2 Min

ขนมจากเอลิซาเบธที่ 1 สู่ตัวแทนในพิธีกรรมความรัก ที่ผู้ชายกินแล้วจะตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่ง

2 Min
1019 Views
06 Jan 2022

Select Paragraph To Read

  • ขนมปังขิงรูปผู้ชาย
  • พิธีกรรมแห่งความรัก
  • ขนมปังขิงกับเทศกาลคริสต์มาส
  • ขนมปังขิงที่ไม่มีขิง

ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย บรรยากาศภายนอกที่คึกคักและวันหยุดยาวที่เหมาะแก่การอยู่กับครอบครัว ทำให้ ‘ธันวาคม’ กลายเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองของใครหลายคน หลายบ้านเริ่มมีการเฉลิมฉลองตั้งแต่ตกแต่งบ้านไปจนถึงนัดทานอาหารเย็นกับครอบครัว

โดยของกินในช่วงเดือนธันวาคมหรือในเทศกาลคริสต์มาสนั่นมีหลากหลายและมีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ หนึ่งในขนมที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างขนมปังขิงก็มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดาเช่นกัน

ขนมปังขิงรูปผู้ชาย

ดูเหมือนว่าขนมปังขิงไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ในเทศกาลคริสต์มาสอย่างเดียว แต่ความโด่งดังของเจ้าขนมรูปร่างหน้าตาเป็นเด็กผู้ชายนั่นได้กระจายไปทั่วโลก กับคาแรคเตอร์ในภาพยนตร์และภาพยนตร์
แอนิเมชั่นที่เราได้เห็นกัน

ขนมอบชอร์ตคัสต์เครื่องเทศที่มีสีน้ำตาล กลิ่นหอมของขิงและอบเชยที่ไม่มีใครเทียบได้ มีรากฐานอันสูงส่งอย่างแท้จริง ตั้งแต่ในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (Queen Elizabeth I) ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ซึ่งถือเป็นช่วงฟื้นฟูศิลปวิทยาของอังกฤษ ยุคแห่งการสร้างสรรค์สำหรับประเทศโดยเฉพาะตั้งแต่ ยุคของวิลเลียม เชคสเปียร์, เอ็ดมันด์ สเปนเซอร์, ฟิลิป ซิดนีย์, คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์ 

นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาสำหรับงานเลี้ยงและอาหารเลิศรสที่มีรสชาติใหม่นำเข้าจากอเมริกา เช่น ผลไม้ ผักและเครื่องเทศที่แปลกใหม่ ด้วยความที่เอลิซาเบธที่ 1 ถือเป็นผู้ที่ประทานชีวิตให้กับการสร้างสรรค์รวมถึงการเตรียมการที่ประณีตและสง่างามที่สุด

ระหว่างงานเลี้ยงครั้งหนึ่งของเธอจึงมอบหมายให้พ่อครัวขนมของเธอ เตรียมคนทำขนมปังขิงให้เป็นตัวแทนของบุคคลสำคัญและผู้คนจากต่างประเทศ ตามที่แคโรล เลวิน (Carole Levin) ผู้อำนวยการโครงการการศึกษายุคกลางของมหาวิทยาลัยเนแบรสกา-ลินคอล์น และผู้แต่งหนังสือหลายเล่ม รวมถึง “รัชกาลของเอลิซาเบธที่ 1” อธิบาย

พิธีกรรมแห่งความรัก

แม้งานเลี้ยงจะจบลงแต่ความนิยมของขนมปังขิงไม่จบลง เมื่อนักบุญนิโคลัส แพทย์พื้นบ้านในสมัยนั้นที่คนต่างมองว่าเป็นแม่มดหรือผู้วิเศษได้อบเจ้าขนมปังขิงให้หญิงสาว เพื่อนำไปให้คู่สมรสในอนาคตทานและตกหลุมรักพวกเขา 

“แนวคิดพื้นฐานคือถ้าผู้ชายกินขนมปังขิงที่เตรียมไว้สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ พวกเขาจะตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่ง” เลวินอธิบาย

ขนมปังขิงกับเทศกาลคริสต์มาส

แม้ตามประวัติศาสตร์จะไม่มีการอ้างอิงระหว่างเจ้าขนมปังขิงกับเทศกาลคริสต์มาสไว้ แต่สองสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ โดยในช่วงสิ้นปีอุณหภูมิในหลายประเทศก็จะต่ำลง ผู้คนต่างหาสิ่งของหรืออาหารการกินที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น ซึ่งเจ้าขนมปังขิงก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญ ด้วยวัตถุดิบที่ใช้ในการทำนั่นคือ ‘เครื่องเทศ’ ที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้ไม่น้อย

“ความนิยมของขนมปังขิงในช่วงวันหยุดนั้น อย่างน้อยก็ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่าเครื่องเทศทำให้คุณร้อนขึ้นในฤดูหนาว” ไมเคิล ครอนเดิล (Michael Krondl) ผู้เขียนหนังสือ Sweet Invention:
A History of Dessert กล่าว

ขนมปังขิงที่ไม่มีขิง

หากขุดลึกลงไปอีก ต้นกำเนิดที่แท้จริงของขนมปังขิงนั่นไม่มี ‘ขิง’ แม้แต่น้อย แต่คือ ‘เค้กน้ำผึ้ง’ โดยกำเนิดมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณซึ่งมีรสชาติและสีคล้ายกับขนมปังขิง เครื่องเทศที่ใส่เข้าไปจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เนื่องจากความนิยมและความพร้อมของเครื่องเทศแตกต่างกันไป

ความนิยมของขนมปังขิงยังคงมีต่อมาเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบันนอกจากจะเห็นตามภาพยนตร์แล้ว เจ้าขนมปังขิงยังเป็นสัญลักษณ์ในการตกแต่งต้นคริสต์มาส หรือตกแต่งคาเฟ่ในมีความสวยงามมากขึ้น แล้วคุณล่ะ เคยลองไหม รสชาติเป็นอย่างไร มาบอกให้เล่าฟังได้นะ

อ้างอิง