กล่องคุกกี้ใส่ ‘เข็มกับด้าย’ เป็นเรื่องที่ ‘แม่ๆ ทั่วโลก’ ทำเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ในไทย ‘คุกกี้กล่องแดง’ แทบจะเป็นสัญลักษณ์เชิงวัฒนธรรม (และถูกล้อเลียน) ในฐานะ ‘ของขวัญสิ้นคิด’ ช่วงปีใหม่ ซึ่งก็แน่นอนเราก็คงจะรู้สึกว่านี่เป็นอะไรที่ ‘ไทยแลนด์โอนลี่’ แต่ในความเป็นจริง ไอเดียเรื่องการใช้คุกกี้กล่องสังกะสีเป็นของขวัญไม่ได้มีแค่ในไทย เพราะอย่างน้อยๆ ในจีนก็มีการให้คุกกี้แบบนี้ช่วงตรุษจีน และในรัสเซียก็มีการให้กันช่วงปีใหม่ แต่ของเขาจะไม่ให้ ‘คุกกี้กล่องแดง’ แบบไทย เพราะเขาจะให้ ‘คุกกี้กล่องน้ำเงิน’ ยี่ห้อ Royal Dansk (ที่เป็นต้นฉบับของ ‘คุกกี้กล่องแดง’ บ้านเราน่ะแหละ)
และจริงๆ ถ้าพูดถึง Royal Dansk คนทั่วโลกก็น่าจะรู้จักและคุ้นเคยดี แต่ไม่ใช่ในฐานะของขวัญปีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ในฐานะของ ‘ภาชนะใส่เข็มกับด้ายของแม่’
ถ้าใครที่โตมาก่อนยุคมิลเลนเนียลก็คงจะคุ้นๆ ตอนเด็ก ว่าที่บ้านเคยเปิด ‘คุกกี้กล่องแดง’ มาแล้วพบว่าข้างในไม่มีคุกกี้ มีแต่เข็มกับด้ายและอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย
ในตอนแรก ไม่มีใครรู้ว่าปรากฏการณ์นี้มีอยู่ทั่วโลก จนชุมชนเอเชียในอินเทอร์เน็ตพยายามจะหามุกทำนอง ‘เอเชี่ยนโอนลี่’ และพบว่าตอนเด็กๆ คนทั่วเอเชียมีประสบการณ์ร่วมว่าแม่ของตนมักจะเก็บเข็มกับด้ายไว้ในกล่องคุกกี้
แต่ไปๆ มาๆ คนนอกเอเชียก็ออกมายืนยันตรงกันว่า แม่ตัวเองก็เก็บเข็มกับด้ายแบบนี้เหมือนกัน จนผู้ใช้ Reddit ไปนั่งลิสต์ประเทศที่พบปรากฏการณ์แบบนี้ และก็พบว่าอย่างน้อยๆ ตั้งแต่อเมริกาเหนือจรดใต้ ไปจนถึงยุโรปจรดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีปรากฏการณ์แบบนี้กันหมด และประเทศที่ไม่มีการยืนยันปรากฏการณ์แบบนี้ก็มีเพียงแค่แอฟริกาบางประเทศ และประเทศเกาะแถบแคริบเบียนและโอเชียเนีย เท่านั้น
พูดง่ายๆ นี่คือปรากฏการณ์ระดับโลก ที่เกิดโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่มีการเผยแพร่ทางวัฒนธรรมใดๆ แต่คนทั่วโลกบังเอิญใช้กล่องคุกกี้สังกะสีด้วยเหตุผลเดียวกัน
ว่าแต่ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? อาจต้องว่ากันทีละสเต็ป
มนุษยชาติเริ่มใช้กล่องสังกะสีเป็นบรรจุภัณฑ์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่ก็เพิ่งจะในปี 1966 นี่แหละที่คุกกี้ Royal Dansk ถือกำเนิด
ในยุคนั้น Royal Dansk ถือเป็นของดี ของหายาก ของฝากจากเดนมาร์ก ซึ่งที่คนนิยมกันมากเพราะไม่ใช่แค่คุกกี้อร่อย (เขาว่ามันหอมเนยและเนื้อละเอียดมาก) และกล่องมันก็ดูดีมากๆ เรียกได้ว่าเป็นของกินที่ซื้อไปฝากชาวบ้านได้ไม่น่าเกลียด ตอนแรกพวกคนพอจะมีฐานะก็เลยมักจะซื้อคุกกี้ ‘เมดอินเดนมาร์ก’ พวกนี้มาเป็นของขวัญกัน ซึ่งในบางประเทศอย่างจีนก็ฮิตที่จะซื้อให้กันในช่วงปีใหม่
ความฮิตของคุกกี้แบบนี้ก็ทำให้เกิดแบรนด์เลียนแบบทั่วโลกซึ่งก็ไม่แปลกอะไรที่ในหลายประเทศแบรนด์เลียนแบบจะฮิตเกินแบรนด์ต้นฉบับจนคนในประเทศนั้นไม่รู้จักแบรนด์ต้นฉบับด้วยซ้ำซึ่งสิ่งที่ถ่ายทอดทางวัฒนธรรมกันมาก็คือไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนก็ถือเป็น ‘ของดี’ ที่จะให้กันในโอกาสพิเศษ
และไม่ว่าแบรนด์เลียนแบบจะทำรสชาติเหมือนหรือต่างจากต้นฉบับ สิ่งที่ต้องเหมือนกันเสมอก็คือ หีบห่อของคุกกี้ที่ต้องเป็นกล่องสังกะสีทรงกลมแข็งแรง
ซึ่งสิ่งที่ ‘แม่บ้าน’ ทั่วโลกประสบร่วมกันก็คือ มันก็ต้องมีสักโอกาสที่จะได้คุกกี้แบบนี้เป็นของขวัญ และพอกินหมดแล้ว ก็จะรู้สึกว่ากล่องมันดูดีเกินกว่าจะโยนทิ้งขยะ เลยต้องเอามาทำอะไรสักอย่าง
ว่าแต่ ทำไมต้องเป็นเข็มกับด้ายล่ะ?
