“FOOD COMA” ต้นตอของปัญหา อิ่มแล้วง่วง + วิธีแก้

2 Min
1270 Views
10 Jan 2021
เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยมีประสบการณ์ ‘อิ่มแล้วง่วง’ กันมาบ้าง บางครั้งมันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้ลำบากใจอะไรนัก เพราะง่วงก็นอน แต่ในบางครั้ง เราก็จำต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพที่นอนไม่ได้ แถมง่วงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
 
ทำให้หลายครั้งช่วงเวลาหลังทานอาหารกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมตอนบ่าย การขายงานตอนบ่าย หรือแม้แต่การนั่งทำงานตอนบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่าที่ควรจะเป็น ง่วงก็ง่วง นอนก็ไม่ได้ แถมงานก็ออกมาไม่ดีเพราะไม่มีสมาธิกันอีกต่างหาก แต่ทราบกันหรือไม่ว่า อาการนี้เป็นหนึ่งอาการทางการแพทย์ที่มีการศึกษากันอย่างจริงจัง และเราสามารถเรียกอาการแบบนี้ได้ว่า ‘Food Coma’
 
เจ้า Food Coma หรือที่ทางการแพทย์เรียกกันว่า Postprandial somnolence ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คืออาการง่วงนอนหลังจากทานอาหารมานั่นเอง ซึ่งมันก็เกิดจากการที่ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตเข้ามา แล้วทำให้ร่างกายต้องนำพลังงานไปใช้กับการย่อยมากขึ้น จนทำให้พลังงานในการทำหน้าที่อื่นนั้นลดน้อยลงจนเกิดอาหารง่วง และยังมีเรื่องของการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย อย่างการสร้างสารสื่อประสาทซีโรโทนินที่ทำให้รู้สึกง่วง เหมือนว่าร่างกายจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนมากกว่า ไม่พร้อมทำงาน สมองไม่แล่น คิดอะไรก็ไม่ออก
 
แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่มีอาการนี้ เพราะเหล่าแมลง งู หนอน หรือแม้กระทั่งหนูก็ดูเหมือนประสบปัญหาอาการอิ่มแล้วง่วงด้วยเหมือนกัน
 
ทำงานก็ไม่ไหว จะนอนก็ดูไม่ดีจนส่งกระทบไปหลากหลายด้าน แต่ข้าวกลางวันก็เป็นมื้อที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเราจะทานอาหารแบบไหนที่ไม่ให้เกิด Food Coma กันได้บ้างล่ะ?

ลดอาหารประเภทแป้งน้ำตาล

อาหารที่มีไขมันสูงก็ต้องการพลังงานในการย่อยเยอะ เพราะฉะนั้นก็จะทำให้คุณง่วงมาก พยายามบาลานซ์พืชผักผลไม้ในมื้ออาหารไว้ให้ดีก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

เคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้น

กระเพาะจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก และที่สำคัญการที่เราเคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้นจะทำให้เราทานอาหารช้าขึ้นไปด้วย มันจะทำให้น้ำตาลในเลือดไม่สูงเร็วจนเกินไป แล้วมันจะช่วยให้เราทานอาหารได้ในปริมาณพอดี ไม่อิ่มจนเกินควร

อย่าเพิ่งเริ่มทำงานหลังทานอาหาร

หลังทานอาหารเสร็จลองใช้เวลาสัก 10 – 15 นาทีไปกับการทำกิจกรรมอย่างอื่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามตลาดใกล้ออฟฟิศ การเดินเมาท์กับชาวบ้าน ใช้เวลาไปกับการชงกาแฟหรือชา
 

แบ่งงานที่ไม่ต้องใช้สมองไว้ทำช่วงนี้

อย่างที่เราระบุข้างต้น สมองมักจะไม่ค่อยแล่นในช่วงเวลาดังกล่าว หากจำเป็นต้องทำงานจริงๆ อาจจะทำพวกที่เป็นกิจวัตรไปก่อนก็ได้ อย่าเพิ่งทำงานที่มันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากนัก

ขยับร่างกายหลังมื้ออาหาร

มีข้อมูลจากหลายแห่งระบุว่า ให้มีการขยับร่างกายอยู่เสมอ จนถึงขั้นแนะนำให้ทำโยคะกันแบบย่อมๆ เลยทีเดียว แต่เรารู้สึกว่า ถ้าทำโยคะในที่ทำงานอาจจะแปลกไปสักหน่อย ขอขยับร่างกายเล็กๆ ไปกับกิจกรรมที่พอทำได้ในออฟฟิศก็น่าจะช่วยได้อยู่
 
เอาจริงๆ แล้ว Food Coma ไม่ใช่เรื่องราวที่ร้ายแรงหรืออันตรายอะไรนัก (แต่ถ้าอาการหนักผิดสังเกตก็ควรปรึกษาแพทย์นะ) แต่หลายครั้งมันมักจะส่งผลต่อการทำงานหรือภาพลักษณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอาเป็นรู้ไว้แล้วลองไปปรับใช้ในแบบที่เหมาะสมกับตัวเองน่าจะดีที่สุด!