2 Min

เพราะอะไร… คนที่เคยถูกเท ถึงกลายเป็น ‘มือเท’ เสียเอง? งานวิจัยสหรัฐฯ เผย สาเหตุของ ‘วงจรเจ็บซ้ำ’ ในความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่

2 Min
10 Views
16 Jul 2025

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบเหตุการณ์ ‘อยู่ดีๆ ก็หายไลน์ไม่ตอบ’ หรือ การหายไปของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่บอกกล่าว ที่ใครหลายคนเรียกมันว่าการ ‘Ghosting’ สิ่งนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ‘ผี’ ที่คอยหลอกหลอน เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ จับต้องไม่ได้ แต่ทิ้งความกลัวบางอย่างไว้กับเราได้อย่างชัดเจน

ไม่ต่างจากคนคุยที่หายไปแล้วทิ้งไว้แค่เพียงความเจ็บปวด การ Ghosting ถูกมองเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีนักในสายตาของใครหลายคน แต่เชื่อหรือไม่ว่า งานวิจัยล่าสุดจากสถาบัน Thriving Center of Psychology ชี้ว่า การ ‘Ghosting’ กำลังกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่ม Gen Z และ กลุ่ม Millennials ทั้งยังชี้ว่ากลุ่มคนที่ถูก Ghosting อาจกลายเป็นผู้ Ghosting ใส่คนอื่นเสียเอง

โดยนักวิจัยได้ทำการสำรวจและตั้งคำถามกับกลุ่ม Gen Millennials และ Gen Z กว่าพันคน แล้วพบว่า กว่า 84 เปอร์เซ็นต์ มีประสบการณ์ถูก Ghosting และ 67 เปอร์เซ็นต์ ได้ผันตัวไปเป็นคน Ghosting ใส่คนอื่นเสียเอง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?

นักวิจัยชี้ว่า ในปัจจุบันกลุ่ม Gen Z และ Millennials เกือบทุกคนมีประสบการณ์ดังกล่าว และส่วนใหญ่รู้สึกไม่ดีเวลาพบเจอกับประสบการณ์นี้ เพราะมักจะมีความรู้สึกแย่ๆ ตามมา อย่างเช่นความรู้สึกสับสน เศร้า หรือความมั่นใจในตัวเองลดต่ำ แต่กระนั้น 3 ใน 4 ของกลุ่มนี้ก็คิดว่า การโกสต์นั้นอาจเหมาะสมในบางกรณี และกลายเป็นว่าเกือบ 2 ใน 3 กลายเป็นผู้ Ghosting ใส่คนอื่นโดยนักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า ‘การ Ghosting กันไปกันมา’ (reciprocal ghosting)

ดร.อเล็กซานเดอร์ อัลวาราโด (Alexander Alvarado) หนึ่งในทีมวิจัยให้ความเห็นถึงประเด็นนี้ไว้ว่า “อัตราการ Ghosting กันไปกันมาที่เพิ่มสูงนี้ มาจากรูปแบบทางอารมณ์ที่เป็นวัฏจักร เพราะเมื่อบุคคลหนึ่งๆ ประสบกับความรู้สึกไม่ดีหลังจากถูก Ghosting พวกเขาอาจใช้สิ่งนี้มาเป็นกลไกในการป้องกันตัวเองโดยไม่รู้ตัว ผ่านการคิดว่า การเป็นฝ่ายเลิกคุยหรือเลิกสนใจก่อน มันดีกว่าที่จะไปเสี่ยงถูกทำร้ายจิตใจหรือผิดหวังในภายหลัง”

งานวิจัยยังชี้อีกว่า กลุ่ม Gen Z มีแนวโน้มที่จะ Ghosting มากกว่าคนรุ่น Millennials ด้วยเหตุผล 6 ข้อ ได้แก่

  1. ไม่สนใจในฝ่ายตรงข้ามแล้ว 64 เปอร์เซ็นต์
  2. ต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า 56 เปอร์เซ็นต์
  3. ความเครียดหรือความคาดหวังที่มากเกินไป 44 เปอร์เซ็นต์
  4. รู้สึกว่าความสัมพันธ์ไม่แข็งแรง 41 เปอร์เซ็นต์
  5. ถูกคุกคาม 39 เปอร์เซ็นต์
  6. ประสบปัญหาด้านสุขภาพจิต 29 เปอร์เซ็นต์

ทั้งยังพบว่า ผู้คนจำนวนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกว่าการ Ghosting เป็นเรื่องเหมาะสมในบางสถานการณ์ และ 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ตนรู้สึกสบายใจมากกว่าที่จะรู้สึกผิดหวังจากการโกสต์ใส่คนอื่น 

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยท่านหนึ่งในทีมก็ได้ฝากข้อคิดเล็กๆ ไว้ว่า “ไม่ว่าจะเจออะไรมาก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้ที่จะสื่อสารให้ดี แม้ว่าเราจะไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ขอให้เชื่อมั่นว่าเราเป็นคนจริงใจก็พอ”

อ้างอิง: