กังวลจนนอนไม่หลับ พยายามหลับตาหรือเข้านอนเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถข่มตาได้เพราะเราเอาแต่กังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วางแผนเตรียมการจนสุดท้ายเราก็ไม่ได้พักจากเรื่องเครียดจริงๆ เสียที
เราทุกคนล้วนคิดมากเรื่องอนาคต เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง อาจจะเกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งรับก็ได้ ความกังวลจึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน แต่จะกังวลมากกังวลน้อยแตกต่างกันไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีรับมือของเราด้วย
การที่เราเอาแต่กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะว่าร่างกายและจิตใจของเรากำลังจดอยู่ในความกลัวกับเรื่องในอนาคต เกิดความกังวลเกี่ยวกับสิ่งเลวร้ายจนเราต้องคอยพยายามวางแผนล่วงหน้า เพื่อที่เราสามารถปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดเหล่านั้น
หากเรากังวลมากๆ ร่างกายของเราจะเครียดและจิตใจของเราจะคิดถึงแต่สิ่งไม่ดี ทำให้เราไม่มีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน ทำอะไรก็มักผิดพลาดบ่อยๆ ได้ ความวิตกกังวลของเรานี้ยังส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา ทั้งเรื่องอาหารและการนอนหลับยากของเราอีกด้วย การนอนไม่หลับ เครียดตลอดเวลา ไม่สบายกาย ฝ่ามือมีเหงื่อออก
ไม่ใช่เรื่องดีหากเรามัวแต่จมอยู่กับความวิตกกังวลที่เลวร้ายตลอด มันอาจจะรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรา สิ่งที่เราสามารถรับมือกับความกังวลในอนาคตได้
สูดหาใจเข้าลึกๆ
เทคนิคการหายใจเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้กับความกังวลทุกรูปแบบ เราสามารถเริ่มต้นได้ทันทีด้วยการหายใจลึกๆ ช้าๆ หายใจเข้า หายใจออก
เขียนไดอารี่
การเขียนไดอารี่ทำให้เราสามารถมองย้อนกลับไป ช่วยให้เราเห็นมุมมองที่เคยผ่านมาในอดีต อาจทำให้เรามองเห็นปัญหาและหาทางแก้ไขง่ายขึ้น
การผ่อนคลาย
การไปวิ่งเล่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง ว่ายน้ำ หรือการเปิดเพลงสนุกๆ และเต้นไปด้วย จะช่วยให้เราผ่อนคลายกล้ามเนื้อศีรษะได้ดี
พูดคุยแลกเปลี่ยน
เราอาจโทรหาสมาชิกในบ้าน หรือนัดกินข้าวกับเพื่อนวัยเรียนสัปดาห์ละครั้ง เพื่อคุยแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิต เราอาจจะได้ทางแก้ปัญหามาจากพวกเขาเหล่านั้นก็ได้
ขอความช่วยเหลือ
หากความวิตกกังวลวนเวียนในใจของเราจนปล่อยไม่ได้ เราจะแย่ลงเรื่อยๆ เราควรปรึกษาจิตแพทย์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราจัดการความกังวลได้ นั่นก็เพื่อตัวเราเอง
บางทีเราควรจะปล่อยวางกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แล้วพยายามอยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดีที่สุด เราอาจจะเตรียมพร้อมกับอนาคตเท่าที่เราพอจะทำได้ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป แต่เมื่อใดที่เรารู้สึกไม่ไหว การพบผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาความกังวลเราได้เช่นกัน
อ้างอิง
- healthline. Meet Anticipatory Anxiety, The Reason You Worry About Things That Haven’t Happened Yet. https://bit.ly/3iuRsjr
- MHA Screening. I can’t stop thinking about bad things that could happen. https://bit.ly/3Nnbk6r
- WELL CLINIC. 5 Tips To Feel Less Anxiety About The Future. https://bit.ly/36zCRAr