สยอง! หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแอบถ่ายภาพผู้หญิงในห้องน้ำ และภาพหลุดในกรุ๊ป Facebook …มันหลุดไปได้ไง?
ทุกวันนี้เรามี ‘อุปกรณ์อัจฉริยะ’ อยู่รอบๆ ตัว ซึ่งที่เรียกว่าอัจฉริยะ ก็เพราะมันสามารถรับรู้คำสั่งจากเราและรับรู้โลกภายนอกได้ ทำให้มันสามารถทำงานหลายอย่างที่อุปกรณ์ ‘ไม่อัจฉริยะ’ ไม่สามารถทำได้
ซึ่งอุปกรณ์หนึ่งที่ ‘อัจฉริยะ’ สุดๆ คือพวกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
งานทำความสะอาดพื้นเป็นงานน่าเบื่อระดับคลาสสิกของมนุษยชาติ ซึ่งสมัยก่อนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างมากก็แค่ช่วยให้เราทำความสะอาดพื้นได้ง่ายขึ้น แต่เราต้องทำเองอยู่ดี เพราะงานทำความสะอาดพื้นนั้นไม่ใช่งานง่ายๆ แบบโยนเข้าเครื่องไปก็จบ เหมือนการโยนผ้าเข้าเครื่องซักผ้า เพราะลักษณะพื้นที่ของบ้านนั้นซับซ้อน อาจมีทั้งพื้นที่เปียกที่เครื่องไม่ควรจะเข้าไป เพราะจะทำให้เครื่องช็อต มันอาจมีทั้งพื้นต่างระดับที่เครื่องวิ่งไปแล้วตกได้ และอาจมีผ้าม่านหรือไม้ม็อบที่ถ้าเครื่องวิ่งไปโดนแล้วผ้าจะเข้าไปติดจนเครื่องค้างและไม่สามารถทำงานต่อได้ ฯลฯ หรือพูดง่ายๆ มันมี ‘ข้อยกเว้น’ เยอะ และนี่ทำให้คนทำเองจะดีกว่า
ต่อมายุคหลังๆ มีการพัฒนาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดขึ้นในระดับที่สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ สามารถเรียนรู้ได้ว่าตรงไหนควรจะไป ตรงไหนไม่ควรไป ไปจนถึงรู้ตัวด้วยว่าถ้าแบตเตอรี่จะหมดก็ควรวิ่งกลับไปที่แท่นชาร์จเอง และบริษัทที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีแบบนี้ก็คือบริษัทอย่าง iRobot ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นคลาสสิกที่หลายคนคงเคยได้ยินชื่อก็คือ Roomba
Roomba คือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวท็อปในตลาดผู้บริโภคมาช้านาน และที่เป็นแบบนี้ก็เพราะมันฉลาดที่สุด และฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันมีการบันทึกข้อมูลไปประมวลผลอยู่เสมอ
แต่เรื่องช็อกๆ ก็มี เมื่อคนไปพบว่ามันมีภาพลับ ที่ Roomba บังเอิญไปถ่ายผู้หญิงในห้องน้ำ และรูปที่ว่ามันหลุดมาใน Facebook ซึ่งนี่คือเรื่องที่ MIT Technology Review ไปพบและรายงาน
คำถามคือ ภาพพวกนี้มันหลุดมาได้ไง? และภาพที่ Roomba ถ่ายนั้นมันไปถึงมือใครก็ไม่รู้ทั้งหมดเลยหรือ? ความเป็นส่วนตัวอยู่ที่ไหน?
ผลจากการตรวจสอบไปทาง iRobot ทางบริษัทตอบว่า ที่ผ่านมามีโครงการนำร่องให้ทางพนักงานและอาสาสมัครเอา Roomba รุ่นพิเศษไปใช้งานที่บ้าน ซึ่งคุณสมบัติมันคือจะถ่ายวิดีโอภายในบ้านได้ ซึ่งภาพพวกนี้จะถูกส่งไปให้สตาร์ทอัปแห่งหนึ่งวิเคราะห์ว่าองค์ประกอบในภาพนั้นมีอะไร โดยภาพพวกนี้จะถูกส่งไปให้คนงานทั่วโลกเพื่อให้พวกเขาแปะป้ายว่าในรูปมีอะไรอยู่บ้าง ที่ทำแบบนี้เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนา Roomba ต่อไปให้ Roomba สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมพร้อมรับรู้ว่ามันเห็นอะไร เพื่อจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดย iRobot ก็เน้นมากว่า ทางผู้ที่นำเอา Roomba รุ่นพิเศษนี้ไปลองใช้ ล้วนได้รับการแจ้งเตือนว่าถ้ามีการถ่ายวิดีโอจะมีไฟเขียวขึ้นที่เครื่อง และภาพทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้จะถูกส่งไปวิเคราะห์อีกที ดังนั้นอย่าเอาอะไรที่มีลักษณะ ‘อ่อนไหว’ มาขวางทางกล้องของ Roomba เพราะภาพพวกนั้นจะมีคนเห็นแน่ๆ
ซึ่งในกรณีนี้ ‘ความผิดพลาด’ ค่อนข้างชัดว่าภาพน่าจะหลุดจากตัว ‘คนงานรับจ้าง’ ของสตาร์ทอัปนี้ ที่ได้รูปไปวิเคราะห์ แต่ดันเซฟรูปเอาไว้และมาแชร์ต่อ ซึ่งน่าจะเป็นการละเมิดสัญญาจ้างงานแน่นอน และถ้าจะให้เดาก็คือ ทางบริษัทก็น่าจะตามเจอตัวแล้วและก็น่าจะถูกยกเลิกสัญญา
แต่ก็นั่นเอง กรณีแบบนี้ก็ทำให้เห็นว่าถึงแม้บริษัทจะยืนยันเป็นมั่นเหมาะแค่ไหนว่าข้อมูลเราไม่หลุดแน่ๆ แต่ปัจจุบันการเอาข้อมูลออกไปนอกบริษัทให้บริษัทอื่นวิเคราะห์ก็เป็นเรื่องปกติมาก ในยุคที่ทุกฝ่ายต้องการข้อมูลเยอะๆ ไปพัฒนา AI กัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เราไม่อาจไว้ใจได้เลยว่าเวลาข้อมูลหลุดจากมือเราไปแล้ว มันจะวิ่งไปไหนในโลกบ้าง ซึ่งหลายครั้งถึงจะ ‘จับตัวคนร้ายได้’ ก็ไม่มีประโยชน์นัก เพราะความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลเวลามันสูญเสียไป มันจะสูญเสียไปตลอดกาล
อ้างอิง
- Dailymail. Robot vacuum cleaner took photos of woman on the toilet…and the images ended up being shared on Facebook. https://bit.ly/3i9an6N