2 Min

ทำไมแมวถึงชอบนอนบนโน๊ตบุ๊ค แล้วเราควรจัดการกับ ‘เจ้านาย’ อย่างไรดี

2 Min
1722 Views
22 Jun 2022

ทาสแมวหลายคนคงเคยเจอปัญหาที่เจ้าเหมียวแสนรักของเราชอบย่างเท้ามาทิ้งตัวเผละลงกลางแป้นพิมพ์โน้ตบุ๊ค ขณะกำลังยุ่งอยู่กับงานแน่ๆ และไม่ว่าจะห้ามปรามอย่างไร ก็ดูเหมือนน้องจะไม่ยอมฟัง ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมจนเราต้องยอมพ่ายให้กับความดื้อของเจ้าแมวในที่สุด

แท้จริงแล้ว แมวต้องการอะไร เรื่องนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านแมวอธิบายเอาไว้หลายคน และคำตอบก็มีหลายเหตุผลด้วยกัน

cat l Tai Bui via unsplash.com

อย่างแรก มาริลีน ครีเกอร์ (Marilyn Krieger) ที่ปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวที่ผ่านการรับรองจาก The Cat Coach อธิบายว่า เป็นเพราะพวกมันต้องการทำให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น ซึ่งโน้ตบุ๊คที่ถ่ายเทความร้อนออกมาเป็นหนึ่งในคำตอบที่เจ้าแมวต้องการ 

ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่แมวชอบนอนอาบแดดนั่นเอง เพราะเมื่อยามนอน ร่างกายของแมวจะไม่เผาผลาญพลังงานใดๆ ดังนั้นน้องแมวจึงต้องปรับอุณหภูมิในร่างกายให้สมดุลด้วยการนอนในที่อบอุ่นมีแสงแดดส่องถึง เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกหนาว เราจึงเห็นแมวนอนอาบแดดอยู่เสมอ

หากเราทำงานในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำหรือแสงส่องถึงน้อย ก็คงไม่พ้นที่เจ้าเหมียวจะเข้ามายึดโน้ตบุ๊คตอนที่กำลังเปิดอยู่ในที่สุด และถึงเราจะอุ้มลงมานั่งตัก ก็คงไม่ยอม เพราะอย่างไรเสียโน้ตบุ๊คก็อุ่นกว่าตักคนแน่นอน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ครีเกอร์อธิบาย คือ มันอาจไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำสิ่งที่แมวถนัดอย่างการเรียกร้องความสนใจ อยากเล่น หรือไม่ก็อาจหิว เลยมาเรียกทาสให้ไปทำหน้าที่ตามคำสั่ง 

ด้าน ดร.เดวิด แซนด์ส (Dr. David Sands) ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสัตว์ อธิบายไว้ว่า แมวต้องการที่จะยึดครองโน้ตบุ๊คของเรา หรือก็คือการแสดงความเป็นเจ้าของสิ่งนั้นด้วยการทำให้กลิ่นของมันติดอยู่กับโน้ตบุ๊คมากที่สุด และมากกว่ากลิ่นทาส ซึ่งเราจะรู้ได้ทันทีหากเห็นน้องเอาหัวถูไถไปบนแป้นพิมพ์หรือหน้าจอ

ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมปกติของแมวอีกเช่นกัน เช่น การที่แมวชอบคลอเคลียเรา ก็อาจไม่ใช่เพียงต้องการอ้อนหรือเรียกร้องความสนใจ แต่เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของตัวเรานั่นเอง 

cat l Tai Bui via unsplash.com

คราวนี้มาว่ากันที่วิธีการแก้ไขกันบ้าง

กรณีที่แมวต้องการความความอบอุ่น นั่นหมายความว่าทาสต้องลงทุนลงแรงทำที่นอนให้เจ้าเหมียวเสียใหม่ มองหาหมอนนุ่มๆ สักใบมาวางไว้ข้างๆ โน้ตบุ๊ค ให้พอเห็นกันอย่างสบายใจกันทั้งสองฝ่าย

ขณะเดียวกัน ทาสอาจต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อนาย เป็นต้นว่า ก่อนจะทำงานลองทำกิจกรรมร่วมกับแมวก่อนลงมือทำงานดู ไม่ว่าจะเล่นของเล่น หรือการให้อาหาร เพราะหากว่ากันตามตรง แมวก็ค่อนข้างมีกิจวัตรที่ตายตัวพอสวร คือ ออกล่า กิน และนอน ก่อนทำงานก็เอาใจน้องก่อน เล่นกับน้องจนเหนื่อย เดี๋ยวน้องก็ไม่มายุ่งกับเราเอง

อีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่แนะนำให้ทำคือ เล่นหรือให้ขนมตอนน้องอยู่บนโน้ตบุ๊ค เพราะนั่นจะทำให้แมวเข้าใจผิดว่าเมื่อเขาอยู่ตรงนี้ เขาจะได้รางวัลหรืออาหารเป็นการตอบแทน 

แต่หากวิธีที่ว่ามาไม่ประสบความสำเร็จ ก็ให้พักสายตา หยุดทำงาน แล้วเล่นกับแมวสักพักก็อาจจะดีต่อใจเรา มากกว่ามองว่าพฤติกรรมของเจ้าเหมียวนี้เป็นเรื่องน่ารำคาญใจ

อ้างอิง