เบียวไม่เบียวไม่เกี่ยวกับวัย ‘จูนิเบียว’ โรคเด็กมอสอง ที่ใครๆ ก็ (อาจ) เคยเป็น
คุณเคย ‘เบียว‘ หรือเปล่า ?
ช่วงหลังมานี้ ดูเหมือนคำว่า ‘เบียว’ จะกลายเป็นคำยอดฮิตที่ถูกใช้ในหลายบริบทบนโลกออนไลน์
- “ไลฟ์โค้ชคนนั้นตรรกะ ‘เบียว’ มาก”
- “ฟิคเรื่องนั้น ไดอะล็อกอย่าง ‘เบียว’ ”
- “เห็นสเตตัสตัวเองเมื่อ 3 ปีก่อน โอ้โห แ–งโคตร ‘เบียว’ ”
- “เฟมทวิต กับ ‘เบียว’ ธเนศ เขาทะเลาะอะไรกันนะ?”
คำว่าเบียวถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่แท้จริงแล้ว ‘เบียว’ คืออะไร? มารู้จักคำนี้ไปพร้อมๆ กันดีกว่า
‘เบียว’ มาจากคำว่า ‘จูนิเบียว’ (Chuunibyou) เป็นศัพท์สแลงในภาษาญี่ปุ่น ที่ใช้นิยามโรคเด็กมอสอง (Middle School 2nd Year Syndrome) ที่มีการกระทำ ความคิด หรือนิสัยในเชิงเสียดสี เช่น กรณีที่บุคคลนั้นแสดงท่าทีที่ (คิดว่า) เท่ๆ คูลๆ ออกมา แต่กลับดูประหลาด พิลึกในสายตาคนอื่น หรือการออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งราวกับเป็นกูรู ผู้รู้ลึกรู้จริงกว่าใคร กระทั่งคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ มีอาวุธประจำกาย มาจากองค์กรลับที่ช่วยกอบกู้โลก
ถึงแม้จะเป็นโรคเด็กมอสอง แต่เบียวหรือไม่เบียวไม่เกี่ยวกับวัย เพราะมีข้อถกเถียงทำนองว่า “ใครๆ ก็เคยเบียวกันทั้งนั้น” ลองย้อนไปอ่านสเตตัสเฟซบุ๊กตัวเองเมื่อ 10 ปีก่อนสิ คุณอาจจะอุทานขึ้นมาดังๆ ว่า “แ–งโคตรเบียว” แล้วรีบลบทิ้งแบบไม่คิด หรือตั้งคำถามกับตัวเองในอดีตว่าไปโดนตัวไหนมา ถึงเขียนสเตตัสแบบนั้น?
และหากให้นิยามง่ายกว่านั้น เคยมีคนกล่าวว่า ‘จูนิเบียว’ หรือ ‘เบียว’ คืออาการของ ‘เด็กเห่อหม–ย’ นั่นเอง
ทีนี้เรามาย้อนดูที่มาที่ไปของคำนี้กันบ้าง
‘จูนิเบียว’ เป็นคำที่ใช้กันมาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1999 ในรายการวิทยุ ‘UP’s’ ของญี่ปุ่น แต่มาแพร่หลายหลังอนิเมะ ‘Chuunibyou demi Koi ga shitai!’ หรือ ‘รักสุดเพี้ยนของยัยเกรียนหลุดโลก’ ออกอากาศ ในปี 2012
เรื่องราวของ Chuunibyou demi Koi ga shitai ว่าด้วย ‘โทงาชิ ยูตะ’ นักเรียนชั้นมัธยมปลายคนหนึ่ง ซึ่งเคยมีภาวะเพ้อฝัน คิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ “Dark Flame Master” ในสมัยม.ต้น ทำให้เขาแปลกแยกจากเพื่อนๆ จนเมื่อหายจากอาการดังกล่าว เขารู้สึกอับอายมาก จึงต้องหนีไปเข้าโรงเรียนห่างไกล ทำให้ได้เจอ ‘ทาคานาชิ ริกกะ’ หญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน เรื่องราวสนุกๆ จึงเกิดขึ้น
อาการ “จูนิเบียว” มีการจัดแบ่งประเภทไว้ด้วย ดังนี้
DQN (dokyun-kei) – กลุ่มคนต่อต้านสังคมหรือเหล่าแก๊งสเตอร์ที่ชอบทำตัวอันธพาล แม้ว่าตัวเองจะไม่ใช้คนประเภทนั้นโดยเนื้อแท้
Subcultural/Hipster – กลุ่มคนนอกกระแส เบื่อหน่ายความเมนสตรีม ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้หลงใหลในวัฒนธรรมนอกกระแสเป็นพิเศษ เพียงแค่รู้สึกว่ามันคูล
Evil Eye – กลุ่มคนที่เชื่อว่าตัวเองมีเวทมนตร์ หรือพลังวิเศษซ่อนอยู่ หาอุปกรณ์อะไรมาปิดตา ข้างหนึ่งเพื่อป้องกันพลังรั่วไหล หรือปิดพลาสเตอร์ทั้งที่ไม่เป็นแผลจริงๆ
Denpa/denpa-kei – กลุ่มคนที่ตัดขาดจากคนรอบข้าง หรือแยกตัวออกจากสังคม
อย่างไรก็ตาม ‘เบียว’ ไม่ได้มีความหมายเชิงลบซะทีเดียว เดิมทีเบียวก็เป็นแค่สแลง ที่ใช้หยอกกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงจุดที่คนใช้กันอย่างแพร่หลาย ความหมายจึงผิดเพี้ยนไปบ้าง ขณะเดียวกันหากเราคิดหรือทำตัวเบียวๆ โดยที่มันไม่เดือดร้อนใคร ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
อย่างที่บอกว่า “ใครๆ ก็เคยเบียว” กันทั้งนั้น ถ้าหากวันนี้เราได้กลับไปวิเคราะห์หรือทบทวนตัวเองอีกครั้ง ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป นั่นก็แสดงว่าเรามาไกลจากเมื่อวานแล้วเช่นกัน
สิ่งสำคัญคือ การตั้งคำถามกับตัวคุณในวันนี้ว่า เราเป็นตัวเองเวอร์ชันที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง…
เอ๊ะ! ว่าแต่พูดแบบนี้จะเบียวหรือเปล่านะ?