“กีตาร์ยังไม่ตาย” รู้ไหมว่าปี 2020 คือปีที่กีตาร์ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์
Select Paragraph To Read
- 2020 ปีทองของอุตสาหกรรมกีตาร์
- “กีตาร์” รอดมาได้อย่างไร?
“ดนตรีร็อกตายแล้ว” นี่น่าจะเป็นสิ่งที่เราได้ยินบ่อยๆ ในรอบหลายปีพร้อมๆ กับการที่โลกดนตรีถูกครอบครองไปด้วยนักร้องนักดนตรีหญิงจนถึงแฟนเพลงสาวๆ ตั้งแต่ฮิปฮอปไปจนถึง K-Pop
ถ้าเราไปถามนักดนตรีร็อกน้อยใหญ่ในโลก ไม่ว่าจะเป็นร็อกเกอร์ดาวค้างฟ้าที่ตอนนี้เหนียงยานไปจนถึงร็อกเกอร์รุ่นกลางๆ หรือกระทั่งผับบาร์ที่เน้นขายดนตรีร็อก ภาพก็น่าจะออกมาตรงกันหมดว่าทุกวันนี้ดนตรีร็อกอยู่ในช่วง “ขาลง”
ถามว่า “กีตาร์” เครื่องดนตรีที่ดูจะขาดไม่ได้กับดนตรีร็อกนั้นตายไปด้วยหรือไม่ ถามนักดนตรีแก่ๆ ก็คงจะบ่นๆ ว่าคนสมัยนี้ไม่เล่นกีตาร์กันเลย แต่ถ้าไปถาม “ร้านขายเครื่องดนตรี” คำตอบน่าจะได้มาอีกแบบ
ลองเอาชื่อร้านเครื่องดนตรีดังๆ ในไทยร้านไหนก็ได้ไปค้นในเว็บ DBD DataWarehouse+ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เราจะเห็นเลยว่าผลกำไรของ “ร้านกีตาร์” ไม่ได้ลดลงเลยในรอบ 3-4 ปี โดยแพตเทิร์นทั่วไป เราจะเห็นว่าปีที่ยอดขายต่ำสุดคือราวปี 2016-2017 แต่หลังจากนั้น ยอดก็ขึ้นมาต่อเนื่องรัวๆ ไม่หยุด
และที่โหดคือ จริงๆ นี่ไม่ใช่แพตเทิร์นแค่ในไทย แต่เป็นกันทั้งโลก แม้แต่ปีที่แล้ว (2020) ที่เศรษฐกิจโลกย่ำแย่สุดๆ พวกบริษัทกีตาร์ต่างยิ้มปริ่ม เพราะยอดขายสูงแบบไม่เคยมีมาก่อน
แล้วทำไมกีตาร์ถึงขายดี?
2020 ปีทองของอุตสาหกรรมกีตาร์
“กีตาร์ตายแล้ว” หรือไม่ คงขึ้นอยู่กับไปถามใคร
เพราะในอุตสาหกรรมเครื่องดนตรีฝั่งอเมริกา มีรายงานว่าจริงๆ ที่ยอดขายตกคราวที่แล้วก็เมื่อครั้งวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2008 โน่น เพราะตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมายอดขายกีตาร์เพิ่มขึ้นทุกปี
และนี่ก็ไม่แปลก หากปี 2020 จะเป็นปีที่กีตาร์ขายดีที่สุด
ต้องบอกก่อนว่าบริษัทกีตาร์ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นเราก็จะไม่ค่อยได้เห็นพวก “รายงานประจำปี” แต่ในปี 2020 นี้ Fender บริษัทกีตาร์ไฟฟ้ายี่ห้อดังก็ประกาศออกมาตรงๆ ชัดๆ ว่า เป็นปีที่บริษัทขายกีตาร์ได้เยอะสุดในประวัติศาสตร์ และที่โหดคือ ประกาศตอนจบไตรมาสที่ 3 ด้วย คือยอดขายจากไตรมาสที่ 3 ก็ชนะยอดขายในแต่ละปีตลอดเวลากว่า 70 ปีนับตั้งแต่เปิดบริษัทในปี 1946 แล้ว
กีตาร์และเบสไฟฟ้าของ Fender | Fender
