3 Min

ทำไมมนุษย์เป็นสัตว์นมใหญ่

3 Min
1763 Views
04 Jul 2022

มนุษย์ต่างจากสัตว์อย่างไร? ถ้าไปถามนักศีลธรรม เราอาจได้คำตอบว่า เพราะมนุษย์มีสำนึกผิดชอบชั่วดี มีศีลธรรม แต่ถ้าเราไปถามนักชีววิทยาที่ทะลึ่งหน่อย คำตอบหนึ่งที่เราจะได้ก็อาจเป็นเรื่องที่มีมิติทางเพศอย่างเพราะมนุษย์นมใหญ่ซึ่งในแง่หนึ่งคำตอบนี้ก็ถูกต้องในทางวิชาการอยู่

ถ้าจะให้อธิบายแบบซีเรียสหน่อย มนุษย์เพศหญิงเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีนมใหญ่อย่างคงทนถาวร พูดง่ายๆ คือมนุษย์ผู้หญิงจะเริ่มมีนมในช่วงวัยเจริญพันธุ์ และนมนี้ก็จะคงอยู่ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ (ถ้าไม่ไปทำอะไรกับมัน) 

เราอาจคิดว่าสัตว์เพศเมียชนิดอื่นๆ ก็มีนมนี่ และก็นมใหญ่ถ้าเทียบกับสัดส่วนของร่างกายไม่แพ้มนุษย์ ตัวอย่างสัตว์ที่เราเห็นบ่อยๆ ก็วัว แต่ในความเป็นจริง ที่เราเห็นสัตว์ทั้งหมดมีนมมันเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนามาในช่วงสั้นๆ เพื่อให้นมลูกเท่านั้น พูดให้ง่ายคือ สัตว์นั้นถ้าไม่มีลูกก็จะไม่มีนม และถ้าไม่มีลูกไปนานๆ นมก็จะหายไป

มีแต่มนุษย์ผู้หญิงนี่แหละ ไม่มีลูกก็มีนม นี่ไม่ต้องพูดถึงนมที่ใหญ่ขึ้นช่วงให้นมลูก ที่หลายๆ ครั้งมันก็ใหญ่ขึ้นไปอย่างคงทนถาวรเลยหลังไม่ต้องให้นมลูกแล้ว ซึ่งสัตว์ชนิดอื่นพอไม่ให้นมลูก ก็มีแต่นมจะหดหายไป มีแต่มนุษย์นี่แหละที่ยังคงไว้ซึ่งนม

แล้วทำไมนมถึงเป็นสิ่งที่คงอยู่กับมนุษย์อย่างถาวร?

คำถามง่ายๆ นี้เป็นดีเบตทางชีววิทยาวิวัฒนาการ (Evolutionary biology) ที่ใหญ่โตมาก

มีทฤษฎีดั้งเดิมที่เชื่อว่า เนื่องจากมนุษย์มีโครงสร้างร่างกายที่เดินตัวตรง และมีอวัยวะเพศหญิงที่เห็นได้ไม่ชัดจากท่ายืน มนุษย์เพศหญิงในวัยเจริญพันธุ์ก็เลยต้องพัฒนานมมาเพื่อให้รู้ว่า ชั้นเป็นเพศหญิงนะ และชั้นพร้อมจะผสมพันธุ์แล้ว

คนเชื่อทฤษฎีนี้กันมายาวนาน และคำอธิบายเรื่องนมในฐานะของสัญญะของความพร้อมทางเพศก็น่าจะถูกใจคนจำนวนมาก และน่าจะเป็นคำอธิบายว่าทำไมผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงนมใหญ่อีกด้วย

