2 ปีผ่านไป ‘เอริเทรีย’ เป็นประเทศหนึ่งเดียว ที่ยังไม่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 แม้แต่หนึ่งเข็ม
เอริเทรีย ชาติในแอฟริกาตะวันออก เป็นชาติเดียวในโลกนอกเหนือจากเกาหลีเหนือที่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนแม้แต่เข็มเดียว โดยเอริเทรียไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก และปฏิเสธความช่วยเหลือจากภายนอกมาโดยตลอด แม้ตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตจะอยู่ในระดับต่ำ แต่หลายชาติยังกังขาถึงความถูกต้องของข้อมูล และกังวลว่าเอริเทรียอาจเป็นพื้นที่เพาะเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้หากมีการระบาดหนัก
มนุษยชาติต่อสู้กับโควิด-19 มาร่วม 2 ปีเต็มๆ และหนทางในการต่อสู้กับโรคนี้ก็มีอยู่ไม่มากมายนัก คือ การล็อกดาวน์ตัดการเชื่อมต่อเหมือนในช่วงแรกๆ ของการระบาด จนกระทั่งไล่ฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อบรรเทาการติดเชื้อและการป่วยอาการหนัก ดังนั้นตั้งแต่วัคซีนเริ่มพัฒนา เราเห็นภาพนานาชาติยื้อแย่งและเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนของตัวเองกันอย่างจริงจัง
แต่รู้ไหมว่าปัจจุบันถ้าหากเราไม่นับเกาหลีเหนืออันลึกลับที่รู้กันดี ประเทศ ‘เอริเทรีย’ ในแอฟริกาตะวันออก เป็นประเทศหนึ่งเดียวในโลกที่ยังไม่เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเลยแม้แต่เข็มเดียว
เอริเทรียเป็นหนึ่งในประเทศที่สันโดษมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และปกครองด้วยระบอบเผด็จการมาราว 3 ทศวรรษ ไม่มีรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง สื่อเสรี และเป็นชาติที่มีกองทัพใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกา ปัจจุบันผู้นำสูงสุดคืออิสยาส อัฟเวอร์กี (Isaias Afwerki)
แต่การที่เอริเทรียยังไม่เริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนก็เป็นประเด็นที่ภูมิภาคแอฟริกามีความกังวลในการแพร่ระบาด และ 55 รัฐของสหภาพแอฟริกา (AU) ยังคงต้องการและผลักดันให้เอริเทรียเข้าร่วมการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกับชาติอื่นๆ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่เกลี้ยกล่อมให้ผู้นำเอริเทรียหันมาสนใจฉีดวัคซีนให้คนในชาติได้สำเร็จ
เชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เอริเทรียไม่เข้าร่วมการฉีดวัคซีนเป็นเพราะประเทศในแอฟริกาส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนจากโครงการ COVAX โครงการแบ่งปันวัคซีนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยมีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่าในเอริเทรียมีการชวนเชื่อว่าโครงการ COVAX เป็นอาวุธแบบใหม่ของชาติตะวันตกที่ต้องการทำลายแอฟริกาและแย่งชิงความมั่งคั่งไปจากพื้นที่
เอริเทรียต้องการประกาศจุดยืนว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก ทำให้อิสยาสผู้นำสูงสุดปฏิเสธความช่วยเหลือมาตั้งแต่เริ่มต้นมีการระบาดและตลอดมา ในปี 2020 มหาเศรษฐีจีน แจ็ก หม่า (Jack Ma) ได้ส่งเครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์ป้องกัน และชุด PPE ให้กับแอฟริกา เอริเทรียก็เป็นประเทศเดียวที่ปฏิเสธการรับบริจาคเช่นกัน

Abiy Ahmed and Isaias Afwerki | amazonaws
นอกจากนี้หลายคนยังเชื่อว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองในภูมิภาคทิเกรย์ ที่ต้องการแยกตัวจากเอธิโอเปีย หลังผู้นำเปลี่ยนทิศทางการเมืองในปลายปี 2020 โดยเชื่อว่ากองกำลังของเอริเทรียเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ และ เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ซึ่งเป็นชาวเอธิโอเปีย เคยเป็นสมาชิกของกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยทิเกรย์ (TPLF) ทำให้ประธานาธิบดีอิสยาสไม่ต้องการให้ความร่วมมือ

eritrean women on street | americamagazine
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 ในเอริเทรียอยู่ในระดับน้อยมากมาตั้งแต่เริ่มการระบาด อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลปฏิเสธการรับบริจาควัคซีนอย่างแข็งขัน แต่หลายคนก็ยังตั้งข้อกังขาต่อความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อมูลตัวเลขเหล่านี้อยู่ เนื่องจากรายงานมีเฉพาะจากรัฐบาลเท่านั้น และการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จึงอาจทำให้ประชาชนไม่มาตรวจ
นอกจากนี้มีรายงานว่าผู้คนไม่ต้องการตรวจเมื่อป่วย เพราะหากพบว่ามีเชื้อโควิด-19 จะต้องออกจากบ้านเพื่อไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่กักตัว ผู้ที่ป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิตจะไม่มีการพบหน้าครอบครัวอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อความเชื่อและศาสนาของคนในพื้นที่อย่างมาก ส่งผลให้ประชาชนไม่ต้องการตรวจหาเชื้อ และอาจทำให้เราไม่รู้สถานการณ์การระบาดที่แท้จริงในพื้นที่
ท่าทีไม่สนใจวัคซีนของเอริเทรียทำให้หลายชาติรอบข้างเป็นกังวล เพราะหากมีการแพร่ระบาดภายในโดยไม่รับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริง เป็นไปได้ที่เอริเทรียอาจกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อสายพันธุ์ใหม่ได้โดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
อ้างอิง
- Vice. The Country Not Vaccinating Anyone Against COVID. https://bit.ly/3yR7hIH
- Reuters. Eritrea has not started vaccinating against COVID, says Africa CDC. https://reut.rs/3EkkACj
- Daily Sabah. Eritrea is the only African country without COVID-19 vaccination> https://bit.ly/3JcSi0c