และก็ไม่ใช่แค่ Fender แต่ Gibson อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ของโลกกีตาร์ไฟฟ้าก็รายงานว่ายอดขายปี 2020 นี่ปังมากๆ แม้ว่าจะไม่เปิดเผยตัวเลข และก็ไม่ใช่แค่โลกของกีตาร์ไฟฟ้าเท่านั้น เพราะบริษัทกีตาร์โปร่งแบบ Taylor กับ Martin ก็รายงานว่าปี 2020 ยอดของตัวเองก็ดีสุดๆ เช่นกัน
พูดง่ายๆ คือในภาพรวม หลายบริษัทยืนยันตรงกันว่าปี 2020 น่าจะเป็นปีที่กีตาร์ขายดีที่สุด (หรือไม่ก็ใกล้เคียง) ในประวัติศาสตร์แล้ว
ซึ่งปี 2020 เป็นปีที่ขายดีจนกีตาร์ “ขาดตลาด” ด้วยซ้ำ เพราะถ้าไปถามร้านเครื่องดนตรีไม่ว่าจะฝั่งอเมริกาแบบ Sweetwater หรือฝั่งอังกฤษแบบ Andertons ก็ล้วนบอกว่าของมาไวไปไวมาก แต่จะสั่งไปที่บริษัทก็ผลิตไม่ทัน เพราะโรงงานกีตาร์ปิดไปจำนวนหนึ่งจากโควิด-19 ซึ่งทางร้านก็เข้าใจกันอยู่
“กีตาร์” รอดมาได้อย่างไร?
ถ้าว่ากันด้วยตัวเลข คงไม่ต้องเถียงอะไรกันแล้วว่ากีตาร์ยังไม่ตายและขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วยซ้ำ เว้นแต่เราจะเชื่อว่าอุตสาหกรรมกีตาร์ทั้งโลกพร้อมใจกันสมคบคิดตกแต่งตัวเลขทางบัญชีของตัวเองอย่างพร้อมเพรียง
แต่คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมล่ะ? แล้วทำไม “คนดนตรี” รุ่นเก่า ถึงมีภาพที่ไม่โสภาของวัฒนธรรมกีตาร์ ทั้งที่จริงๆ มันก็ดูไปได้ดีนี่?
คำถามนี้ถามง่าย แต่ตอบยากมาก เพราะฉะนั้นตั้งแต่บรรทัดนี้เราจะพยายามอธิบายความเป็นไปได้จากข้อเท็จจริงในหลายๆ ส่วน
คำตอบพื้นฐานที่สุดก็คือ วัฒนธรรมกีตาร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว มันเกิด “โลกใหม่” ของกีตาร์ที่ไม่เชื่อมกับ”โลกเก่า” เท่าไร คนใน “โลกเก่า” ก็เลยไม่ตระหนักเท่าไรว่ามันมี “โลกใหม่” เกิดขึ้น และก็เห็นแต่ความเสื่อมโทรมของโลกตัวเอง
จริงๆ กีตาร์โยงกับวัฒนธรรมดนตรีสดตั้งแต่ช่วงแรกๆ กับกีตาร์ไฟฟ้า และนั่นก็คือโยงกับเทศกาลดนตรีต่างๆ และเวลาพูดถึงเทศกาลดนตรี เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องของความสำมะเลเทเมาและเซ็กส์พอๆ กับดนตรี ซึ่งในแง่นี้ เราอาจพออนุมานว่า “คนรุ่นใหม่ Gen Z” อาจไปเทศกาลดนตรีน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมีข้อมูลชัดๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจากฝั่งอเมริกาว่าในวัยเดียวกัน คน Gen Z มีความสำมะเลเทเมาและมีประสบการณ์ทางเพศน้อยกว่าคนรุ่นอื่น
และนี่ก็ยังไม่นับว่า “อุตสาหกรรมดนตรีสด” ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีดนตรีร็อกเป็นศูนย์กลางแล้ว ดนตรีฮิปฮอปไปจนถึงอิเล็กทรอนิกส์นั้นใหญ่โตมาก และก็สร้างรายได้ให้กับทางฝั่งผู้จัดงานดนตรีสดอย่างมหาศาล หรือพูดง่ายๆ คือในโลกที่คนสำมะเลเทเมากันน้อยลง ดนตรีร็อกก็ต้องเสียลูกค้าให้กับดนตรีแนวใหม่ๆ ที่ขึ้นมาแทนอีก
