ช่วงนี้หลายคนอาจตื่นเต้นกับข่าวที่ Elon Musk ทดลองให้ลิงสามารถ “เล่นเกมด้วยสมอง” ได้
แต่ถ้าคนติดตามเทคโนโลยีพวกนี้ก็คงจะรู้ว่านี่เป็นแค่ “แผนการตลาด” ของ Neuralink เท่านั้น เพราะอะไรแบบนี้ จริงๆ ทำกันได้มานานแล้ว
แต่ในทางกลับกัน ช่วงก่อนหน้านี้ ในปี 2021 ข่าวที่คนควรจะตื่นเต้นกับเทคโนโลยีทำนองนี้จริงๆ ก็คือ การที่นักวิทยาศาสตร์สามารถทำให้คนเป็นอัมพาตทั้งตัว ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยสมองได้แล้ว โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกด้วย
ถามว่าลิงเล่นเกมด้วยสมองได้ กับคนจริงๆ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ด้วยสมองได้ อะไรน่าตื่นเต้นกว่ากัน ก็คงจะตอบไม่ยาก
แต่ข่าวแรกดังกว่าเยอะ ก็ไม่แปลกเลยที่คนจะบอกว่ามันเป็นแค่ “แผนการตลาด” ของเจ้าพ่อไวรัลมาร์เก็ตติ้งด้านเทคโนโลยีอย่าง Elon Musk
การคุมเครื่องจักรด้วยสมอง
สมองเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายมนุษย์ และนักวิทยาศาสตร์ก็พยายามจะเข้าใจการทำงานมันมานาน และก็เรียกได้ว่า มัน “เกินความเข้าใจของมนุษย์” แต่ความเข้าใจที่ว่าก็ดูจะไม่เกินความสามารถของคือ AI
อธิบายง่ายๆ มนุษย์สามารถ “สแกนคลื่นสมอง” กันมาได้นานแล้ว พูดง่ายๆ คือ “อ่านความคิด” ผ่านคลื่นสมองได้นานแล้ว
ประเด็นคือสายตามนุษย์ “อ่านไม่ออก” คือตาเราเห็นเป็นคลื่นไฟฟ้าวิ่งในสมอง แต่เราไม่เข้าใจว่าไอ้คลื่นพวกนี้มันแปลว่าอะไร มันคือการคิดเลขเหรอ? มันคือการจินตนาการภาพเหรอ? มันคือการตัดสินใจว่าอะไรถูกผิดเหรอ? มันคือการสั่งให้มือแบออกเหรอ?
มนุษย์มีปัญญาจะสแกนสมองเพื่อดูคลื่นสมองในตอนที่มนุษย์ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น ปัญหาคือมนุษย์ทำได้แค่ “ดู” แต่ “อ่าน” ไม่ออกว่าคลื่นแบบนี้ๆ มันแปลว่าอะไร
แต่เมื่อมีการพัฒนา AI มนุษย์สามารถสร้าง AI มา “อ่านคลื่นสมอง” ของมนุษย์ได้ AI ก็ช่วย “แปลคลื่นสมอง” มาเป็นข้อมูลที่เครื่องจักรเข้าใจได้
เช่น มนุษย์ไม่มีทางจะเขียนโปรแกรมบอกคอมพิวเตอร์ได้หรอกว่าคลื่นสมองแบบนี้ แปลว่า “ให้พิมพ์ตัว a” หรือ “ให้ยกแขนขึ้น” แต่ถ้าเราใช้ AI หาแพตเทิร์นคลื่นสมองจากมนุษย์จำนวนมากกว่าคลื่นสมองแบบไหน หมายความว่า “ให้พิมพ์ตัว a” หรือหมายความว่า “ให้ยกแขนขึ้น”
ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมาก ก็สแกนสมองคนตอนพิมพ์ตัว a หรือยกแขนขึ้น เราก็จะได้คลื่นสมองที่มีความหมายถึงคำสั่งดังกล่าว ซึ่งแต่ละคนก็น่าจะมีความต่างในรายละเอียด แต่มันมีความเหมือนที่จับแพตเทิร์นได้อยู่ และพอได้แพตเทิร์น เราก็สามารถจะเอาไปสร้างโปรแกรมที่จะให้มนุษย์สื่อสารกับเครื่องจักรด้วยสมองได้
พูดง่ายๆ AI คือ “ล่าม” ระหว่างสมองมนุษย์กับเครื่องจักรที่มนุษย์จะสั่งการได้นั่นเอง
แต่ถามว่านี่ใหม่มั้ย? เอาง่ายๆ คือ ถ้าจะเอาแค่การ “สั่งแขนกลด้วยสมอง” เนี่ย เขาทำมาได้ตั้งแต่ปี 2012 แล้ว

คนเป็นอัมพาต สั่งการแขนกลด้วยสมอง | Brown University
และในปี 2018 เขาทำได้กระทั่งว่า ให้คนเป็นอัมพาต ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่แขน แล้วใช้สมองสั่งเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า กระตุ้นให้แขนของคนที่เป็นอัมพาตใช้ได้อีกครั้ง
ซึ่งก็อย่างที่บอกมาตลอด ถ้าเราตามเทคโนโลยีเหล่านี้เรื่อยๆ ไอ้การจับลิงมาเล่นเกมของ Elon Musk น่ะ มันไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรเลย
เรื่องใหม่ในปี 2021
ในปี 2021 เทคโนโลยีการสั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยสมองก็ก้าวกระโดดไปอีกขั้น โดยการให้คนเป็นอัมพาตใช้คอมพิวเตอร์ด้วยสมองได้ พิมพ์งานได้ ขยับเคอร์เซอร์ได้ คลิกเมาส์ได้ แค่ใช้ “ความคิด”

