2 Min

หวั่นซ้ำรอย ‘เชอร์โนบิล’ หลังไฟไหม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน ท่ามกลางสมรภูมิต่อสู้กับ ‘กองทัพรัสเซีย’

2 Min
317 Views
04 Mar 2022

การสู้รบดุเดือดหลังกองกำลังรัสเซียบุกยูเครนต่อเนื่องนานเกือบสัปดาห์ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้อาคารในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในยุโรป สร้างความกังวลให้กับคนทั่วโลกว่าอาจเกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด สร้างความเสียหายซ้ำรอยโรงไฟฟ้า ‘เชอร์โนบิล’ อีกครั้ง

สถานที่เกิดเหตุครั้งนี้คือโรงไฟฟ้าซาปอริซเซีย (Zaporizzhia) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้ามากกว่า 1 ใน 5 ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในประเทศยูเครน โดยในโรงงานมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมด 6 เครื่อง

อันดรี ทุซ (Andriy Tuz) เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของโรงไฟฟ้าดังกล่าวระบุว่าเหตุเกิดขึ้นจากกองทัพรัสเซียระดมยิงกระสุนจนเข้ามาบริเวณโรงงาน และทำให้ 1 ในเตาปฏิกรณ์ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมถูกเพลิงไหม้ และแม้จะไม่ได้ถูกใช้งาน แต่ยังมีพลังงานนิวเคลียร์อยู่ 

โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นให้ทนทานการโจมตีทางอากาศโดยตรง แต่ปัญหาคือการสูญเสียพลังงานและการระบายน้ำที่ใช้เก็บกากเชื้อเพลิงใช้แล้ว ถ้าไม่มีการจัดการที่ดีจะทำให้เชื้อเพลิงเย็นลงอาจเป็นเหตุให้ปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมา

ในขณะที่ ดมีโทร คูลีบา (Dmytro Kuleba) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่าหากยังมีการกระหน่ำยิงและโรงงานระเบิดอาจทำให้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ร้ายแรงกว่าเชอร์โนบิลถึง 10 เท่าได้ และขณะนี้กำลังจัดการพื้นที่เพื่อให้หน่วยดับเพลิงเข้าไปตรวจสอบและประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยรอบโรงงาน

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าการโจมตีของกองกำลังรัสเซียส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยพวกเขาได้โจมตีโรงงานด้วยปืนและระเบิด ทั้งยังโจมตีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของยูเครนหลายราย สถานการณ์เพลิงไหม้สร้างความกังวลให้กับประชาชนยูเครนและทั่วโลก

ต่อมาสำนักข่าว AFP รายงานผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของยูเครนได้ทำการยืนยันว่าสถานการณ์เพลิงไหม้ที่โรงงาน ซาปอริซเซีย ‘ปลอดภัยแล้ว’ และก่อนหน้านี้สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ก็ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ตรวจพบระดับการเปลี่ยนแปลงของรังสี แต่ยังคงเรียกร้องให้กองกำลังรัสเซียยุติการใช้กำลัง เนื่องจากหากมีการโจมตีอีกครั้งและเกิดการระเบิดขึ้นจำเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง

ขณะที่เหตุการณ์โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ‘เชอร์โนบิล’ ระเบิดและนิวเคลียร์รั่วไหล เกิดขึ้นที่เมืองปรือเปียต (Prypiat) แคว้นเคียฟ ทางตอนเหนือของยูเครน ใกล้ชายแดนเบลารุส เมื่อ 26 เมษายน 1986 ซึ่งตอนนั้นทั้งสองประเทศยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตอยู่ 

แม้กรณีเชอร์โนบิลจะถูกระบุว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความหละหลวมของวิศวกรที่ดูแลโรงไฟฟ้า ทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องยาวนานอีกหลายสิบปีหลังเกิดเหตุ 

องค์กรระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม ‘กรีนพีซ’ เคยรายงานว่าพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรรอบๆ โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลยังคงเป็น ‘พื้นที่ปนเปื้อน’ เกินที่จะมีผู้คนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ และผู้คนอีกหลายล้านคนในบริเวณห่างออกไปยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เพราะอาจเสี่ยงกับสารปนเปื้อน และช่วงที่เกิดเหตุการณ์เชอร์โนบิลได้ไม่นาน มีเด็กๆที่อยู่ในรัศมีที่กัมมันตรังสีสามารถแผ่ไปถึงต่างป่วยเป็นโรคมะเร็งจำนวนมาก ส่วนผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คนจากนิวเคลียร์ที่รั่วไหลในเหตุการณ์นี้

อ้างอิง 

  • Reuters. Fierce fighting sparks fire outside Ukrainian nuclear plant – officials. https://reut.rs/3Mmpfc5
  • independent. Ukraine warns of disaster ‘10 times larger than Chernobyl’ as biggest nuclear plant ‘under heavy weapons fire’ . https://bit.ly/3Kgq2d2
  • cbsnews. Fire breaks out at Europe’s largest nuclear power plant after shelling, officials say. https://cbsn.ws/3HH23le
  • AFP. https://bit.ly/3sEdWEm
  • Greenpeace. ผลกระทบของนิวเคลียร์ต่อชีวิต และการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม. https://bit.ly/3pCwmn1