ความฝัน และการยอมรับข้อผิดพลาดของ ‘เชอรี่ สามโคก’

5 Min
2285 Views
13 Oct 2021

Select Paragraph To Read

  • ความฝัน 
  • จุดเปลี่ยนของชีวิต
  • สังคมที่ไม่ปล่อยให้ก้าวข้ามความผิดพลาด
  • วงการหนังผู้ใหญ่กับสังคมไทย

“เชอรี่ สามโคก” หรือ ลฎาภา รัชตะอมรโชติ ที่หลายคนรู้จัดในฐานะเซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ของไทย กับผลงงานหนังอีโรติกที่ฝากเอาไว้นับร้อยเรื่อง แต่ถ้าย้อนกลับไปกว่าจะเป็นเชอรี่ สามโคก ที่เรารู้จักกัน เพื่อการไล่ตามความฝัน เธอก็ก้าวผ่านเรื่องราวมาไม่น้อย จนถึงจุดที่ชีวิตพลิกผันเพราะภาพเปลือยที่หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ผ่านมานับ 10 ปี ตอนนี้เชอรี่หันกลับไปมองเรื่องราวในวันนั้นยังไงบ้าง

ความฝัน 

หลายคนอาจไม่รู้ว่าเชอรี่ สามโคก เซ็กซี่สตาร์ความจริงแล้วตั้งแต่เด็กเป็น ‘เด็กเรียน’ ที่พ่วงกิจกรรมมาตลอด เอาเป็นว่าในชีวิตเชอรี่ สามโคก ไม่เคยได้เกรดน้อยกว่า 3.5 และเป็นคนชอบเรียนและอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งอาจขัดกับภาพจำของใครหลายคน

เข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะอักษรศาสตร์ สาขาประวัติศาสตร์ แต่เพราะมีความฝันตั้งแต่เด็กที่อยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก และร่วมแสดงละครเวทีกับที่มหาวิทยาลัยอยู่บ่อยๆ เชอรี่ก็เริ่มทำตามความฝันได้เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยและมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอม

“ตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม ปิดเทอมปุ๊บเราต้องไปเรียนพิเศษตลอด ไม่เคยไม่มีเรียนพิเศษ แต่พอมหาวิทยาลัยปุ๊บ ปิดเทอมก็ไม่มีเรียนพิเศษแล้วพอว่าง เราก็หาอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเราเจอรับสมัครนักแสดงตัวประกอบ”

“มันมีความสุขทั้งที่เป็นแค่เด็กตบมือ กล้องเห็นเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อันนั้นน่ะมันมีความสุขมาก หรือแม้กระทั่งว่าเวลาเป็นตัวประกอบตั้งใจมาก ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ากล้องถ่ายติดไหม มันมีความสุข”

นั่นคือก้าวแรกสู่วงการที่ทำให้เรารู้จักเธอในชื่อ ‘เชอรี่ สามโคก’ ตลอดหลายปีมานี้ เริ่มจากการเข้าโมเดลลิ่งไปเป็นเด็กตบมือในรายการทีวี เริ่มเป็นนักแสดงตัวประกอบค่อยๆ ขยับขึ้นมาจนได้เป็นตัวหลักในงานโฆษณารวมกับรับงานถ่ายแบบเซ็กซี่เล็กๆ สวมชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน กางเกงขาสั้นที่ไม่ได้เปิดเผยมากนัก จนกระทั่งชีวิตถึงจุดพลิกผันจากความ ‘พลาด’ ในการทำงาน

จุดเปลี่ยนของชีวิต

“เขาบอกว่าเป็นแบบงานต่างประเทศ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า เราดูหนังสือแล้วก็มโนออกมาว่าต้องเก๋มากแน่ๆ เลย เขาส่งสัญญามาให้นะแต่เราดันไม่ได้อ่าน คือภาษาอังกฤษอ่านได้แต่มันหลายหน้าตัวก็เล็ก แล้วเราก็ไว้ใจโมเดลลิ่งที่เคยติดต่องานกันก็เลยเซ็นไป แต่หน้างานมันไม่เหมือนกับที่คิด”

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อหนังสือต่างประเทศเข้ามาติดต่อให้ถ่ายแบบเซ็กซี่ ซึ่งเชอรี่เข้าใจว่าจะเป็นงานเหมือนกับที่ผ่านๆ มา และไม่ได้อ่านสัญญาอย่างละเอียด

“ที่เราเคยถ่ายมาคือยังไงมันก็ต้องมีปิด มันไม่ได้แก้ผ้าหมดเลย แล้วเขาบอกว่าไม่ใช่ ให้โพสต์แย่างนี้ เอา reference มาให้เราดู คือเปิดหมดเลย เราก็ตกใจว่า เฮย ไม่ไหวนะ ไม่ได้ตกลงกันแบบนี้ เขาก็เอาสัญญามาฟาดเราเลยสัญญาที่เราเซ็นเอง ในสัญญาเขียนว่า แหก แหวก อ้า ไม่ได้ถึงขั้นมีเซ็กซ์ก็จริง แต่เราอึนไปเลย”

“เราคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของเราที่เราไม่ระวัง เพราะฉะนั้น เวลาเอาพาดหัวข่าวว่าแบบ เชอรี่โดนหลอก No เชอรี่ไม่เคยบอกว่าโดนหลอก เขาไม่ได้หลอก แต่ว่าเราไม่ได้อ่าน เรามั่นใจในตัวเองมากเกินไป เรามั่นใจในโลกใบนี้มากเกินไป”

ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายเนื่องจากมาคนเดียว เลยตัดสินใจทำงานตามน้ำไปเพื่อให้จบและรีบกลับบ้าน แต่การถ่ายจบลงแล้วก็จริงและเรื่องราวของวันนั้นกลับไม่จบ และทำให้ชีวิตของเชอรี่ดิ่งสู่จุดที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อภาพเปลือยเหล่านั้นถูกปล่อยออกมาในโลกอินเทอร์เน็ต

สังคมที่ไม่ปล่อยให้ก้าวข้ามความผิดพลาด

นอกจากภาพที่เป็นการซ้ำเติมความพลาดของตัวเอง แรงด่าทอจากสังคมคือสิ่งที่ไม่ปล่อยให้เชอรี่ สามโคก เดินก้าวผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เชอรี่เล่าว่ามีการตั้งกระทู้ด่าแรงๆ มีอีเมลคุกคามจำนวนมากถูกส่งมา และรูปเหล่านั้นไม่เคยหายไปจากอินเทอร์เน็ต กระแสในสังคมในช่วงเวลานั้นรุนแรงมากและส่งผลกระทบต่อชีวิตการงานของเชอรี่อย่างมาก เธอถูกปลดจากการเป็นดารารับเชิญในซิทคอมเรื่องหนึ่ง และยกเลิกสัญญานักแสดงโฆษณาที่เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก

“พูดง่ายๆ เราทำงานใต้ดินไปแล้วจะขึ้นมาข้างบนน่ะยาก มันก็ยังมีงานบ้างนะ งานถ่ายแบบหรือว่างานอะไรจะจำไม่ได้ ก็ทำยังทำงานอยู่ แต่ว่ามันโดนด่าทุกวันบางคนที่คนที่ไม่ได้มาอยู่ในจุดที่ว่าใครก็ไม่รู้มาแสดงความคิดเห็นกับร่างกายของเรา มาด่าเราโดยที่เราตอบโต้ไม่ได้”

“คนก็จะบอกว่าก็ไม่ต้องไปใส่ใจสิ ไม่ต้องไปสนใจเขา แต่ไอ้คำว่าไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปใส่ใจไม่เหมือนกับคำอุดมคตินะ มันจะเกิดขึ้นจริงได้ แต่ยากมากเลย สำหรับในสถานการณ์ที่มันอยู่ตรงหน้าเรา เหมือนคุณบอกว่าโดนเอาขี้มาปาใส่บ้านแล้วบอกว่าไม่สนใจก็ได้”

10 ปีที่ผ่านมาเชอรี่ สามโคก เจอการบูลี่ คุกคาม ด่าทอ มาแทบทุกรูปแบบ ทำให้เธอกลายเป็นคนเก็บตัว ซึมเศร้า เมื่อออกจากบ้านก็จะก้มหน้าไม่มองใคร หรือถ้ารู้ตัวว่ากำลังถูกมองก็จะมีเหงื่อออกมาตามตัว มือเริ่มสั่น เป็นความกดดันที่สังคมไม่เคยปล่อยให้เธอก้าวผ่าน เชอรี่เล่าว่าเมื่อ 10 ปีก่อนข่าวสารไม่ได้ไวเหมือนทุกวันนี้ ไม่มีการด่าเป็นกระแสข้ามคืนแล้วหายไปแบบปัจจุบัน เธอถูกตามด่าอยู่เป็นปีและมันส่งผลกับสภาพจิตใจอย่างรุนแรง

“ที่ทำได้มากที่สุดและให้อภัยตัวเองก่อนให้อภัยตัวเองแล้วก็โอเค Move on คือใช้ชีวิตต่อการคิดเสร็จแล้วก็คือมาใช้ชีวิตต่อได้แต่ว่ามันไม่ได้หายไปทันทีเลยขนาดนั้นเลยนะ มันก็ต้องใช้เวลา”

แต่จากจุดนั้นเชอรี่ สามโคก ได้ตัดสินใจผันตัวเข้าสู่วงการหนังเรท R เริ่มต้นจากการเล่นภาพยนตร์ “น้ำตาลแดง” และกลายเป็นเจ้าแม่หนังอีโรติกที่ยังคงได้ทำหน้าที่นักแสดง แม้ว่าจะมีฉากเลิฟซีนเป็นจุดขาย เห็นฉากเซ็กซ์แต่ว่าไม่ได้มีเซ็กซ์จริงๆ แต่มันยังคงเติมเต็มความฝันของเธอได้ และเริ่มใช้ชื่อ ‘เชอรี่ สามโคก’ อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

“ตอนรับเล่นก็จะเพิ่มเลเวลอีโรติกไปเรื่อยๆ ก็ทำมาอยู่ประมาณ 2 ปี เล่นทั้งหมดที่ประมาณ 100 เรื่อง ซึ่งบทมันแตกต่างออกไป ตอนแรกมันยังท้าทายเราอยู่ เชอก็มองว่ามันเป็นหนัง ไม่ได้เป็นหนัง x แล้วอย่างใช้คำว่าแบบว่าหนังวงการ AV เชอก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าวงการ AV จริงหรือเปล่า มันเหมือนกึ่งๆ แน่นอนล่ะหนังอาร์บางช่วงบางฉากเลิฟซีนน่ะถูกตัดออกไปไว้ในหนังโป๊หรือ Pornhub มากเหลือเกิน”

วงการหนังผู้ใหญ่กับสังคมไทย

ในมุมมองของเชอรี่ สามโคก ที่ทำงานกับหนังผู้ใหญ่มาก่อนมองอาชีพนักแสดงหนังโป๊จริงๆ อย่างไรบ้าง

“มองว่ามันก็เป็นอาชีพหนึ่ง มันเป็นทางเลือกของคนที่เลือกไปทำ แต่ละคนก็มีเหตุผลที่ไปทำในนั้น ก็มองว่าเป็นอาชีพหนึ่งถ้าเกิดบางประเทศที่ถูกกฎหมายเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด”

เชอรี่มองว่าสังคมไทยเหมือนเป็นเมืองที่มองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่มีอยู่ เพียงแต่ไม่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น คนแทบทุกคนเคยดูหนังโป๊และมีในมือถือ แต่ก็ยังต้องทำเป็นไม่ยอมรับอยู่ดีเพราะมันเป็นสิ่งที่ขัดกับศีลธรรมขนมธรรมเนียมที่ดีของไทย แต่เชื่อว่าเมื่อมีกฎหมายแล้วในฐานะพลเมืองเราก็ควรที่จะเคารพกฎ แต่เส้นกั้นที่ขีดแบ่งไว้นั้นมันจำเป็นแค่ไหนเชอรี่เองตอบไม่ได้

“กฎหมายก็มีข้อชัดเจนว่าอะไรถูกอะไรผิดศีลธรรมก็มีข้อชัดเจนว่าถูกหรือผิดและขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมมันไม่มีกรอบที่ชัดเจนใช่ไหมกับประเทศไทย”

ท่ามกลางกระแส Onlyfans และการทำให้คอนเทนต์โป๊เปลือยถูกกฎหมายในปัจจุบัน นอกจากเรื่องการสร้างงานให้กับผู้คนที่ต้องการและเต็มใจเข้ามาแล้ว มีเม็ดเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรม

แต่เชอรี่มองว่ามันอาจไม่ได้ช่วยให้สังคมยอมรับคนในอาชีพนี้มากขึ้น เชื่อว่าคนที่มาทำอาชีพนี้แล้วยังไงก็ต้องเจอกับแรงกดดันของสังคมซึ่งมันจะต้องเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ และเราจะรับมันได้มากแค่ไหน และสิ่งสำคัญคือเราจะสามารถควบคุมไม่ให้มีการบังคับหรือคนที่ไม่เต็มใจมากทำงานนี้ได้มากแค่ไหน

“คนรุ่นใหม่อาจจะยอมรับว่า โอเค มันเป็นอุตสาหกรรม แต่เขาก็ยังอยู่ในสังคมที่คนอื่นอาจจะรับไม่ได้แน่นอน อย่างที่บอกว่าถ้าสมมุติว่ามีภาพหลุดหรือว่าทำอะไรแบบนี้องค์กรไม่รับทำงาน คือมันมีผลกระทบกับอาชีพการงานในบางอย่าง ก็ต้องรับมันให้ได้”

เชอรี่เล่ามันเป็นภาพสวยงามที่จะมองว่าในสังคมที่หนังโป๊เป็นเรื่องถูกกฎหมายแล้วนักแสดงจะได้รับการยอมรับจากสังคมเหมือนกับอาชีพอื่นๆ ความจริงในญี่ปุ่นหรืออเมริกา Sex Worker เองก็ยังเป็นอาชีพที่ถูกดูหมิ่น ไม่ได้ถูกยอมรับจริงๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ มันอาจไม่ได้สวยงามแต่มันเป็นวิถีทางที่เเต่ละคนตัดสินใจเลือกเอง

จากประสบการณ์การทำงานในวงการอีโรติกและสังคมที่เคยพบเจอทำให้เชอรี่ไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งสวยหรู แต่มันก็สามารถช่วยเหลือใครบางคนที่เต็มจและรักจะทำจริงๆ ได้เช่นกัน เมื่อเราถามถึงความฝันและอนาคตต่อไปของเชอรี่ สามโคก เธอตอบกลับมาว่าเธอก็คงยังไล่ตามความฝันอยู่

“เชอก็ยังตามความฝันจะอยู่ไม่ว่ามันจะอยู่ลิบๆ หรือมันจะอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ หรือไม่ว่ามันจะแบบว่าไปทำอะไรหรือว่าประวัติต้นทุนเดิมที่เชอมีมา ถามคำนึงว่าถ้าแม้กระทั่งความฝันตัวเองเชอยังทิ้งได้ ชีวิตมันจะมีความหมายอะไรอีกเหรอ ความฝันทุกความฝันอาจดูยากแต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้”