การคุมคอมพิวเตอร์ผ่านสมองภายใต้เทคโนโลยีแบบเก่าที่ต้อง “เจาะกะโหลก” | The Guardian
แน่นอน อะไรพวกนี้ดูเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมากๆ ถ้าเทียบกับการควบคุมแขนกลด้วยสมองที่ทำได้หลายปีแล้ว
แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นสุดๆ ก็คือ มันไม่ต้องเปิดกะโหลกและเสียบปลั๊กระโยงระยางอีกแล้ว
ถ้าใครตามเทคโนโลยีเก่าๆ เกี่ยวกับการสั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยสมอง ไม่ว่าจะล้ำแค่ไหน สิ่งที่เหมือนกันหมดก็คือต้อง “เจาะกะโหลก” แล้วฝังเครื่องมือเข้าไปในหัว และทำให้หัวต้องถูก “เสียบปลั๊ก” ตลอดเวลา เพื่อคุมคอมพิวเตอร์ได้
ซึ่งจริงๆ ในเดือนมกราคม 2021 นักวิจัยก็ตีพิมพ์งานวิจัยแล้วว่า ไม่ต้องเจาะกะโหลก แต่เอาตัวส่งสัญญาณสอดไปทางเส้นเลือดแทนก็ได้ และเขาก็ทดลองจนคนสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยสมองได้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกเพื่อจะให้มนุษย์สั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยสมองโดยตรงได้

ภาพตัวอย่างการปลูกถ่ายตัวส่งสัญญาณจากสมองโดยเข้าทางเส้นเลือด | Journal of NeuroInterventional Surgery
และถ้ายังไม่ล้ำอีก ในเดือนมีนาคม 2021 ก็มีงานวิจัยอีกชิ้นบอกว่าสามารถทำให้คนเป็นอัมพาตใช้คอมพิวเตอร์ด้วยสมองแบบ “ไร้สาย” ได้แล้ว คือแม้อาจต้องเจาะกะโหลกแบบเทคโนโลยีเก่า แต่สามารถทำให้ไม่ต้องต่อสายระโยงระยางเหมือนต้อง “เสียบปลั๊ก” ที่สมองแล้ว แต่ใส่ตัวส่งสัญญาณไร้สายไว้แทน
ซึ่งอะไรพวกนี้ อาจไม่น่าตื่นเต้นในสิ่งที่เราใช้สมองสั่งโดยตรงได้อย่างการใช้คอมพิวเตอร์ แต่ที่น่าตื่นเต้นก็คือ การติดตั้งระบบการสั่งการจากสมองไปยังคอมพิวเตอร์เหรือเครื่องจักรต่างๆ มันเป็นไปได้สะดวกขึ้น และปี 2021 นี้ผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน ก็มีเทคโนโลยีที่จะมาแทนที่การ “เจาะสมองแล้วเสียบปลั๊ก” แบบเดิมถึง 2 เทคโนโลยีแล้ว
และนี่คือสิ่งที่น่าตื่นเต้น เพราะถ้าตอนนี้ทำแบบนี้ได้ หมายความว่าอีกไม่นาน การใส่ตัวรับสัญญาณจากสมองก็น่าจะสะดวกขึ้นอีกมากๆ ระดับอีกไม่นานอาจทำได้แบบไม่ต้อง “ผ่าตัด” ด้วยซ้ำ และถ้าทำได้ นั่นแหละ “ของจริง” ที่มนุษย์ทั่วๆ ไปจะเริ่มสื่อสารกับคอมพิวเตอร์โดยตรง
และพูดแบบนี้ดูไม่ “ไซไฟ” ถ้าจะพูดแบบไซไฟ ถึงสิ่งเดียวกัน นี่หมายถึงการ “สั่งการเครื่องจักรด้วยความคิดโดยตรง” ได้แล้ว
และด้วยสปีดพัฒนาแบบนี้ จะบอกว่าความก้าวหน้าระดับที่ว่าน่าจะเกิดในทศวรรษ 2020’s นี้ ก็คงจะไม่เวอร์เกินไป
อ้างอิง
- Reuters. Elon Musk’s Neuralink shows monkey with brain-chip playing videogame by thinking. https://reut.rs/3wXVabo
- IFLScience! Device Lets Paralyzed People Wirelessly Control Computers With Their Brain For The First Time. https://bit.ly/3a3ArZN
- Brown University. People with paralysis control robotic arms using brain-computer interface. https://bit.ly/3uJdgvA
- Journal of NeuroInterventional Surgery. Motor neuroprosthesis implanted with neurointerventional surgery improves capacity for activities of daily living tasks in severe paralysis: first in-human experience. https://bit.ly/327zMCk
- Wikipedia. Brain Implant. https://bit.ly/3sbkCq0