4 Min

สื่อจี้รัฐสอบข้อมูลรั่ว ‘ธนาคารเครดิตสวิส’ พบหลายบัญชีโยงอาชญากร-ทุจริต-ฟอกเงิน ลูกค้าไทยนับพันได้รับผลกระทบด้วย

4 Min
423 Views
23 Feb 2022

อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ

เครือข่ายสื่อเชิงสืบสวนสอบสวนทั่วโลก เผยรายงาน #SuisseSecrets ซึ่งตีแผ่ปูมหลังลูกค้าธนาคารเครดิตสวิสกว่า 30,000 บัญชีจากประเทศต่างๆ โดยชี้ว่าลูกค้าหลายรายปกปิดและซุกซ่อนความมั่งคั่งของตัวเองจากการตรวจสอบของหน่วยงานที่รับผิดชอบภายในประเทศตัวเอง และหลายรายพบเบาะแสว่าเกี่ยวโยงกับอาชญากรรมการทุจริตคอร์รัปชันฟอกเงิน ทำให้สื่อเรียกร้องรัฐบาลทั่วโลกเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันและลงโทษผู้กระทำผิด แต่ธนาคารโต้กลับว่าสื่อใส่ร้ายป้ายสีเพื่อทำลายชื่อเสียง ขณะที่ลูกค้าไทยราว 1,000 บัญชีได้รับผลกระทบจากการเปิดโปงข้อมูลนี้ด้วย เพราะอาจจะถูกเหมารวมว่าเกี่ยวพันกับอาชญากรรมทั้งหมด

bank | Sahyadri Media

สื่อต่างประเทศรายงานกรณีแหล่งข่าววงในส่งต่อข้อมูลบัญชีของลูกค้าธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) รวมกว่า 30,000 บัญชี ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันแล้วมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) โดยในรายชื่อบัญชีเหล่านี้ มีทั้งบัญชีส่วนบุคคลและนิติบุคคลที่ฝากเงินกับธนาคารตั้งแต่ช่วงปี 1940 จนถึงปัจจุบัน

บุคคลนิรนามแจ้งเบาะแสข้อมูลเหล่านี้ครั้งแรกให้หนังสือพิมพ์ซึดดอยช์ (Süddeutsche Zeitung) สื่อของเยอรมนีเมื่อ 1 ปีก่อน ขณะที่เครดิตสวิสเป็นผู้ให้บริการด้านการเงินและธนาคารรายใหญ่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้น Süddeutsche ได้แบ่งปันข้อมูลที่ได้รับกับองค์กรไม่แสวงหากำไรและเครือข่ายสื่อมวลชนเชิงสอบสวนสอบสวนกว่า 50 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์กไทม์ส (New York Times) เดอะการ์เดียน (The Guardian) รวมถึงสำนักข่าวประชาไทในประเทศไทย

จากการตรวจสอบข้อมูลอยู่นานหลายเดือน พบว่าหลายบัญชีที่ถูกเปิดเผย เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมร้ายแรง เช่น การเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ ไปจนถึงการทุจริตในแวดวงการเมืองของประเทศต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของลูกค้าชาวไทยกว่า 1,000 บัญชีรั่วไหลออกมาด้วย โดยที่ลูกค้าไทยเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่รองจากเวเนซูเอลา อียิปต์ และยูเครน ซึ่งสำนักข่าวเดอะการ์เดียนระบุว่านี่เป็นกลุ่มประเทศที่มีปัญหาทางการเมือง และผู้คนต้องการซ่อนทรัพย์สินของตนเองไว้ในต่างประเทศ

bank | Sahyadri Media

อย่างไรก็ดี ผู้แจ้งเบาะแสแก่สื่อมวลชนระบุว่าไม่ใช่ทุกรายชื่อที่เปิดเผยจะเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือการเลี่ยงภาษี ในบัญชีเหล่านี้มีบัญชีที่ขาวสะอาดรวมอยู่ด้วย แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นบัญชีที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อปกปิดทรัพย์สินจากเงื่อนไขบางประการเช่นกัน

ขณะที่เครือข่ายสื่อมวลชนนานาประเทศที่อยู่เบื้องหลัง #SuisseSecrets เป็นการร่วมมือกันในโครงการรายงานข่าวอาชญากรรมและการคอร์รัปชัน (OCCRP: Organized Crime and Corruption Reporting Project) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเปิดโปงเครือข่ายบุคคลและนิติบุคคลในแวดวงต่างๆ ทั่วโลกที่เกี่ยวโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและการทุจริตคอร์รัปชัน และต้องการกดดันให้หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ธนาคารแถลงโต้ แต่พรรคการเมืองในสหภาพยุโรปจี้ตรวจสอบ

หลังถูกเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อ ธนาคารเครดิตสวิสได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าดำเนินธุรกรรมโดยมิชอบให้กับกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมาย และระบุว่าจากการพิจารณาบัญชีจำนวนมาก พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของบัญชีที่รั่วไหลได้ปิดบัญชีไปก่อนหน้านี้แล้ว และ 60 เปอร์เซ็นต์ปิดใช้งานมาตั้งแต่ก่อนปี 2015 แต่ทางธนาคารจะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อลูกค้าบางรายที่ถูกอ้างอิงถึงในข่าว ทั้งยังชี้ว่าข้อกล่าวหาของสื่อมวลชนกำลังทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของธนาคารอย่างร้ายแรง

bank | cdn

อย่างไรก็ดี ข่าวการรั่วไหลของข้อมูลลูกค้าธนาคารเครดิตสวิส ถูกเปิดหลังจากที่ธนาคารเผชิญหน้าเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับ อันโตนิโอ ฮอร์ตาโอโซริโอ (António Horta-Osório) อดีตประธานบริษัทที่ต้องออกจากตำแหน่งเพราะฝ่าฝืนมาตรการโควิด-19 ถึง 2 ครั้ง ทั้งยังมีข่าวว่าธนาคารเข้าไปพัวพันกับคดีฟอกเงินจากการค้าโคเคนของพ่อค้ายารายใหญ่ในบัลแกเรีย

และนี่ไม่ใช่ข้อกล่าวหาแรกของธนาคารเครดิตสวิส เนื่องจากธนาคารได้ให้บริการกับกลุ่มที่พัวพันกับคดีทางการเงินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตระกูลมาร์กอส (Marcos) อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ที่เคยถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่, โรนัลด์ หลี่ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่ติดคุกในคดีคอร์รัปชัน และโรดอลยุบ ราดูโลวิช (Rodoljub Radulović) ชาวเซอร์เบียที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์รายใหญ่

ข้อมูลที่รั่วไหลทำให้ธนาคารเครดิตสวิสถูกซ้ำเติม และหลายคนมองว่าธนาคารล้มเหลวในการตรวจสอบข้อมูลและวิเคราะห์สถานะของลูกค้า และยากต่อการตรวจสอบโดยอ้างมาตรการความเป็นส่วนตัวของธนาคาร

มาตรฐานด้านการเงินการธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์นั้นขึ้นชื่อระดับโลกในเรื่องการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า โดยสถาบันการเงินของสวิตเซอร์แลนด์จัดการทรัพย์สินราว 6,300 ล้านปอนด์ (ราว 277.6 ล้านบาท) ซึ่งกว่าครึ่งของทรัพย์สินเหล่านี้เป็นของลูกค้าต่างประเทศ ด้วยเงื่อนไขทางกฎหมายด้านการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นช่องโหว่ให้เกิดธุรกรรมของเหล่าอาชญากร การฟอกเงิน และการคอรัปชันได้โดยการโยกย้ายทรัพย์สินที่ไม่ถูกกฎหมายมาไว้ในธนาคารที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีหรือเลี่ยงการตรวจสอบทรัพย์สินในประเทศของตัวเอง

เหตุการณ์ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลที่เกิดขึ้นกับธนาคารเครดิตสวิสอาจส่งผลกระทบต่อภาคการเงินทั้งหมดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ โดยพรรคประชาชนยุโรป (European People’s Party : EPP) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองใหญ่ในรัฐสภายุโรป (European Parliament) ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรปทบทวนความสัมพันธ์กับสวิตเซอร์แลนด์ และเสนอให้เพิ่มในรายชื่อของประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมทางการเงินซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินให้กับสหภาพได้เช่นกัน

อ้างอิง

  • OCCRP. Who’s in the Suisse Secrets Leak? . https://bit.ly/3s8vuYZ
  • BBC. Credit Suisse denies wrongdoing after big banking data leak. https://bbc.in/3p5CELX
  • The Guardian. Revealed: Credit Suisse leak unmasks criminals, fraudsters and corrupt politicians. https://bit.ly/3s8eFgN
  • Sahyadri media. “Secret Suisse” scandal reveals accounts of over 1,000 discreet Thai banking purchasers in Switzerland – Investvine. https://bit.ly/3p1GYeY
  • The Guardian. Switzerland at risk of EU blacklist after Credit Suisse leak. https://bit.ly/3H73IjV
  • BBC. ข้อมูลรั่วเปิดโปง เครดิตสวิส เป็นแหล่งซุกซ่อนความมั่งคั่งของผู้พัวพันอาชญากรรม. https://bbc.in/3sVXjD6