2 Min

เลิกเป็นคน ‘จู้จี้จุกจิก’ แล้วชีวิตจะดีขึ้น

2 Min
8693 Views
22 Jun 2022

ความใส่ใจเป็นเรื่องน่ารัก ความสนใจในรายละเอียดเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าการใส่ใจรายละเอียดที่มากและหยุมหยิมจนเกินไป อาจทำให้เรากลายเป็นคนจู้จี้จุกจิก

เพราะบางทีเราอาจไม่รู้ตัวว่าแบบไหนคือการสนใจอย่างพอดี หรือแบบไหนจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดใจ มันไม่เพียงแต่จะทำให้อีกฝ่ายได้รับผลกระทบ แต่ยังส่งผลต่อตัวเราเองด้วยเช่นกัน

การจู้จี้จุกจิก เป็นเหมือนการแสดงความรู้สึกของเราออกไป  โดยการใช้คำพูดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์หรือการออกคำสั่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นการใส่ใจคนรอบข้างมากเกินไปจนเกิดผลเสียนั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะหวังดี แต่พฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ารักเสมอไป

การจู้จี้จุกจิกอาจมาจากเราผิดหวังการกระทำหรือพฤติกรรมของอีกฝ่าย ทำให้เราเลือกวิธีที่จะจู้จี้เป็นวิธีการแสดงความต้องการของเราออกไปเพื่อให้เราได้รับสิ่งที่คาดหวังไว้ในตอนแรก

แล้วนิสัยแบบนั้นส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นอย่างไรบ้าง?

เป็นพิษในความสัมพันธ์

เมื่อเราจู้จี้มากเกินไป อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกควบคุมและปิดกั้นความความเห็นของเราในอนาคตได้

เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น

การจู้จี้มากเกินไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เกิดปัญหาในความสัมพันธ์ที่ไม่จำเป็น และยังทำให้ต่างคนต่างรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นด้วย

จ้องจับผิดกับสิ่งรอบตัว

เมื่อเรารู้สึกไม่พอใจกับอีกฝ่ายจะยิ่งทำให้เราเป็นคนที่สนใจและตั้งปัญหากับสิ่งรอบตัวเรามากขึ้น นอกเหนือจากทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดแล้ว ความคิดที่สะสมอาจทำให้เราเครียดและนอนไม่หลับได้

นิสัยจู้จี้จุกจิกไม่ได้เป็นนิสัยที่อยู่คงทนถาวร เราสามารถพัฒนาตัวเองและลดพฤติกรรมเช่นนี้ได้เพื่อให้เรากลับมามีสุขภาพจิตที่ดีและไม่ส่งต่ออารมณ์ความรู้สึกให้กับผู้อื่น

  1. 1เปลี่ยนวิธีในการสื่อสาร
    บางครั้งการพูดจาถากถางผู้อื่น หรือแสดงพฤติกรรมที่เป็นการใส่ใจคนรอบข้างเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยน่ารัก เราจึงต้องเลือกวิธีที่จะพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเป็นคำแนะนำที่ดีจากเรา โดยที่ไม่ใช่การบังคับอีกฝ่าย แต่เป็นการสื่อสารด้วยความจริงใจที่ปราศจากการใช้อารมณ์ร่วม
  2. จัดการอารมณ์ของตัวเอง
    เมื่อเรากำลังหงุดหงิดกับอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจเราหรือคนรอบข้างกำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจอยู่เหนือการควบคุมของเรา เราควรจัดการตัวเองด้วยการควบคุมอารมณ์โกรธ โมโห เพราะยิ่งเราเครียดมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งจุกจิกมากขึ้นเท่านั้น 
  3. รู้ว่าอะไรอยู่เหนือการควบคุมของเรา
    ในบางเรื่องที่เรารู้สึกไม่พอใจจนทำให้เราจู้จี้จุกจิกใส่ผู้อื่น เราต้องทำความเข้าใจว่าบางเรื่อง บางสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราจึงอาจต้องเปลี่ยนความสนใจของเราไปที่สิ่งอื่นที่เราควบคุมได้แทน หรือลองถอยออกมาจากสถานการณ์ตรงหน้า เพื่อให้เราไม่แสดงพฤติกรรมนั้นออกมา

หรือถ้าหากเราโดนผู้อื่นจู้จี้จุกจิกใส่ เราอาจจะต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธหรือพูดจาอย่างตรงไปตรงมาว่า การกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น หรือบอกให้อีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตที่เรากำหนด ไม่ก้าวก่ายมากเกินไปจนทำให้ใครสักคนรู้สึกอึดอัด

การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องที่ดี การใส่ใจคนอื่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเพ่งเล็งมันมากเกินไปอาจทำให้เรากลายเป็นคนจู้จี้จุกจิกได้ ทุกอย่างควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน แล้วชีวิตและความสัมพันธ์ของเราจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น

 เมื่อเรารู้สึกไม่พอใจหรือต้องการอะไร การพูดจาอย่างตรงไปตรงมาด้วยคำพูดที่แสนน่ารัก อาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีมากขึ้นและยังทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรกับการจุกจิกจู้จี้ที่มากจนเกินไป แล้วจะจัดการอย่างไรกับปัญหานี้ได้บ้าง?

อ้างอิง