โควิดมา ยาบ้าบูม! สื่อต่างชาติชี้ โควิด-19 หยุดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในอาเซียนไม่ได้เลย
Highlight
- สำนักข่าว Vice รายงานการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของตลาดยาเสพติดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งน่าเป็นกังวล โดยรายงานว่าปี 2020 ราคายาบ้าในไทย กัมพูชา และมาเลเซียถูกจนเป็นประวัติการณ์
- เชื่อว่าเพราะสามารถผลิตในต้นทุนที่ต่ำลงได้ พร้อมทั้งช่วงโควิด-19 กระตุ้นให้มีการส่งออกยาเสพติดไปนอกพื้นที่ด้วยกลวิธีต่างๆ จนขยายตลาดได้กว้างขวาง
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจการหลายประเภทล้มหายตายจากไปจำนวนมาก แต่ในอีกมุมกลับมีธุรกิจที่เฟื่องฟูกิจการดีไม่หยุดหย่อนในละแวกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แม้ในช่วงโควิด-19 คือ ธุรกิจ ‘ยาเสพติด’
ผลวิจัยปัญหาการค้าขายยาเสพติดผิดกฎหมายโดยสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรม จากสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) รายงานว่านอกจากการซื้อขายยาเสพติดจะไม่หยุดชะงักลงเพราะโรคระบาดแล้ว ผู้ค้ายังมี ‘ความคิดสร้างสรรค์’ มากขึ้นในวิธีการหลบเลี่ยงหน่วยงานต่างๆ และยังสามารถขยายพื้นที่การค้าได้ด้วย
สำนักข่าว Vice รายงานว่าเจ้าหน้าที่ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทำการยึดยาเสพติดจำนวน 169 ตันได้ตลอดปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับในปี 2019 ที่ยังไม่มีการระบาดของโควิด-19 และมียาเสพติดถูกยึดได้ 142 ตัน
“น่าประหลาดใจมากที่กลุ่มพ่อค้ายาสามารถผลักให้ตลาดซื้อขายยาเสพติดเฟื่องฟูได้ในช่วงโควิด-19” Inshik Shim ผู้ประสานงานระดับภูมิภาคของ UNODC ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกกล่าว “ถ้าหากพูดถึงกระบวนการ เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าโควิด-19 มีผลต่อการผลิตมากในภูมิภาค ซึ่งไทย กัมพูชา และมาเลเซียในช่วงที่ผ่านมามีราคายาบ้าที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020”
ราคาขายยาเสพติดที่ลดลงจนทุบสถิติส่วนหนึ่งมีผลมาจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง การค้าขายยาเสพติดเบ่งบานทั่วทั้งประเทศไทย ลาว เมียนมาร์ โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่ทั้ง 3 ประเทศมาบรรจบกันและมีเครือข่ายที่ซับซ้อนในการขยายตลาดส่งออกยาเสพติดมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ออกไป โดยมีการจัดส่งไปยังประเทศในเอเชียตะวันออก และออสเตรเลีย
นอกจากนี้กระบวนการส่งออกยังใช้เทคนิคซับซ้อนหลายรูปแบบเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ เช่น การซ่อนยาในถุงชาและลำโพงสเตอริโอ รวมถึงการพัฒนาการสื่อสารในโซเชียลมีเดียมากขึ้น เพื่อซื้อขายและหลบเลี่ยงหน่วยงาน ทั้งยังมีรายงานว่ามีการใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงทางการเมืองของเมียนมาร์ในการจัดสรรทรัพยากรอีกด้วย
สำนักข่าวยังรายงานว่ายาเสพติดส่วนใหญ่โดยเฉพาะยาบ้า มีแหล่งผลิตในรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ แต่นักวิจัยจาก UNODC ชี้ว่ากัมพูชากำลังกลายเป็นแหล่งผลิตแห่งใหม่ ซึ่ง Shim มองว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมีความจำเป็นที่จะมองหาพื้นที่ใหม่ๆ ในการผลิตและขยายธุรกิจมืด
นอกเหนือจากยาบ้า (Methamphetamine) แล้ว ตลาดยาอี (Ecstasy) เองก็เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกัน ในปี 2020 ได้มีการยึดยาอีกว่า 8.9 ล้านเม็ดทั่วภูมิภาคซึ่งสร้างความกังวลให้กับหน่วยงานถึงความอันตรายหากใช้ยาในปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานการใช้ยาเกินขนาดในประเทศไทย ที่มีผู้เสียชีวิต 13 รายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
การขยายตัวของตลาดยาเสพติดเติบโตชัดเจนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เฉพาะชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เป็นยาเสพติดหลากประเภท เฉพาะในประเทศไทย ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเราได้เห็นรายงานการจับกุมยาเสพติดส่งออกจากประเทศไทยในหลากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย โดยกรณีล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เพิ่งมีการยึดของกลางเป็นเฮโรอีนกว่า 165 กก. ซึ่งซ่อนอยู่ในปกสมุดส่งพัสดุจากประเทศไทยไปออสเตรเลีย
สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเป็นกังวลต่ออนาคตว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือในประเทศไทยเอง จะพบการระบาดที่ไม่อาจหยุดยั้งของยาเสพติดหลังจากโควิด-19 หรือเปล่า?
อ้างอิง
- Vice. Not Even COVID Could Stop Southeast Asia’ s Booming Drug Trade, Report Says. https://bit.ly/3gnHv7g