อย่างแรก อาจต้องเข้าใจก่อนว่าสาวๆ ยุคก่อนแทบทุกคนต้องเย็บผ้าเป็น และสามารถซ่อมแซมเสื้อผ้าเองแบบนิดๆ หน่อยๆ ได้ สมัยโน้นถือว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของผู้หญิง ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงต้องอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน และในยุคแรกๆ ที่ผู้หญิงออกจากบ้านมาทำงาน ค่านิยมแบบนี้ก็ยังมีอยู่
ซึ่งปัญหาของสมัยโน้นก็คือ แม้ว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องมีอาวุธประจำกายคือเข็มกับด้าย แต่ไม่ค่อยมีภาชนะใดๆ ที่มีความเหมาะสมในการเก็บสิ่งเหล่านี้ที่หาได้ทั่วไป และก็ต้องเข้าใจอีกว่าสมัยโน้นมันไม่มีร้านแบบ Daiso หรือพวก ‘ร้าน 20 บาท’ พวกกล่องพลาสติกบรรจุภัณฑ์ต่างๆ จึงค่อนข้างหายาก และนี่เป็นสาเหตุให้เหล่าแม่บ้านทั่วโลกเวลาซื้อพวกสินค้าอะไรมาแล้ว ถ้าบรรจุภัณฑ์มีความคงทน ก็จะเอามาล้างและนำมาใช้ใส่โน่นนี่ ซึ่งของที่จะใส่ก็แตกต่างกันไปในแต่ละภาชนะ และจริงๆ หลายคนก็คงรู้ว่า ไม่ใช่แค่กล่องคุกกี้หรอก พวกโหลแก้ว ยันกล่องไอติมพลาสติก กินเสร็จแล้วแม่ๆ ก็จะเอามาล้างทำภาชนะทั้งนั้น
แล้วทำไมกล่องคุกกี้ต้องเอาไปใส่เข็มกับด้าย?
อันนี้จริงๆ ถ้าคิดตามจะตอบไม่ยากเลย คือ หลอดด้ายทั้งหมดมันมีทรงกลม ซึ่งก็สอดรับกับทรงกลมของกล่องคุกกี้ที่จะเอามาใส่ของเหลี่ยมๆ ก็คงไม่เหมาะ มันจะเสียพื้นที่ นอกจากนั้น ความสูงของกล่องคุกกี้มันยังพอดีที่จะวางหลอดด้ายแนวตั้งแล้วยังเหลือพื้นที่อีกด้วย
และเหตุผลมันก็น่าจะแค่นี้แหละว่าทำไมผู้หญิงทั่วโลกในยุคหนึ่งถึงเอากล่องคุกกี้สังกะสีกลมๆ มาใส่เข็มกับด้าย
แน่นอนว่าทุกวันนี้ความนิยมแบบนี้มีน้อยลงแล้ว และอาจถูกมองเป็นพฤติกรรมของ ‘คนรุ่นแม่’ (หรือกระทั่ง ‘คนรุ่นยาย’) ส่วนหนึ่งก็เพราะคนรุ่นใหม่ๆ ไม่นิยมกินคุกกี้แบบนี้ หรือซื้อคุกกี้แบบนี้เป็นของขวัญปีใหม่กันแล้ว และอีกส่วนก็คือไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงรุ่นใหม่ คนที่เย็บผ้าเป็นหรือซ่อมเสื้อผ้าเองก็คงมีน้อยลงเรื่อยๆ
แล้วพอการให้คุกกี้เป็นของขวัญและทักษะการเย็บปักถักร้อยของผู้หญิงลดน้อยลงคล้ายๆ กัน ก็ไม่แปลกนักที่การเก็บเข็มกับด้ายในกล่องคุกกี้สังกะสีจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ไป
อ้างอิง
- Vice. Seriously: Why Does Everyone’s Mum Use That Same Cookie Tin for Sewing Stuff? https://bit.ly/3TJs4HT
- Atlas Obscura. What’s in Your Royal Dansk Cookie Tin? https://bit.ly/3RCChUR
- NextShark. Why We Keep Finding Cookies in Sewing Kit Containers. https://bit.ly/3AP9JRb
- Atlas Obscura. Sewing Kits, Umbilical Cords, and Mold: Here’s What You Keep in Royal Dansk Tins. https://bit.ly/3cI4Dyk