รู้ไหม หนังสือขายดีก่อนปฏิวัติฝรั่งเศส คือวรรณกรรมแนวยูโทเปียบ้านๆ และเรื่องกอสซิปในแวร์ซาย
ปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่มากในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ และถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะจบไปนานแล้ว แต่ยังมีข้อถกเถียงในทางวิชาการจนถึงทุกวันนี้ว่า
อะไรคือต้นตนของการปฏิวัติ?
นักประวัติศาสตร์แต่ละสายล้วนมีคำอธิบายของตัวเอง เช่น
นักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจจะอธิบายว่า เพราะราชสำนักล้มเหลวในการบริหารการคลัง ซึ่งหมักหมมมาแบบข้ามรัชกาล
ขณะที่นักประวัติศาสตร์การเมืองก็จะเน้นไปที่ความขัดแย้งทางการเมืองของชนชั้นนำ
แต่ในยุคหลัง คนเชื่อกันมากขึ้นว่า “ความคิด” เป็นสิ่งที่ผลักดันประวัติศาสตร์ และการปฏิวัติฝรั่งเศสนั้นเป็นผลพวงจากคนฝรั่งเศสอ่านงานของ “นักคิด” ฝรั่งเศสช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างวอลแตร์ หรือ ฌอง ฌาค รุสโซ
ข้อสันนิษฐานข้างต้นไม่มีหลักฐาน เพราะหนังสือของนักคิดกลุ่มนี้เป็นหนังสือต้องห้ามสมัยก่อนการปฏิวัติ เนื่องจากเป็นหนังสือที่ชี้ชวนให้เห็นว่าระบบที่เป็นอยู่นั้นเน่าเฟะ และปลุกเร้าให้คนลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจรัฐ ผลคือต้องพิมพ์และขายกันอย่างผิดกฎหมาย เป็น “หนังสือเถื่อน”
คนเชื่อข้อสันนิษฐานนี้กันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งนักประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่าง โรเบิร์ต ดาร์นตัน พยายามจะชี้ว่า “ไม่จริง”
1.
ดาร์นตันเป็นนักประวัติศาสตร์หนังสือโดยเฉพาะ เขาเชี่ยวชาญเรื่องหนังสื่อเถื่อนก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส และจากการค้นคว้า เขาได้ข้อสรุปว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าคนฝรั่งเศสจะอ่านงานยากๆ ที่มีลักษณะเป็นนามธรรมพวกงานปรัชญาในมาตรฐานปัจจุบัน
สาเหตุที่คนยุคนี้มองย้อนกลับไปและเข้าใจแบบนั้น ก็เพราะในยุคก่อนปฏิวัติฝรั่งเศส รัฐเรียกหนังสือที่ท้าทายอำนาจรัฐรวมๆ ว่า “หนังสือปรัชญา” ซึ่งกินขอบเขตกว้างขวางตั้งแต่หนังสือปรัชญาในมาตรฐานทุกวันนี้จนถึง “หนังสือโป๊” หรือนิยายอีโรติก
ดาร์นตันได้ค้นคว้าบันทึกของโรงพิมพ์เถื่อน พบว่าหนังสือที่คนอ่านสมัยนั้นที่เรียกว่า “งานคลาสสิก” ของบรรดานักคิดนักเขียนใหญ่ๆ ของฝรั่งเศส ชาวบ้านไม่อ่านกันหรอก และโรงพิมพ์ก็พิมพ์ออกมากระจึ๋งเดียว
แล้วคนฝรั่งเศสยุคนั้นอ่านอะไร?
2.
