“ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด เพราะหัวใจจะสั่น นอนไม่หลับ เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรดื่ม ผู้ป่วยปรึกษาแพทย์ก่อน”
คือ คำเตือนในโฆษณาและบนฉลากเครื่องดื่มชูกำลัง

เครื่องดื่มชูกำลัง | th.openrice.com
ใครที่เคยดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ (เกินวันละ 2 ขวด) คงพอนึกถึงอาการข้างต้นออกกันบ้าง เช่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ใจสั่น
แต่ถ้าเรื่องบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดจนกระทั่งเสียชีวิต คงไม่ค่อยได้ยินกันสักเท่าไหร่ เพราะถ้าคาเฟอีนที่ว่าหมายถึงกาแฟ ชา หรือน้ำอัดลม เราคงต้องบริโภคเป็นจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งตัวเครื่องดื่มชูกำลังเอง ก็ต้องบริโภคเป็นจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว กว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต
คำถามคือพฤติกรรมการบริโภคปกติ จะทำให้เราเสียชีวิตจากคาเฟอีนได้หรือไม่?
ตอบว่า อาจจะได้ แต่ไม่ใช่การบริโภคแบบธรรมดาเสียทีเดียว
ย้อนกลับไปช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หญิงสาวชาวอังกฤษรายหนึ่ง (แหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ) ถูกส่งเข้าโรงพยาบาล London’s Queen Elizabeth เนื่องจากได้รับคาเฟอีนเกินขนาด แต่ไม่ใช่การบริโภคแบบดื่มกินธรรมดา เพราะเธอเลือกใช้ ‘คาเฟอีนแบบผง’ ที่สั่งออนไลน์

โรงพยาบาล London’s Queen Elizabeth | londonnewsonline.co
รายงานระบุว่า ร่างกายของเธอมีปริมาณคาเฟอีนมากถึง 20 กรัม หรือเท่ากับปริมาณการบริโภคกาแฟ 56 ถ้วยในครั้งเดียว!
ซึ่งปกติแล้ว ปริมาณคาเฟอีนที่เกิน 400-500 มิลลิกรัม สามารถสร้าง “ภาวะคาเฟอีนเป็นพิษ” อย่างรุนแรงได้
ภาวะคาเฟอีนเป็นพิษก็คืออาการกระสับกระส่าย หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ ไม่สบายเนื้อสบายตัว ซึ่งคาเฟอีนปริมาณ 1-2 กรัม ก็นับว่าเป็นปริมาณที่เยอะมากแล้ว
เพราะปกติ ทางการแพทย์แนะนำว่า ไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกินวันละ 200 มิลลิกรัม (0.2 กรัม) หรือเท่ากับปริมาณกาแฟสองแก้ว เพราะถ้ามากเกินกว่านั้น จะทำให้เราเริ่มรู้สึกไม่ดี
กรณีที่เป็นเครื่องดื่มชูกำลัง จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ขวดละ 50 มิลลิกรัม ถ้าคุณดื่มวันละ 2 ขวด นั่นหมายถึงคุณบริโภคคาเฟอีนเข้าไปแล้ว 100 มิลลิกรัม

ดื่มกาแฟหลายแก้ว | edition.cnn.com
อย่ามองว่าปริมาณแค่นี้ไม่ได้เยอะอะไร เพราะนี่ยังไม่รวมคาเฟอีนที่ได้รับจากช่องทางอื่นอีก
สำหรับกรณีหญิงสาวชาวอังกฤษด้านบน ในช่วงที่เธอมาถึงโรงพยาบาล เธอมีอาการใจสั่น เหงื่อออก วิตกกังวล หายใจไม่สะดวก และมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงถึง 109 ครั้งต่อนาที (ประมาณเดินเร็วหรือวิ่งแบบจ๊อกกิ้ง) ซึ่งเธอยังนับว่าโชคดี เพราะว่าแพทย์สามารถช่วยเธอไว้ได้ด้วยการยับยั้งไม่ให้คาเฟอีนในลำไส้ถูกดูดซึมเข้าเลือด
ถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่า หญิงสาวชาวอังกฤษคนนั้น บริโภคคาเฟอีนแบบผงไปทำไม?
ประเด็นก็คือ ‘คาเฟอีนแบบผง’ มีปริมาณคาเฟอีนที่เข้มข้นมาก หลายครั้งถูกอ้างเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก และหาซื้อได้ไม่ยากในโลกออนไลน์ ถึงแม้จะถูกแบนในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และไม่ได้จะรับการยืนยันจากทาง อย. ก็ตาม แต่ในสหราชอาณาจักร ยังเปิดอนุญาตให้ขายได้

คาเฟอีนแบบผง | chemipan.com
ทั้งนี้ คาเฟอีนแบบผงก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรวางใจ เพราะทั่วโลกมีปริมาณผู้เสียชีวิตจากการบริโภคคาเฟอีนมากเกินขนาดมากพอสมควร
เช่น เมื่อปี 2019 เด็กหนุ่มวัย 22 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต หลังจากบริโภคโปรตีนเชคสำหรับออกกำลังกาย ที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนผงประมาณ 1 ช้อนชา (หนึ่งช้อนชา มีปริมาณคาเฟอีนเท่ากับกาแฟ 25 แก้ว) และในปี 2018 ก็มีหญิงสาววัย 32 รายหนึ่งเสียชีวิตจากการบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดด้วยสาเหตุเดียวกัน
ดูเหมือนว่าคาเฟอีนที่มาในรูปแบบที่เราไม่คุ้นเคยจะสร้างอันตรายมากกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสม หรือมาแบบเป็นผงเลยก็ตาม
สุดท้าย การบริโภคกาแฟธรรมดาหรือเครื่องดื่มชูกำลังในปริมาณที่เหมาะสม น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
แล้วคุณล่ะครับ คิดอย่างไรกับการบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดกันบ้าง มาร่วมแชร์กันดีกว่า!
อ้างอิง: IFLScience. A Woman Took A Massive Overdose Of Caffeine. This Is What Happened To Her https://bit.ly/2TPhEJI
IFLScience. Father Shares Heartbreaking Warning After Son Dies From Accidentally Overdosing On Caffeine Powder. https://bit.ly/2ZQAuUi
ความรู้สนุกๆ แบบหมอแมว. เตือนภัยคาเฟอีนผง อาหารเสริมอันตรายที่ไม่ควรลอง. https://bit.ly/2yEYsXH