เรื่องเล่าหลังกล้อง กว่าจะได้ 7 คู่รักหลากสี ในภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย
นับตั้งแต่วินาทีที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ ปฏิเสธไม่ได้ว่านับจากนี้คือช่วงเวลาแห่งการผลิบานของความรักหลากสีสันอย่างแท้จริง และไม่ใช่แค่เพศไหนกับเพศไหน แต่เป็นใครกับใครรักกันมากกว่า
เนื่องในวาระการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ BrandThink ถือโอกาสเล่าเรื่องราวหลังกล้องจากคำบอกเล่าของทีมงานเบื้องหลังทั้ง ‘ผู้กำกับและทีมแคสติง’ กันว่า พวกเขาพบเจอกับ 7 คู่รักนี้ได้อย่างไร และมีแง่มุมไหนที่ทำให้ตัดสินใจเลือกมาบอกเล่ากันในภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
โดยหลังจากได้รับโจทย์ การทำงานของฝ่ายแคสติงก็เริ่มขึ้น หนึ่งในทีมแคสติงเล่าให้ฟังว่า
“เราใช้คอนเนกชันแทบจะทุกทางเลย มีทั้งติดต่อจากโมเดลลิง แล้วก็มีโพสต์เอง ส่วนตัวตามพวกกลุ่มแคสติงที่จะคอยแชร์กันว่ามีใครแนะนำไหม แต่ปกติที่จะหาได้ดีที่สุดก็คือถามจากคนใกล้ตัว เพราะพื้นฐานแคสติงจะต้องซอกแซกเรื่องการหาคนอยู่แล้วด้วย เช่นมีเพื่อนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคอมมูนิตี LGBTQAI+ ก็ลองถามจากเพื่อนดู ว่าเราอยากได้คู่ประมาณนี้นะ เพื่อนก็ช่วยไปประกาศต่ออีกทีว่ามีใครสนใจไหม”
เมื่อได้ตัวเลือกคู่ที่น่าสนใจประมาณหนึ่งแล้ว ทีมงานจึงติดต่อไปเพื่อสอบถามเรื่องราวเพิ่มเติมจนได้คู่ที่เข้ารอบประมาณ 20 คู่ มีทั้งคู่รักระยะไกลที่คนหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งมาเจอคนรักที่ทำงานการบิน เปรียบเสมือนของขวัญจากฟ้าเลยทำให้ชอบสีฟ้า หรืออีกคู่ที่ฝ่ายหนึ่งเกิดมาพร้อมกับปัญหาการได้ยิน แต่ได้ตัดสินใจเป็นอาสาสมัครแล้วพบกับคนรักที่พร้อมตะโกนคุยกันเพื่อให้เธอได้ยิน เป็นต้น หลังจากนั้นทีมงานจึงนัดสัมภาษณ์หน้ากล้องอีกครั้งเพื่อเลือก 7 คู่สุดท้าย
ด้านผู้กำกับฯ จึงเล่าต่อว่า ทุกคู่ล้วนมีความน่าสนใจทั้งหมด แต่เพื่อความกลมกล่อมของภาพรวม จึงพยายามเน้นหลากหลาย ทั้งทางกายภาพ เพศ และเรื่องราว จนกลายมาเป็น 7 คู่ ที่ได้รับชมในภาพยนตร์สารคดีสั้น
โดยเริ่มที่เรื่องของ ‘ปู่กัญจน์-ย่าตุ๊ก’ แม้ในกลุ่มหลากหลายทางเพศอาจรู้จักทั้งคู่มาบ้าง ผ่านการเป็นกระบอกเสียงรณรงค์เรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่เพราะจุดที่ทั้งคู่เคยอยู่ในสถานะภรรยามาก่อน ก่อนที่จะมาเจอกันในช่วงบั้นปลายชีวิต จึงทำให้เห็นถึงความลึกซึ้ง มั่นคงแต่สามัญ ผ่านคู่รักหญิง-หญิงรุ่นเก๋าคู่นี้