หนังสือวรรณกรรมที่ชวนให้จินตนาการถึงโลกอนาคตที่สังคมฝรั่งเศสเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไปจนถึงหนังสือจำพวกแฉเรื่องบนเตียงของคนในราชวงศ์ คือหนังสือผิดกฎหมายที่คนฝรั่งเศสแบบบ้านๆ ชอบอ่านกันจนต้องพิมพ์แล้วพิมพ์อีก
ดาร์นตันพบว่าหนังสือเถื่อนที่ขายดีที่สุดคือ L’An 2440 ของนักเขียนฝรั่งเศสที่คนยุคหลังจำไม่ได้อย่าง หลุยส์-เซบาสเตียน เมร์ซิเยร์ (Louis-Sébastien Mercier) หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมแนวยูโทเปีย ซึ่งจะเรียกในมาตรฐานปัจจุบันจะเรียกว่า “นิยายวิทยาศาสตร์” ก็ได้ มันว่าด้วยชายฝรั่งเศสที่หลับไปแล้วตื่นมาในปี 2440 เวลานั้นปารีสอยู่ในยุคอนาคต และคุกบาสตีลล์กลายเป็น “วิหารแห่งความปราณี”
ในวิหารนี้มีรูปปั้นนักเขียนบทละครเหยียบหัวพระคาร์ดินัลด์ และมีอนุเสาวรีย์ของนักคิดรุ่นใหญ่อย่างวอลแตร์และรุสโซ ซึ่งหนังสือไม่มีพล็อตเรื่องอะไรเลย เป็นการจินตนาการถึงกรุงปารีสในอนาคตที่สังคมเปลี่ยนไปแล้วเท่านั้นเอง
หนังสือที่ขายดีรองลงมาคือ หนังสือชีวประวัติของสนมเอกคนสุดท้ายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 อย่าง มาดามดูแบรี่ (Mme Du Barry) ซึ่งเป็นคนในราชวงศ์ที่ “ฉาว” มาก เพราะคนฝรั่งเศสซุบซิบนินทานางมาตลอดว่าเป็นโสเภณีชั้นต่ำที่ใช้อวัยวะเพศของตนไต่เต้าสู่จุดสูงสุดของสังคมฝรั่งเศส หนังสือเล่มนี้คือการเปิดเผยชีวิตทางเพศของมาดามดูแบรี่ไปจนถึงเรื่องคาวกามในพระราชวังแวร์ซายอย่างโจ๋งครึ่ม
กล่าวอีกแบบก็คือ หนังสือขายดีที่นำไปสู่การปฏิวัติฝรั่งเศสนั้นไม่ใช่งานปรัชญาและทฤษฎีสังคมแบบที่คนชอบจินตนาการ แต่เป็นหนังสือที่จินตนาการถึงสังคมที่ดีกว่านี้ ไปจนถึงหนังสือแนวกอสซิปชีวิตเซ็กส์ในวัง
3.
การค้นพบของดาร์นตันสำคัญมาก เพราะพิสูจน์ว่า “ชาติปัญญาชน” อย่างฝรั่งเศส เมื่อครั้งปฏิวัติ ประชาชนบ้านๆ ก็ไม่ได้อ่านงานปรัชญาอะไรกัน แต่ชอบหนังสือที่เพิ่มจินตนาการทางการเมืองแบบวรรณกรรมบ้านๆ ที่ไม่มีคุณค่าทางวรรณศิลป์พอที่จะขึ้นหิ้งเป็น “งานคลาสสิก” ที่ต้องศึกษากันในยุคต่อมา และเหนือกว่านั้น คนฝรั่งเศสก็เหมือนคนที่อื่นๆ คือถ้าจะพูดเรื่อง “เจ้า” กัน สิ่งที่สนใจที่สุดก็หนีไม่พ้น “เรื่องใต้สะดือ” ของคนในวัง ไม่ใช่เรื่องของปัญหาการปกครองบ้านเมืองแต่อย่างใด
นั่นอาจหมายความว่า การปฏิวัติทั้งหลายไม่ได้เกิดจากการที่คนไปเจอไอเดียดีๆ จากงานทางความคิดโดยตรง เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจอะไรที่ซับซ้อนระดับนั้น
แต่ในทางกลับกัน หนังสือที่คนอ่านสะท้อนว่าคนกำลังอัดอั้นกับเรื่องใด และต้องการสังคมที่ดีกว่าในรูปแบบใด
เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าสังคมที่ตัวเองอยู่ควรจะต้องเปลี่ยนแปลง
อ้างอิง:
- Robert Darnton, “The Forbidden Bestsellers of Prerevolutionary France”, Bulletin of the American Academy of Arts and Sciences, Vol. 43, No. 1 (Oct., 1989), pp. 17-45