2 Min

นักวิทย์เผยแผนสู้โลกร้อนแบบใหม่ ‘แช่แข็งขั้วโลก’ ด้วยการ ‘บังแสงอาทิตย์’

2 Min
741 Views
03 Oct 2022

ในการต่อสู้กับโลกร้อนที่มนุษย์ดูจะสิ้นหวังขึ้นเรื่อยๆ วิธีการที่บ้าบอราวกับออกมาจากความคิดของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องในหนังไซไฟ ก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน อาทิ แผนการที่จะส่งบอลลูนไปโปรยอนุภาคเคมีในชั้นบรรยากาศเพื่อให้แสดงอาทิตย์ลงมายังโลกน้อยลงซึ่งแม้ว่ามันจะได้รับการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีอย่าง บิล เกตส์ แต่แนวทางนี้ก็โดนด่ายับเช่นกัน

แต่ไอเดียพิศดารแบบนี้ก็ยังไม่จบ เพราะล่าสุด มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เยล เสนอว่าทำไมเราไม่ลองเอาไอเดียแบบเดียวกันไปใช้แบบเฉพาะจุดดูล่ะ คือไม่ต้องไปบังมันทั้งโลก บังแค่ส่วนที่สำคัญและส่งผลกระทบน้อยสุดอย่างขั้วโลกก็พอ

พูดแบบแบบภาษาชาวบ้านก็คือคุณก็ทำให้ท้องฟ้าขั้วโลกมันขมุกขมัวอีกหน่อย โดยการเอาเครื่องบินไปโปรยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (มันคือสารที่คุณได้กลิ่นตอนจุดไม้ขีดไฟ) ในน่านฟ้าขั้วโลก แสงอาทิตย์จะได้ส่องถึงพื้นขั้วโลกน้อยลง อุณหภูมิมันจะได้ต่ำลง น้ำแข็งที่ละลายก็จะได้ไม่ละลาย เท่านั้นไม่พอ น้ำแข็งที่ละลายไปก็น่าจะกลับเป็นน้ำแข็งในอัตราที่เร็วขึ้น หรือพูดง่ายๆ คือมันไม่ใช่แค่ชะลอความเสียหายจากภาวะโลกร้อนเท่านั้น แต่มันพื้นฟูความเสียหายที่เกิดไปแล้วได้ด้วย

ซึ่งถ้าเราตามข่าว ก็คงจะรู้ว่า น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วแค่ไหน และข่าวมาทีไรก็จะบอกว่ามันละลายเร็วขึ้นกว่าที่คาดทุกที ซึ่งก็เสี่ยงทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเร็วเกินไป และพวก เมืองชายฝั่งทั้งหลายในโลกก็น่าจะจมทะเลเร็วขึ้นกว่าที่คาด ดังนั้นเป้าหมายของแผนการนี้จริงๆ มันก็สมเหตุสมผลมากถ้าจะมาจัดการปัญหานี้ เพราะมันเน้นไปที่สาเหตุตรงๆ อย่างการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเลย

อย่างไรก็ดี แน่นอน คำวิจารณ์เดิมๆ ก็ยังคงอยู่ เพราะเทคนิคในการจงใจเปลี่ยนสภาพอากาศให้ผิดธรรมชาติ ยังไงก็น่าจะมีผลกระทบตามมาแน่นอน ซึ่งพวกนักนิเวศวิทยาก็ไม่แฮปปี้ เพราะผลที่ตามมามันคาดเดาไม่ได้ อย่างไรก็ดี ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่เสนอแผนก็โต้ว่า นี่คือเทคนิคที่ประนีประนอมที่สุดแล้ว เพราะมันไปบังแสงอาทิตย์เฉพาะในโซนที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีมนุษย์มนุษย์อยู่อาศัย และก็มีสิ่งมีชีวิตน้อยมาก

และคำถามสำหรับมนุษยชาติก็คือ เรานั้นมีทางเลือกขนาดปฏิเสธทางออกที่ฟังดูบ้าบอ มีผลกระทบแน่ๆ แต่ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เช่นกันจริงๆ เหรอ? และเวลายิ่งผ่านไปทางเลือกก็ยิ่งดูน้อยลงๆ

อ้างอิง