2 Min

อนาคตอาหาร? นักวิจัยทดลองทำ ‘ชีสเค้ก’ จากเครื่องปรินต์ 3D สำเร็จ

2 Min
606 Views
03 Apr 2023

หากใครจำได้ ก่อนหน้านี้เคยมีทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเคยทำหุ่นเลเซอร์พิฆาตยุงออกมาโชว์ว่าเราสามารถเอาเทคโนโลยีเลเซอร์และระบบ AI ตรวจจับยุงมาผสมกันสร้างเป็นเครื่องจักรสังหารยุงได้

คราวนี้ทีมเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่กลับมาด้วยการทดลองทำชีสเค้กด้วยเครื่องปรินต์ 3 มิติ

ซึ่งไอเดียก็คือ ใช้ส่วนผสมพื้นๆ มาลองทำเค้ก 3 มิติ ซึ่งวัตถุดิบก็ได้แก่ 1. เกรแฮมแครกเกอร์ 2. เนยถั่ว 3. เยลลี 4. นูเทลลา 5. กล้วยบด 6. ครีมน้ำตาล 7. ซอสเชอร์รี

โดยกระบวนการก็ไม่ได้มีอะไรมาก คือเอาส่วนผสมพวกนี้ใช้เป็นหมึกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ แล้วก็ออกแบบให้พิมพ์ออกมา

จริงๆ ฟังดูเหมือนง่าย แต่การทำเค้ก 3 มิติไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะส่วนผสมบางอย่างมีลักษณะเหลว ทีมต้องออกแบบเค้กหลายรอบให้พวกส่วนผสมที่แข็งล้อมรอบของเหลวให้เค้กขึ้นรูปได้

ซึ่งหลังจากทำอยู่หลายรอบ ทีมงานก็ทำเค้กออกมาได้สำเร็จ ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้แค่ปรินต์เท่านั้น แต่มันมีการอบด้วยแสงเลเซอร์เพื่อให้เค้กสุกด้วย (น่าจะแสงเลเซอร์ชนิดเดียวกับที่ใช้ยิงยุงนั่นแหละ) โดยถ้าสนใจไปดูคลิปเต็มๆ ได้ที่ https://youtu.be/mvv0SorF2Pc

แน่นอน เมื่อปรินต์ออกมาก็ต้องลองกิน (เพราะมันเป็นเค้ก) ซึ่งถามว่าอร่อยไหม คนที่ได้ลองกินก็จะบอกว่ารสไม่เหมือนอะไรที่เคยกินมาก่อนเลย

ทีนี้ เขาจะทำแบบนี้ไปทำไม? ตรงนี้จะเริ่มซีเรียสและน่าสนใจแล้ว

คือเขามองว่า จริงๆ มนุษย์ในอนาคต น่าจะปรินต์อาหารมากินกันแบบในหนังไซไฟ และในความเป็นจริง พวกเนื้อสัตว์มันก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีปรินต์ออกมาอยู่

ซึ่งถ้ามองแบบล้ำยุค มันก็ต้องเริ่มคิดเริ่มออกแบบเมนูที่มันทำได้จริงด้วยเครื่องปรินต์ 3 มิติ และการทดลองของทีมก็ทำให้เห็นว่า ขนาดแค่จะทำเค้ก มันยังไม่ได้ทำออกมาง่ายๆ เพราะมันต้องออกแบบมาให้เหมาะกับกระบวนการปรินต์ด้วย ไม่ใช่คิดจะทำอาหารหน้าตาแบบอาหารปกติก็ทำได้เลย

ทั้งนี้ ทางทีมก็มองว่า ถ้าอนาคตของมนุษย์ปรินต์อาหารกินแล้ว มันก็อาจเป็นไปได้ที่จะสร้างสมดุลทางโภชนาการมากกว่าเดิม เพราะการทำอาหารแบบนี้จะทำให้เรารู้ชัดๆ ว่าเรากินอะไรไปเท่าไร เพราะปริมาณวัตถุดิบทุกอย่างมันก็ย่อมมีคุณค่าทางอาหารระบุ และในการทำอาหารแต่ละครั้ง เราก็จะรู้ว่าใช้วัตถุดิบและส่วนผสมอะไรไปเท่าไร ซึ่งในทางปฏิบัติคือ มันจะทำให้เราเห็นว่าเราขาดสารอาหารอะไรบ้าง แล้วระบบก็จะแนะนำอาหารที่เรากินแล้วจะได้รับสารอาหารที่ขาดไป แล้วเราก็อาจจะจิ้มเลือกได้เลยว่าจะกินอะไรให้ได้สารอาหารครบนั่นเอง

อ้างอิง