ปลากุเลาเค็มตากใบ ‘ไม่ปลอม’ แต่ทั้งอำเภอมีเพียง ‘เจ้าเดียว’ ที่บอกว่า ‘ได้มาตรฐาน 5 ดาว’ จนได้ขึ้นโต๊ะ APEC
ปลากุเลาตากใบ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่า ‘ราชาปลาเค็ม’ ได้รับการประชาสัมพันธ์จากสื่อภาครัฐว่าเป็นอาหารที่จะใช้เป็น Soft Power ในเมนูจัดเลี้ยงสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ แต่กลุ่มธุรกิจประมงในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สงสัยว่าทำไมไม่มีผู้จำหน่ายในพื้นที่รายใดที่ได้รับการติดต่อซื้อปลากุเลาไปขึ้นโต๊ะในเวทีเอเปคเลย จนเกิดคำถามว่าเป็นปลากุเลาเค็มปลอมหรือไม่? แต่ในที่สุด ร้าน ‘ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ’ ก็ออกมาชี้แจงว่าสินค้าจากร้านของตนเป็น ‘ปลาเค็มตากใบแท้ๆ’ และเป็น ‘ร้านเดียว’ ที่ได้รับเลือกนำไปจัดเลี้ยงในเวทีเอเปคครั้งนี้
เฟซบุ๊กเพจของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบโพสต์ชี้แจงช่วงค่ำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 หลังจากมีการรายงานข่าวโดยศูนย์ข่าวภาคใต้ ThaiPBS ว่า ผู้ค้าปลากุเลาเค็มตากใบตั้งข้อสงสัยว่าปลาเค็มตากใบในเวทีเอเปคมาจากไหนกันแน่ และทางร้านป้าอ้วนฯ ยืนยันว่าปลากุเลาเค็มเอเปค ‘ไม่ปลอม’ แต่ที่กลุ่มผู้ค้าปลากุเลาเค็มในตากใบไม่รู้เรื่องว่าสินค้าของใครได้รับเลือกไป เป็นเพราะก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่มาซื้อปลากุเลาเค็มของทางร้านไปจำนวน 1 ตัว ‘เพื่อนำไปชิม’ และภายหลังตัวแทนของรัฐสั่งซื้อเพิ่มเติมผ่านระบบออนไลน์ของทางร้าน
อย่างไรก็ดี ทางร้านมีผู้สั่งซื้อปลาวันละหลายหมื่นบาทในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลังกระแสข่าวเอเปคจึงไม่ทันได้ตรวจสอบในตอนแรกว่าใครเป็นผู้ซื้อไปแต่ภายหลังยืนยันได้ว่าตัวแทนของหน่วยงานภาครัฐสั่งปลากุเลาเค็มตากใบจากร้านของตนเรื่องนี้จึงเป็นข้อผิดพลาดด้านการสื่อสารภายในกลุ่มผู้ค้า
ทั้งนี้ ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนฯ ตั้งอยู่ในตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ และระบุว่า ปลากุเลาเค็มตากใบจากร้านของตนเป็นเพียง ‘รายเดียว’ ในตากใบ ที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่น่าเชื่อถือ (มผช.) ระดับ 5 ดาว จนได้รับเลือกไปขึ้นโต๊ะจัดเลี้ยงในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 หรือ APEC 2022
อย่างไรก็ดี ปลากุเลาเค็มที่วางจำหน่ายในไทยไม่ได้มีที่มาจากตากใบเพียงแหล่งเดียว เพราะ รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า ‘ปลากุเลาเค็ม’ ที่นำมาจัดเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC นอกจากจะเป็นสินค้าเลื่องชื่อของอำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาสแล้วยังเป็นสินค้าโด่งดังของจังหวัดปัตตานีด้วย
รองโฆษกฯ ได้อ้างถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หน่วยงานรัฐซึ่งเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการแปรรูปอาหารทะเลเพื่อสร้างอาชีพและรายได้สู่ชุมชน โดยมีการอ้างถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ‘โอรังปันตัย’ ซึ่งเป็นเครือข่ายประมงในจังหวัดปัตตานี ก็เป็นหนึ่งในผู้จัดหาวัตถุดิบและจัดทำปลากุเลาเค็มนอกเหนือจากแหล่งปลาเค็มตากใบ
ขณะที่ มูหามะสุกรี มะสะนิง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย ให้สัมภาษณ์กับ BrandThink เพิ่มเติมว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาชุมชนประมงในจังหวัดปัตตานีเป็นหนึ่งในแหล่งจับปลากุเลาที่ชุกชุมมากในไทยหลังจากที่มีโครงการปะการังเทียมฟื้นฟูแหล่งน้ำในทะเลเมื่อหลายปีก่อนทั้งยังมีการส่งวัตถุดิบไปให้กลุ่มผู้ผลิตปลากุเลาเค็มที่ตากใบด้วยเช่นกัน
ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปลากุเลา คือ Eleutheronema tetradactylum แต่เนื้อหาในรายงานฉบับหนึ่งของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อปี 2562 เรียกปลาชนิดนี้ว่า ‘ปลากุเรา’ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3tO5Rgp)
ปลากุเลา (หรือกุเรา) พบได้บริเวณชายฝั่งทะเลทั้งในจังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส แต่เพราะเนื้อปลากุเรามีรสชาติดี จึงมีราคาสูง นิยมขายเป็นปลาสดหรือปลาเค็ม พร้อมระบุว่า ‘ปลากุเราเค็ม อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส’ มีชื่อเสียง ขายได้กิโลกรัมละ 1,200-1,500 บาท และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 72.9 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลกรมประมงในปี 2561)
อ้างอิง
- Facebook. ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ. https://bit.ly/3hKgjmg
- Facebook. กุเลาเค็ม อินทรีย์เค็ม โอรังปันตัย. https://bit.ly/3gapfka
- Facebook. Southern ThaiPBS. https://bit.ly/3WYT3AY
- PRD. Soft Power “ปลากุเลาจากตากใบ” ในเวทีเอเปค 2022. https://bit.ly/3g5IRGf