ฉลองครบรอบ 1 ปี กับ GWM ประเทศไทย ปรับโฉมใหม่เดินหน้าสู่ผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าไทยเต็มรูปแบบ
ถือเป็นการเริ่มต้นอย่างสวยงามสำหรับเกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) หรือ GWM ผู้ผลิตรถยนต์เอสยูวีและรถกระบะระดับโลกสัญชาติจีน ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ดำเนินธุรกิจในไทย GWM ประสบความสำเร็จในการปลุกกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) ในตลาดยานยนต์ไทย ด้วยยอดขายเกือบ 4,000 คันในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ช่องทางการจัดจำหน่าย 30 แห่ง และจำนวนผู้ดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน GWM กว่า 50,000 ราย ซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาสำหรับแบรนด์หน้าใหม่ที่เปิดตัวได้เพียงปีเดียว
ในปี 2021 ที่ผ่านมา GWM สร้างความประทับใจโดยการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากแฟนๆ ชาวไทย ซึ่งประเดิมด้วย HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีถึง 3 เดือนซ้อน (สิงหาคม–ตุลาคม 2564) ตามด้วย ORA Good Cat เจ้าเหมียวสุดน่ารักที่มียอดจองล้นหลามทะลุ 10,000 คันภายใน 7 วันหลังเปิดจองและก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของไทย รวมไปถึง All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ที่ก้าวเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ในกลุ่ม เอสยูวี บี รวมถึงยังคงได้รับยอดสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
คุณเอลเลียต จาง ประธาน GWM ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ให้ความไว้วางใจ และขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นและความทุ่มเทที่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจและทีมงานทุกคนมีให้กัน จนทำให้ GWM เติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงวันนี้
ความสำเร็จของ GWM สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์ทางเลือกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่จะตอบโจทย์ทั้งด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีความยั่งยืนต่อสังคมของผู้บริโภคชาวไทยที่มีมากขึ้น ซึ่ง GWM ในฐานะที่เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลกที่การันตีด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 1.28 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ก็พร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์กว่า 30 ปี และประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะอีกกว่า 10 ปี มาใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพ พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า
ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 GWM มีการปรับโฉมโลโก้ใหม่ ดีไซน์ล้ำสมัย เป็นกันเองกับผู้บริโภคมากขึ้น และสะท้อนภาพลักษณ์บริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก อีกทั้งประกาศเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะในรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางของชาวไทย
นอกจากนี้ GWM มาพร้อมกลยุทธ์ 4 ด้าน เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยยิ่งขึ้น
1. ด้านผลิตภัณฑ์
ในปีที่แล้ว GWM ประกาศจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 9 รุ่นมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดภายใน 3 ปี ซึ่งไฮไลต์สำคัญในปี 2022 นี้ GWM จะยกทัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอีก 5 รุ่น จาก 3 แบรนด์ โดยหนึ่งในนั้นได้แก่ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV จากแบรนด์ HAVAL ที่เพิ่งเผยโฉมครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และอีก 2 รุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ ORA ส่วนอีก 2 รุ่นจะเป็นรุ่นใดและจากแบรนด์ใด คงต้องคอยติดตามกัน
2. ด้านช่องทางจำหน่าย
GWM จะขยาย GWM Store ทั้งที่เป็น Direct Store และ Partner Store เพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง รวมเป็น 80 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ของประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3. ด้านสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า
GWM ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จฯ ให้ได้ 55 แห่ง ภายในปี 2565 โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ
G-Charge Supercharging Station สถานีชาร์จแบบ DC ขนาดใหญ่ที่ล่าสุด ซึ่งได้มีการเปิดตัวแห่งแรกที่สยามสแควร์
Partner Charging Station การต่อยอดความร่วมมือกับ Partner Store ในการติดตั้งจุดชาร์จแบบชาร์จเร็ว (DC Charge) ในกรุงเทพและจังหวัดสำคัญต่างๆ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
Destination Charging Station ขยายจุดชาร์จตามโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าตามสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ
คุณณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ GWM ประเทศไทยได้กล่าวว่า สถานีชาร์จของ GWM ทุกแห่งยินดีให้บริการกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทและทุกแบรนด์ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และทั้ง 7 วันผ่าน GWM application เพื่อสร้างสังคมรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด และยังมีแผนจะสร้าง Emergency EV Mobile Charging Unit หรือรถบริการเคลื่อนที่ในการชาร์จไฟฉุกเฉินให้กับลูกค้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
4. ด้านประสบการณ์ลูกค้า
GWM จะให้บริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-Center) และตั้งเป้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้าในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจยกตัวอย่างเช่น การนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อรถบนเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความสะดวกในด้านบริการหลังการขาย รวมถึงรวมฐานข้อมูลสถานีชาร์จประจุไฟฟ้ามาไว้ที่เดียวใน GWM application
ทั้งนี้ GWM มีความตั้งใจที่จะยกระดับการทำงานและให้บริการลูกค้าในทุกมิติ และสื่อถึงความเป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้คนไทยตลอดเส้นทาง และพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ การปรับโฉมแบรนด์ในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GWM สามารถดูรายละเอียดได้ที่
Facebook: GWM Thailand
Instagram: GWM Thailand
Website : www.gwm.co.th
Twitter: GWM Thailand
YouTube: GWM Thailand
Line Official: GWM Thailand