แต่ช่วงหลังๆ ทฤษฎีนี้ถูกตีไปเละเทะ โดยทั้งนักประวัติศาสตร์และนักมานุษยวิทยา

เพราะงานศึกษาประวัติศาสตร์และศึกษาทางมานุษยวิทยาจำนวนมากก็ชี้ว่า การชอบผู้หญิงนมใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นสากลเลยแม้แต่นิด เนื่องจากมันมีสังคมทั้งในอดีตและปัจจุบันจำนวนไม่น้อย ที่รสนิยมหลักของสังคมไม่ได้ชอบผู้หญิงนมใหญ่ แต่ไปชอบนมเล็กๆ หรือกระทั่งนมขนาดกลางๆ กัน นี่ยังไม่ต้องนับว่าในอดีตสมัยที่เริ่มมีวิวัฒนาการนี้ขึ้นมานั้น สังคมน่าจะเป็นสังคมแบบผู้หญิงเป็นใหญ่ ไข่เป็นสิ่งที่หายากกว่าอสุจิ ดังนั้นฝ่ายที่น่าจะเป็นฝ่ายเลือกที่จะสืบพันธุ์ได้มากกว่าคือผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย

ดังนั้นคำอธิบายว่า มนุษย์ผู้หญิงนมใหญ่ เพราะมนุษย์ผู้ชายชอบแบบนั้นจึงถือว่าตกกระป๋องไป

มันก็เลยเกิดทฤษฎีใหม่ว่า ที่มนุษย์นมใหญ่นั้น เพราะสรีระของมนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมาเพื่อให้เดินแบบหลังตรง สิ่งที่ตามมาก็คือช่องคลอดก็ได้เปลี่ยนรูปทรงไปจากสัตว์ประเภทลิงอื่นๆ และผลของมันก็คือสรีระของมนุษย์นั้นถูกสร้างมาให้สามารถร่วมเพศแบบหันหน้าเข้าหากันได้อย่างสะดวกที่สุด ไม่ต้องร่วมเพศจากทางด้านหลังแบบลิง และการร่วมเพศแบบหันหน้าเข้าหากัน มันก็เอื้อให้มีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศบริเวณนมได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น มนุษย์เลยวิวัฒนาการนมมาเพื่อสอดรับตรงนั้น

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ทฤษฎีนี้กำลังบอกว่า มนุษย์มีโครงสร้างให้ร่วมเพศด้วยท่ามิชชันนารีสะดวกกว่าท่าหมา และมนุษย์เพศหญิงนั้นนมใหญ่เพื่อจะให้นมสามารถถูกจับและถูกดูดได้ง่ายๆ เวลาร่วมเพศ

แต่ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่พ้นข้อถกเถียง เพราะมีงานศึกษาอีกไม่น้อยออกมาชนว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มนุษย์ผู้หญิงในจำนวนที่มีนัยสำคัญก็ไม่ได้ชอบการกระตุ้นเร้าทางเพศบริเวณนมเสมอไป

ดังนั้น สรุปแล้ว แม้ว่าภาวะนมใหญ่อย่างคงทนถาวรจะเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์แน่ๆ แต่ในทางวิวัฒนาการ เราก็ยังตอบไม่ได้ชัดเจนว่าทำไมมนุษย์ถึงมีนมอย่างที่มันเป็นอยู่ และก็ทำให้เราตอบได้ยากเช่นกันว่า ในอนาคตนมของมนุษย์จะวิวัฒนาการไปในทางใด

ที่แน่ๆ การที่มนุษย์มีนมที่คงทนถาวรและนิยมชื่นชอบนมมันก็ทำให้ปัจจุบันเกิดอุตสาหกรรมมากมายที่เกี่ยวข้องกับนม ตั้งแต่อุตสาหกรรมยกทรง ไปจนถึงอุตสาหกรรมเสริมนม และสิ่งเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นว่านมนั้นได้ก้าวข้ามสภาวะตามธรรมชาติอันเกิดจากวิวัฒนาการไปไกลลิบ และมันได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของมนุษย์ในแบบที่ขาดได้ยากไปแล้ว

ส่วนนมจะสำคัญแค่ไหน สถิติคงยืนยันได้ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่คนทำศัลยกรรมพลาสติกกันมากที่สุดในโลก ศัลยกรรมเสริมความงามที่คนทำกันเยอะสุดก็หนีไม่พ้นทำนมที่ปีๆ หนึ่งมีนมไม่ต่ำกว่า 600,000 เต้าไปเข้ากระบวนการเสริมให้ใหญ่ขึ้น 

อ้างอิง