‘ทปอ.’ ผู้ควบคุมระบบการจัดสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไทย เจอกระแส #แบนทปอ ถล่มหนักในสื่อโซเชียล หลังมีนักเรียนถามถึงการเข้าสอบซึ่งอาจเสี่ยงโควิด-19 และผู้ที่ดูแลเพจ ทปอ. ระบุว่า หากเสี่ยงก็ให้สอบปีหน้า หรือเลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบ รวมถึงชี้ว่า การเลื่อนสอบไม่ทำให้โควิด-19 หายไปจากประเทศไทย และนักเรียนต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
#แบนทปอ พุ่งขึ้นเทรนด์เป็นอันดับหนึ่งในโลกทวิตเตอร์ไทยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2022 หลังเด็กนักเรียนที่ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยระบบ TCAS ในปีนี้ และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ) ได้โพสต์ข้อความที่โต้ตอบกับเพจ ‘Mytcas.com’ ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารของ ทปอ.เอง เพื่อถามว่าหากมีผู้ติดโควิด-19 ก่อนสอบและหายไม่ทันจะต้องทำอย่างไร
ทางเพจได้ตอบกลับว่า “สอบปีหน้า หรือไม่ก็เลือกสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนสอบ”
คำตอบดังกาวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และมีเด็กปี 65 คนอื่นๆ ได้เข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับเพจ Mytcas.com ทั้งการถามเรื่องมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งได้รับคำตอบที่ใกล้เคียงกัน เช่น หากมีการติดเชื้อก่อนสอบต้องกักตัวและสมัครเรียนในสาขาที่ไม่ต้องใช้คะแนนวิชานั้น, ปัญหาเกิดจากใครคนนั้นควรเป็นคนแก้, หากยกเลิกการสอบวิชานั้นไม่สามารถคืนเงินได้ เนื่องจากกระบวนการคืนเงินสร้างภาระมากเกินไป, ไม่มีการตรวจ ATK ก่อนเข้าสอบเนื่องจากสร้างภาระมากเกินไปล่ะ
นอกจากนั้น เมื่อมีการเสนอให้เลื่อนสอบตามสถานการณ์โควิด-19 ทางเพจได้ตอบกลับว่า “การเลื่อนสอบ ไม่ได้เป็นเหตุให้ Omicron หายไปจากประเทศไทย”
บทสนทนาที่ถูกนำมาเปิดเผยทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่าการแนะนำจาก ทปอ.ซึ่งเป็นผู้ดูแลการสอบนั้นไม่ได้ให้ประโยชน์หรือทางออกแก่นักเรียนที่ต้องสอบเข้า ทั้งยังเป็นการผลักไสให้เด็กแบกภาระการสอบด้วยตัวเอง และอาจต้องเปลี่ยนเส้นทางอนาคตหากมีความเสี่ยงต่อโควิด-19 โดยต้องเปลี่ยนสาขาเรียนหรือเลื่อนไปสอบในปีหน้าแทน
ในขณะที่หลายความเห็นเปรียบเทียบการควบคุมการสอบในประเทศไทยกับการสอบซูนึง หรือระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศเกาหลีใต้ที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาภายใต้การระบาดของโควิด-19 เช่นกัน แต่กลับมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมากมายให้เป็นทางเลือกแก่นักเรียนที่ต้องเข้าสอบ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและต้องกักตัวจะมีการจัดสอบแยกในสถานที่กักตัวโดยเฉพาะ จำนวน 3,775 คน ส่วนอีก 35 คนที่ตรวจพบว่ามีเชื้อก็มีการจัดให้ทำข้อสอบจากภายในโรงพยาบาล
ส่วนเด็กนักเรียนที่สอบซูนึงทั่วประเทศเกาหลีใต้กว่า 500,000 คน มีการจัดเตรียมสนามสอบพร้อมมาตรการควบคุมและป้องกันโควิด-19 และเตรียมเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ รวมถึงผู้สอบทุกคนสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรีก่อนการเข้าสอบด้วย
ประเด็นที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไทยจึงไม่สามารถนำต้นแบบจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ได้ เพราะจากรูปการณ์ในปัจจุบันไม่มีแนวโน้มว่าจะมีมาตรการป้องกันใดๆ นอกเหนือจากการให้ผู้เข้าสอบระมัดระวังด้วยตัวเอง
อ้างอิง
- Twitter. #แบนทปอ. https://bit.ly/3FHGEaM
- PPTVhd36. เกาหลีใต้ คุมเข้มสอบ “ซูนึง” ท่ามกลางโควิดระลอก 3> https://bit.ly/35af8pU