อยากได้เงินเดือนเพิ่ม? ลองทำตัวเป็น ‘พนักงานบูมเมอแรง’ ลาออกไปแล้วก็วกกลับมาทำงานที่เดิม
ในยุคที่คนเจน Z ถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่เริ่มต้นการลาออกครั้งใหญ่ (Great Resignation) และการทำงานแบบไม่ทุ่มเทเกินร้อย (แต่ไม่คิดจะลาออกจากงาน) อย่างเช่น Quiet Quitting ล่าสุดก็มีเทรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว คือ ‘พนักงานบูมเมอแรง’ หรือ Boomerang Workers
พนักงานบูมเมอแรงค่อนข้างจะมีความหมายตรงตัว เพราะอ้างอิงถึงบูมเมอแรงที่เป็นเครื่องร่อนรูปตัววีอันขึ้นชื่อของชนพื้นเมืองแถบโอเชียเนีย ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีมีไว้สำหรับ ‘ล่าสัตว์’ และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือเมื่อขว้างออกไปแล้วก็จะมีวิถีโค้งที่วนกลับมายังคนขว้างเสมอ
ด้วยเหตุนี้ พนักงานที่ลาออกจากบริษัทไปแล้ว แต่กลับมาสมัครงานใหม่ จึงถูกสื่อสายธุรกิจหลายสำนักเรียกว่า ‘พนักงานบูมเมอแรง’ นั่นเอง
สถาบันสำรวจความเห็น Pew Research Center ในสหรัฐอเมริกา มีตัวเลขน่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากสำรวจฐานข้อมูลการจ้างงานที่รวบรวมสถิติและรายละเอียดจากบริษัทข้ามชาติ 129 แห่งในประเทศ ซึ่งมีพนักงานในองค์กรรวมกันประมาณ 3 ล้านคน ช่วงเดือนมกราคม–เมษายน 2022 พบว่า ‘พนักงานบูมเมอแรง’ จะใช้เวลาเฉลี่ยคนละประมาณ 13 เดือน นับตั้งแต่ลาออกจากที่ทำงานแห่งแรก เพื่อไปเริ่มงานกับบริษัทใหม่ แล้วก็วนกลับมาสมัครงานกับบริษัทแรกอีกครั้ง
ที่สำคัญคือ พนักงานบูมเมอแรงมักจะได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 28 เปอร์เซ็นต์ของฐานเงินเดือนเดิม ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานทั่วไปที่เปลี่ยนงานไปยังบริษัทใหม่ที่มักจะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นแค่ราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น
สรุปคร่าวๆ ก็คือว่า การลาออกจากงานเพื่อไปอยู่บริษัทใหม่ เป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยให้พนักงานได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้รวดเร็วกว่าการรอให้บริษัทเดิมพิจารณาขึ้นเงินเดือน แต่พนักงานซึ่งเคยอยู่ในบริษัทหนึ่งมาก่อนและกลับมาสมัครงานอีกครั้งหลังจากไปทำงานที่อื่นสักพักหนึ่ง มีโอกาสจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ ‘สูงกว่า’ คนที่เปลี่ยนงานไปยังบริษัทใหม่เรื่อยๆ
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
สำนักข่าว CNBC ตามไปสอบถามความเห็นของ แอนเดรีย เดอร์เลอร์ (Andrea Derler) หัวหน้านักวิจัยของบริษัทที่ปรึกษาและสำรวจข้อมูล Visier ได้รับคำตอบว่า พนักงานที่เคยทำงานใ่ห้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งมาก่อน ย่อมจะมีความรู้ความเข้าใจ รวมถึงน่าจะรู้จุดอ่อน–จุดแข็งขององค์กรเป็นอย่างดีอยู่แล้วเมื่อออกไปทำงานที่ใหม่ก็น่าจะได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมเช่นกัน
เมื่อคนเหล่านี้กลับเข้ามาทำงานที่บริษัทแรกที่เคยลาออกไป ก็ย่อมจะมีความคิดเห็นดีๆ หรือมีองค์ความรู้อื่นๆ ที่จะนำมาต่อยอดหรือสะท้อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้
นอกจากนี้ พนักงานบูมเมอแรงราว 40 เปอร์เซ็นต์ที่บริษัทเดิมรับกลับเข้าทำงานต่อก็มักจะเป็นคนที่เคยมีผลงานที่ดีพอจะพิสูจน์ตัวเองมาก่อนแล้ว เรียกได้ว่าเป็นคนที่บริษัทเดิมรู้มือ–รู้ความสามารถอยู่พอสมควร การรับพนักงานกลุ่มนี้กลับเข้าทำงานจึงไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจยากแต่อย่างใด
ในยุคที่คนต้องดิ้นรนแก่งแย่งกันหางาน การทำตัวเป็นพนักงานบูมเมอแรงอาจช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับทั้งคนทำงานและบริษัทก็เป็นได้
อ้างอิง
- Business Insider. Want the biggest pay rise? Then become a ‘boomerang’ worker and go back to your old employer. https://bit.ly/3wGdBmf
- CNBC. It’s not just changing jobs—boomeranging back to your old company could get you the biggest pay raise. https://cnb.cx/3pQmmWW