สวัสดีครับ
จริงๆ เรื่องราวหรือคอนเทนต์ที่จะ publish หรือนำเสนอในบทความนี้ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับงาน Maho Rasop (พอดี Join Campaign นี้มา) หรือเกี่ยวอะไรนักกับทาง Thinkster นัก แต่เนื่องจาก platform นี้ได้อนุญาตให้แชร์คอนเทนต์ที่ทำอยู่และอยากจะกระจายให้หลายๆ คนที่สนใจมาติดตามสิ่งที่ผมทำอยู่มากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ผมทำอยู่คือทำเพจ Facebook ชื่อ “FPL Deep-Talks” เพื่อแชร์และวิเคราะห์เรื่องราวของเกม “Fantasy Football” ในลีก Premier League ของประเทศอังกฤษครับ
สำหรับท่านที่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า Fantasy Football นะครับ จริงๆ มันคือ “เกม” ที่อิงคะแนนจากการผลงานของนักฟุตบอลและการแข่งขันจริงๆ เป็นหลักครับ โดยเพจของผมเนี่ยจะนำเสนอคอนเทนต์ เรื่องราว ทิปส์แอนด์ทริกส์ หลักๆ จาก Fantasy Premier League หรือจะโฟกัสไปที่ลีกประเทศอังกฤษครับ
ซึ่งความสนุกของเกมนี้ที่ทางผมหลงใหลจนต้องมาทำเพจเนี่ย ก็เพราะว่าเกมนี้มันต้องใช้สกิลในการ “ดูบอล” จริงๆ ในการเลือกตัวนักเตะเข้าทีมครับ คือเกมนี้เริ่มเกมมามันจะมีงบให้เรา 100 ล้านปอนด์ เพื่อจะได้ไปเลือกนักเตะที่อยู่ใน Premier League อังกฤษเข้าทีม โดยราคาของนักเตะก็จะแตกต่างกันไปตามชื่อเสียงของทีม หรือตามฝีเท้าของคนนั้นๆ และที่สำคัญคือหากนักเตะของเราฟอร์มดี ราคาก็จะขึ้น หากนักเตะที่เราถืออยู่ฟอร์มตก ราคาก็จะตกตามไปด้วย และเมื่อจบวีคที่มีแข่งวีคนั้นๆ ระบบจะคำนวณคะแนนเราออกมาให้ โดยมีสิ่งที่กำหนดคือ “การจัดอันดับ” นั่นเองครับ ซึ่งทุกคนจะมี Overall Rank ที่เอาไว้วัดฝีมือกับคนทั้งโลก และยังมี Rank เฉพาะประเทศด้วย ยังไม่พอครับ เราสามารถสร้าง Mini-League เพื่อเล่นกับเพื่อนกันเองหรือคนในกลุ่มไม่กี่คนได้ แถมคะแนนมันคือการคิดจากการยิงของกองหน้า การจ่ายให้เพื่อนทำประตูของกองกลาง การไม่เสียประตูของโกลหรือกองหลัง ทำให้คนที่เล่นเกมนี้มี passion ในการดูฟุตบอลมากยิ่งขึ้น 10-20 เท่าเลยทีเดียว
ทำให้ผมมองว่าเกมนี้มันไม่ใช่แค่เกมที่เล่นเอาสนุกแล้วล่ะ มันมีทั้งการ forecast นักเตะที่เราคิดว่าจะเล่นดี ซึ่งมีผลทำให้คะแนนเราดีตาม หรือการติดตามฟุตบอลเพื่อหานักเตะแปลกๆ เข้าทีม หรือการอดทนอดกลั้นในการเปลี่ยนตัวนักเตะ เพราะความยากของเกมนี้คือใน 1 สัปดาห์ทางเกมจะมีโควต้าให้เราเปลี่ยนตัวได้แค่ 1 ตัวจาก 15 คนในทีมเราเท่านั้น ฉะนั้นแล้วการที่จะเปลี่ยนตัวในทีมเรา ต้องใช้ statistic, analysis and be patient เพื่อคิดและวิเคราะห์ว่าจะนำนักเตะคนไหนเข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้วมันคุ้มกับ price and value หรือไม่นั่นเอง
พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงเข้าใจแล้วสินะครับ ว่า Fantasy Football เนี่ยมันไช่แค่ “เกม” จริงๆ (หัวเราะ)
และอีกเหตุผลนึงที่สร้างเพจและอยากแชร์เรื่องราวเพราะว่า เราอยากให้คนที่ดูฟุตบอลลีกอังกฤษอยู่แล้ว มาเล่นเกมนี้กันเยอะๆ เพราะจะได้ฝึกในการวางแผน การ forecast และการอดทนอดกลั้น เพื่อที่จะได้นำไป adjust กับชีวิตจริงๆ ของเราได้ และมันก็คือสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้นั่นเอง – ขออนุญาตแชร์บทความ 3 สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังจากที่ได้เล่นเกม Fantasy Premier League จริงจัง ครับผม
1) Be Patient (อดทนอดกลั้น) อยู่เสมอ — สิ่งแรกสุดที่ตัวผมเองได้เรียนรู้จาก FPL คือความอดทนอดกลั้นครับ
FPL สอนให้เรารู้จักใช้อารมณ์อย่างมีประโยชน์และใจเย็นให้ได้มากที่สุด รู้จักอดทนต่อสิ่งเร้ารอบตัวต่างๆ
