2 Min

BMW ประกาศ ‘ค่ารายเดือน’ ในการ ‘ปลดล็อค’ ฟีเจอร์ต่างๆ ในรถ ตั้งแต่กล้องหน้ารถยันไฟหน้าอัจฉริยะ

2 Min
962 Views
27 Jul 2022

หากใครเล่นเกมในยุคนี้บ่อยๆ ก็คงจะคุ้นกับคำว่า ‘In-App Purchase’ หรือบ้างก็เรียกว่าระบบ Microtransaction ซึ่งก็คือระบบที่ทำการล็อกฟีเจอร์ต่างๆ ในโปรแกรมเอาไว้ และต้องจ่ายเงินถึงจะปลดล็อกได้ ซึ่งในเกมมันก็มีตั้งแต่ตัวละคร อาวุธ สกิน ด่าน ฯลฯ

เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วในอุตสาหกรรมเกมว่า มันเหมาะสมหรือไม่ที่จะมี? โดยเฉพาะในเกมที่ต้องเสียเงินซื้อมาแต่แรก เพราะตอนแรกมันเป็นโมเดลธุรกิจของพวกเกมที่เล่นฟรี แต่ต้องจ่ายเงินจริงเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่ม ซึ่งสุดท้ายมันก็ลามมาในพวกเกมแบบเสียเงินในที่สุด

ล่าสุดคงไม่ต้องเถียงกันแล้ว เพราะสุดท้ายโมเดลธุรกิจลักษณะนี้ก็ได้ลามมายังอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะทางบริษัทรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีอย่าง BMW จะประกาศร้านค้าออนไลน์ที่คุณสามารถซื้อฟีเจอร์ต่างๆ ของรถแบบแยกส่วนได้ ซึ่งในความเป็นจริงคือเขาไม่ได้ติดอะไรเพิ่มให้คุณ เขาแค่ปลดล็อกฟีเจอร์

ฟีเจอร์พวกนี้ก็มีตั้งแต่การบันทึกภาพกล้องหน้ารถ (ราคาราว 8,800 บาท ตลอดการใช้งาน) ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ (เริ่มต้นเดือนละประมาณ 440 บาท) การทำความร้อนที่เบาะ (เริ่มต้นเดือนละประมาณ 660 บาท) การทำความร้อนที่ล้อเพื่อการขับรถในหน้าหนาว (เริ่มต้นเดือนละประมาณ 440 บาท) (ไปดูลิสต์เต็มๆ ได้ที่ https://www.bmw.co.uk/en/shop/ls/cp/connected-drive )

แน่นอนว่าถ้าไปถามบริษัทรถเขาก็จะบอกว่านี่เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ซื้อ เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการระบบไฟหน้าอัจฉริยะ และก็คงไม่ใช่ทุกเดือนที่คนต้องการระบบทำความร้อนที่เบาะหรือล้อ พูดง่ายๆ ทางบริษัทอธิบายว่ามันจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายในสิ่งที่เขาไม่ได้ใช้

แต่นึกอีกมุม ของพวกนี้มันติดมากับรถอยู่แล้ว พูดง่ายๆ คือค่าฮาร์ดแวร์เราจ่ายไปแล้วพร้อมกับค่ารถแน่ๆ แต่บริษัทรถกลับใช้ซอฟต์แวร์ล็อกไม่ให้เราใช้สิ่งเหล่านี้ แล้วมาคิดเงินเรา หากเราจะใช้ฮาร์ดแวร์ที่เราจ่ายเงินซื้อไปแล้ว

จริงๆ ประเด็นพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันก็เถียงกันมานมนานตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่อินเทอร์เน็ตแพร่หลายแล้วว่า เรามีสิทธิ์จะริปเพลงจากแผ่นซีดีที่เราซื้อมาอย่างถูกต้องมาเป็น MP3 ไว้ฟังได้หรือไม่? แล้วมันเหมาะสมแค่ไหนที่บริษัทที่ผลิตซีดีจะมาล็อกให้เราทำแบบนี้ไม่ได้

เพียงแต่ทุกวันนี้ ในยุคของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งทุกอย่างมีซอฟต์แวร์เชื่อมกับอินเทอร์เน็ต มันเลยทำให้ทุกอย่างสามารถถูกล็อกฟีเจอร์และปลดล็อกได้ตลอดเวลา ซึ่งโลกเราก็ไม่ขาดบริษัทที่หัวใสพอจะเอาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแบบนี้มาทำกำไร

ไปๆ มาๆ ในยุคของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งเราแทบไม่เป็นเจ้าของสิ่งใดอีกต่อไป ทุกอย่างดูเหมือนเช่าเขาใช้เสียหมด มีค่ารายเดือน มีค่าบริการยิบย่อยให้ปลดล็อก

ซึ่งนี่คือโลกไฮเทคที่คนอยากให้เป็นหรือเปล่าไม่รู้ แต่มันก็จะเป็นไปแบบนี้แหละ

อ้างอิง