นี่คือ “โลกเก่า” ที่กำลังหดตัวอย่างต่อเนื่อง
แต่อะไรคือ “โลกใหม่”? เรื่องนี้เอาจริงๆ ไปถามคนที่มีลูกในไทยยุคนี้ก็ได้ ว่าพวกเขาส่งลูกไปเรียนกีตาร์กันมากขนาดไหน เด็กสมัยนี้มีโอกาสเรียนดนตรีมากกว่าเมื่อ 10-20 ปีก่อนเยอะ ซึ่งเหตุผลสำคัญก็คือ การที่คนรุ่นพ่อแม่ของเด็กรุ่นนี้นั้นโตมาในยุค 1980’s-1990’s ที่ดนตรีร็อกยังเป็นดนตรีเมนสตรีม พูดง่ายๆ เด็กยุคนี้คือเด็กที่พ่อแม่โตมากับดนตรีร็อก ดังนั้นจะบอกว่าพ่อแม่ยุคนี้นิยมส่งลูกไปเรียนกีตาร์มากกว่าเปียโนก็ไม่แปลกอะไร
นี่นำมาสู่คำอธิบายว่าทำไมยอดขายของร้านเครื่องดนตรีต่างๆ ถึงสูง ทั้งที่จริงๆ ไปดูหน้าร้านลูกค้าก็ไม่ได้เยอะเท่าไร เพราะเอาจริงๆ ยอดขายของร้านเครื่องดนตรีต่างๆ น่าจะเกิดจากการขายส่งให้เหล่าโรงเรียนดนตรีที่กลายมาเป็น “พ่อค้าคนกลาง” สำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องดนตรีมากกว่ายุคก่อน และนี่ก็ยังไม่นับการซื้อขายเครื่องดนตรีออนไลน์ที่ขยายตัวสุดๆ ด้วย และเราไม่มีทางเห็น “ยอดขาย” แบบนี้จากการไปเดินร้านเครื่องดนตรีอันเงียบเหงา
นี่คือมุมจากเมืองไทย แต่ถ้าเป็นโลกตะวันตก คำอธิบายหนึ่งที่เขาอธิบายกันก็คือเพราะยุคนี้คนเล่นกีตาร์เป็นผู้หญิงซะเยอะ และอิทธิพลหนึ่งที่สำคัญมากคือ Taylor Swift นักร้องผู้ทรงอิทธิพลในยุคปัจจุบัน ซึ่งนี่ก็ยังไม่ต้องนับ “กีตาร์ฮีโร่” หญิงปัจจุบันจำนวนมากที่เปิดที่ทางในโลกกีตาร์ให้ผู้หญิง และแน่นอนมือกีตาร์สาวๆ พวกนี้เอ่ยชื่อมาคนที่คุ้นกับวัฒนธรรมกีตาร์ในยุค “ไอ้หนุ่มผมยาว” ก็คงไม่คุ้นและไม่เคยได้ยินชื่อ

Phoebe Bridgers นักร้องสาวอเมริกันฟาดกีตาร์ในงาน “ซุปเปอร์โบวล์” ปี 2021 | Guitarworld
และนี่ก็มีตัวเลขยืนยันจริงๆ และ Fender ก็ดูจะยืนยันว่าตอนนี้กลุ่มลูกค้าแทบจะครึ่งนึงของบริษัทเป็นผู้หญิงไปแล้ว ซึ่งนี่ต่างจากโลกกีตาร์แบบ “ชายเป็นใหญ่” ในอดีตระดับจินตนาการไม่ออกเลย
ทั้งหมดที่เล่ามา ก็อยากจะให้สบายใจได้ โลกนี้คงจะมีคนเล่นกีตาร์อีกยาวนานและเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วย แม้ว่าเราจะต้องโบกมือลา “โลกเก่า” ของกีตาร์ ที่เต็มไปด้วยไอ้หนุ่มผมยาว วัฒนธรรมดนตรีร็อกที่เหยียดผู้หญิงในมาตรฐานปัจจุบัน และโอบรับ “โลกใหม่” ของกีตาร์ที่สองเพศมีบทบาทเท่าเทียมกันมากขึ้น
อ้างอิง:
- Guitar World. Fender has sold more guitars in 2020 than any other year in its history. http://bit.ly/2OFDfou
- Guitar World. How peak demand and Covid-19 caused an electric guitar shortage. http://bit.ly/3lpzOhz