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องการซื้อขายตัวผู้เล่น หากเรารีบซื้อเข้าทีมหลังจากที่โดนตกจากการเห็นฟอร์มการเล่นของนักเตะคนนั้นๆ ในสุดสัปดาห์ ข้อดีคืออาจจะได้ราคานักเตะตัวนั้นๆ ก่อนราคาขึ้น แต่ Risk (ความเสี่ยง) ที่ตามมามันมีผลมหาศาล เพราะเราไม่รู้เลยว่าอนาคตเกมจะถูกเลื่อนเพราะโควิดไหม นักเตะคนนั้นได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมในภายหลังหรือเปล่า หรือนัดต่อไปจะโดนดร็อปเป็นตัวสำรองไหม สิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงทั้งนั้น
ฉะนั้นการซื้อขายตัวผู้เล่น FPL มันคือการทดสอบความอดทนอดกลั้นของคุณครับ ยิ่งเปลี่ยนตัวช้าได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากๆ ซึ่งผมได้นำมันมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนอดทนกับสิ่งต่างๆ ไม่ค่อยดี และใจร้อนมากๆ แต่พอได้ทำความเข้าใจกับเกม FPL ทำให้แอดมีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น เหตุเพราะเป็นผลพวงมาจากการที่เราต้อง Be Patient กับทุกสถานการณ์ในเกม FPL ตลอดเวลานั่นเอง
2) Planning — การแผนวางแผนอย่างเป็นระบบระเบียบ
ปกติแล้วชีวิตผมเป็นคนที่ไม่ชอบการวางแผนครับ ชอบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไป หรือรอให้ปัญหาเกิดแล้วค่อยแก้ ไม่เคยมี Planning เลย
แต่พอได้สัมผัสกับ FPL มันกลายเป็นมากกว่าแค่เลือกตัวนักเตะเพื่อให้ทำคะแนนครับ เพราะเราต้องมีการวางแผนในการนำตัวผู้เล่นที่มี Fixtures & Form ดีๆ เข้าทีม การวางแผนเพื่อคาดคะเนฟอร์มจากสถิติ สิ่งเหล่านี้ผมนำมันมาประยุกต์ใช้กับการวางแผนการใช้ชีวิตครับ
เลยกลายเป็นว่าทุกวันนี้ เวลาจะทำอะไรต้องวางแผนก่อนเสมอ อาจจะไม่ใช่วางแผนระยะยาวอะไรมากนักนะครับ บางเรื่องก็วางแผนระยะสั้นๆ เพื่อเราจะได้คิดเกี่ยวกับปัญหาที่จะตามมาเอาไว้ก่อน หรือพูดง่ายๆ คือการ forecast (คาดเดา) ปัญหา เพราะเรามี planning เอาไว้แล้ว มันจะทำให้การแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ง่ายขึ้นครับ
3) Self-Confidence — การเชื่อมั่นในตนเอง
นิสัยของผมแล้วปกติเป็นคนไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเองสักเท่าไหร่ครับ เพราะชอบคิดว่าคนอื่นศึกษามากกว่า คนอื่นค้นคว้ามากกว่า เลยต้องเชื่อตามๆ เค้าไป
แต่ทว่าหลังจากได้เล่น FPL แล้ว ปัจจุบันกลายเป็นคนโคตรเชื่อมั่นในตัวเองครับ เพราะ FPL ให้บทเรียนกับผมมากๆ ครับ
เพราะการเล่น FPL เราต้องดูทั้งสถิติทั้ง Eye-test (การวิเคราะห์จากการดูบอลจริงๆ) ซึ่งในช่วงแรกๆ ผมมักจะไม่เชื่อ Eye-test ตัวเองครับ ไปเชื่อ Eye-test กับสถิติที่คนอื่นๆ จัดหามาให้ ซึ่งจริงๆ เค้าก็ไม่ผิดนะครับ ซึ่งผมเลยกลับมาคิดว่า เอ่ ถ้าเรามีข้อมูลในมือเนี่ย ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี แล้วทำไมเราถึงไม่เชื่อตัวเองในการ “เลือกนักเตะ” สักคนเข้าทีมกันล่ะ?
หลังจากนั้นผมเลยกลายเป็นคนที่ชอบหาข้อมูลทั้งสถิติและ Eye-test เพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด แล้วเอามาวิเคราะห์โดยตัด bias และสิ่งรบเร้าต่างๆ ออก โดยก่อนจะกดเปลี่ยนตัว เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองให้มากๆ เพราะผลที่จะได้รับกลับมา เราไม่ต้องโทษใคร โทษที่ตัวเราเอง และหาทางแก้ปัญหากันต่อไปครับ
สิ่งนี้ทำให้ผมนำมันมาปรับใช้ในการตัดสินใจของชีวืตประจำวัน ทั้งเรื่องงาน ฯลฯ มันทำให้ดูมั่นใจมากขึ้นเวลาจะทำอะไรครับ
ปัจจุบันผมก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมากมายครับ เพิ่งเล่นจริงจังเป็นฤดูกาลที่ 2 (แต่เคยจัดขำๆ ไว้ตั้งแต่ช่วงปี 2011/12 เรื่อยๆ มา) แต่สิ่งที่ได้กลับมาจาก FPL นั้น ผมไม่สามารถประเมิณค่าได้เลย
สำหรับผมแล้ว FPL มันเป็นยิ่งกว่าเกมจัดตัวนักเตะครับ
มันเป็นทั้งครูช่วยสอนให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจกลไกตลาด เข้าใจการวางแผน และที่สำคัญที่สุดคือเปลี่ยนคนใจร้อนอย่างผมให้กลายเป็นคนใจเย็นได้!
แค่นี้ก็พอแล้วครับ
ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ครับ 🙂
*ติดตามเพจของเราได้ที่ https://www.facebook.com/fantasydeeptalks นะครับผม