกันบ้างก็ไม่แปลก แต่ประเด็นคือ นี่ไม่ใช่ “การดวล” ในเหตุผลเดียวกับการดวลที่มีมาตลอดประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตกแน่ๆ

แต่มันคือการสู้กันด้วยปืนของฝ่ายผู้รักษากฎหมายและคนนอกกฎหมายมากกว่า

สู่การดวลปืนในโอลิมปิก

ที่เล่ามาทั้งหมด การดวลปืนไม่ใช่ “กีฬา” เลย มันเป็นสถาบันทางสังคมที่เกิดขึ้นเพื่อยุติความขัดแย้ง มันอยู่มาตั้งแต่ยุคกลางและค่อยๆ เสื่อมไปในช่วงสมัยใหม่

ซึ่งตรงนี้ก็ไม่แปลกใจนักที่หลังจากการดวลปืนหายไปจากสังคม จะมีคนกลุ่มหนึ่ง “โหยหาอดีต” ในยุคที่คนดวลปืนกันได้เสรี

ในตอนปลายศตวรรษที่ 19 ที่การดวลปืนเป็นสิ่งผิดกฎหมายไปทั่วโลกแล้ว กลุ่มชนชั้นสูงเล็กๆ ที่อยากจะอนุรักษ์วัฒนธรรมดวลปืนไว้ก็เลยได้ปรับปรุงการดวลปืนให้มีลักษณะเป็น “กีฬา” สมัยใหม่ ในแง่ของการแข่งขันให้คนดูได้อย่างมีกติกาชัดเจน ไม่คอขาดบาดตาย จากกระสุนโลหะก็เปลี่ยนเป็นขี้ผึ้ง จากการดวลกันตัวเปล่าก็มีการใส่เครื่องป้องกันมิดชิด

และ “กีฬาดวลปืน” ซึ่งเป็นกีฬาใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

กีฬาใหม่อย่างดวลปืนก็แน่นอนว่ามีการจัดแข่งกันในสมาคม และมีการประสานกันระหว่างประเทศโดยพยายามจะผลักดันเข้าในโอลิมปิกในที่สุด และในที่สุดในปี 1908 มันก็ได้ถูกรวมเข้าในโอลิมปิกฤดูร้อนที่จัดที่อังกฤษ โดยผู้ได้เหรียญทองในการดวลรุ่น 20 เมตรเป็นชาวฝรั่งเศส ส่วนผู้ได้เหรียญทองในการดวลรุ่น 30 เมตรเป็นชาวกรีก

การดวลปืนในโอลิมปิกที่ลอนดอนปี 1908 | Mental Floss

อย่างไรก็ดี หลังจากโอลิมปิกครั้งนั้นไม่นาน โลกก็เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 และก็เกิดการตายของมนุษย์ในสงครามสเกลใหญ่แบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติศาสตร์

ซึ่ง “บาดแผล” ของมนุษยชาติครั้งนั้นจากการหันปืนเข้าใส่กันก็ทำให้ชาวโลกไม่รู้สึกว่าการหันปืนเข้าใส่กันอย่างการ “ดวลปืน” ควรจะเป็นกีฬาได้อีกต่อไป

และการดวลปืนก็หายไปจากโอลิมปิก หรือกระทั่งโลกกีฬาอย่างแทบจะถาวรจนถึงปัจจุบันนี้

อ้างอิง: