2 Min

ถึงจะเป็นนักล่า แต่มีลูกชีตาห์แค่ 5% ที่สามารถเอาชีวิตรอดจนโตเป็นผู้ใหญ่

2 Min
1329 Views
27 Apr 2022

‘เสือชีตาห์’ ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์บกที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก ด้วยสรีระที่เกิดมาเพื่อวิ่ง ทำให้มันสามารถวิ่งในทุ่งหญ้าได้เร็วสูงสุดถึง 103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นมันจึงเป็นนักล่าที่น่าเกรงขามและอยู่ในช่วงบนของห่วงโซ่อาหารอย่างไม่ต้องสงสัย แต่รู้ไหมว่า มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของลูกชีตาห์เท่านั้นที่สามารถเอาชีวิตรอด และเติบโตจนเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ได้

ทำไมอัตราการรอดของสัตว์นักล่าถึงได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนี้? 

ดังที่เรากล่าวไปว่าชีตาห์เป็นสัตว์นักล่าที่อยู่ช่วงบนของห่วงโซ่อาหาร แต่มันไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด เมื่อโตเต็มวัยชีตาห์แทบไม่ถูกล่าเลยก็จริง แต่สำหรับชีตาห์วัยเด็ก พฤติกรรมตามธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ก็ทำให้พวกมันไม่ได้ปลอดภัยนัก

ชีตาห์ส่วนใหญ่อยู่ตัวเดียว หรืออยู่เป็นฝูงขนาดเล็กของพี่น้อง ในวัยเจริญพันธุ์มักอยู่เดี่ยวๆ และเจอกับคู่เฉพาะช่วงผสมพันธุ์ 2-3 วันเท่านั้น เมื่อมันตั้งท้องตัวผู้ก็จะจากไป ตัวเมียก็จะเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง ในแต่ละคอกอาจมีลูกเฉลี่ยราว 3 ตัว แต่ลูกชีตาห์ค่อนข้างอ่อนแอ พวกมันจึงถูกล่าจากทั้งสิงโต เสือดาว ไฮยีนา ไปจนถึงฮันนีแบดเจอร์ ได้ง่ายๆ

แม้ว่าแม่ของมันจะพยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องลูกๆ แต่สรีระของชีตาห์เกิดมาเพื่อ ‘วิ่ง’ โดยแท้จริง พอเทียบกันด้านพละกำลังกับนักล่าอื่นๆ ในสะวันนา ทำให้โดยทั่วไปแล้วชีตาห์มักจะพ่ายแพ้ให้กับสิงโต

ในขณะที่ในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park) ของแทนซาเนีย ซึ่งเป็นที่อยู่ของชีตาห์ราว 250 ตัว เมื่อเทียบกับประชากรสิงโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องราว 2,800 ตัวจากการอนุรักษ์ และไฮยีนาราว 9,000 ตัว อัตราการรอดของลูกชีตาห์กลับน้อยลงไปด้วย เมื่อมันถูกนักล่าจู่โจมหลายครั้ง ทำให้ชีตาห์ต้องออกไปอาศัยอยู่นอกเขตอนุรักษ์ รวมถึงมีรายงานว่าพื้นที่หากินของชีตาห์กว่า 77 เปอร์เซ็นต์ทับซ้อนกับพื้นที่เขตชุมชนจนเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา

ไม่เพียงแค่นักล่าต่างสายพันธุ์เท่านั้นที่ทำให้ลูกชีตาห์ไม่อาจเติบโต ด้วยความที่ชีตาห์ไม่ได้มีฤดูผสมพันธุ์ที่ชัดเจน ชีตาห์ตัวผู้เองก็เป็นภัยสำหรับชีตาห์วัยเด็กเช่นเดียวกัน เพราะตัวผู้อาจฆ่าลูกชีตาห์เพื่อให้ตัวเมียพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์อีกครั้งภายในเวลาไม่กี่เดือน

ปัจจุบันมีชีตาห์ในธรรมชาติกระจายอยู่ในทวีปแอฟริกาเพียงแค่ราว 7,100 ตัว ซึ่งจำนวนประชากรลดลงอย่างฮวบฮาบ ส่วนใหญ่อยู่ในที่ราบสูงเซเรนเกติและประเทศนามิเบีย ทั้งยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในบัญชีแดงของสหภาพสากลเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (The International Union for Conservation of Nature: IUCN)

อ้างอิง