หรือจะเป็นคู่ของ ‘Jessica Hush-Lucy Bull’ ที่เราอาจนึกไม่ถึงว่าในสังคมการแต่งแดร็ก คนที่ชอบแต่งแดร็กกันทั้งคู่ก็ชอบกันในฐานะคู่รักได้นะ หรือคู่ของ ‘คุณลี-คุณจีน่า’ ที่นับเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ก้าวข้ามไปไกลกว่าความรักทางเพศ แต่คือบทบาทการเป็นแม่ของหญิงข้ามเพศที่ผ่านความพยายามทางวิทยาศาสตร์จนในที่สุดก็สามารถมีน้ำนมให้ลูกได้ เป็นต้น
แล้วเมื่อทั้ง 14 คน 7 คู่ มาอยู่ร่วมฉากเดียวกัน จึงเกิดเป็นไวบ์และความรู้สึกกลมกล่อมจากความแตกต่างนั้นขึ้น ทั้งคู่ที่หนักหน่วง ต่อสู้ ฝ่าฟัน หรือแม้แต่คู่ที่เรียบง่าย ไม่ได้มีความขัดแย้งที่หวือหวานักนั้น ยังตอกย้ำให้เห็นว่าความรักมีสีสันที่สวยงามเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสีสดใสจัดจ้าน สีเข้มหนักแน่น หรือสีกลางๆ ที่เบาสบายแต่ก็อบอุ่นหัวใจไม่แพ้กัน
ทีมแคสติงกล่าวเสริมว่า “พอฟังเรื่องราวของแต่ละคู่ มันทำให้เรารู้สึกยังมีศรัทธาในความรัก ไม่ว่าจะเป็นคู่ที่แต่งงานกันแล้ว คู่ที่ยังเป็นแฟน หรือเพิ่งคุยๆ กันอยู่ สุดท้ายแล้วความรักนั้นสวยงามจริงๆ”
แต่นอกจากมิติทางความรู้สึกแล้ว ผู้กำกับยังกล่าวถึงอีกหนึ่งความตั้งใจว่า “สิ่งที่เราอยากให้คนดูไปไกลกว่าประเด็นสังคมในเรื่องของความหลากหลายหรือความรัก หรือเชื่อว่าต่อให้หลากหลายแต่รักกันได้ มันคือบริบทสังคมโดยรอบ ของผู้คนเหล่านี้ ที่อยากให้เป็นใจความสำคัญ (key message) ที่สองที่ส่งถึงคนดู”
เช่นเดียวกับที่ ‘สมรสเท่าเทียม’ ผ่านการพิจารณา ไม่ใช่แค่พลังของกลุ่มความหลากหลายทางเพศเท่านั้น แต่รวมถึงพลังของคนรอบข้างทุกคนในสังคมที่ไม่ยอมแพ้ด้วยกัน จึงทำให้ในที่สุดพวกเขามีวันที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ชมเรื่องราวที่แสนสวยงามของทั้ง 7 คู่ได้ที่ YouTube: YUEDPAO
‘ปู่กัญจน์-ย่าตุ๊ก’
“สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเรา คือทั้งคู่เคยอยู่ในสถานะภรรยา แล้วโดนคำว่า ‘คู่ชีวิต’ ทำร้ายมา ซึ่งน้อยคนนักที่จะเปิดใจรักใครได้อีก พอมาเจอและตัดสินใจอยู่ด้วยกัน ด้วยความเข้าใจชีวิตจากประสบการณ์ทั้งดีและร้าย ความรักของทั้งคู่เลยกลายเป็นความมั่นคง อีกอย่างน้อยครั้งมากที่เราจะได้เห็นคู่เลสเบี้ยนรุ่นเก๋าลุกขึ้นมาขับเคลื่อนความหลากหลายในทุกโอกาส เลยทำให้เรามีความรู้สึกว่าเขานำประสบการณ์ที่เจอมาสร้างรากฐานที่มั่นคงแข็งแรง และเป็นตัวอย่างได้ดีให้กับคู่รักคู่อื่น” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘Jessica Hush-Lucy Bull’
“ใครจะคิดว่าแดร็กกับแดร็กจะรักกัน เพราะปกติเรามักคิดว่าเกย์ควีนต้องชอบเกย์คิงหรือคนที่ไม่แสดงออกเท่านั้น แต่คู่นี้ทำให้เราเห็นมิติที่มากกว่าคำนิยามเดิมๆ เพราะการได้เห็นตัวตนที่แท้จริงจากการเข้าคอมมูนิตีแดร็กยิ่งทำให้ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์กันมากขึ้น
“มันกลายเป็นเรื่องของมนุษย์ที่ปรารถนาให้คนรักพัฒนาในแบบที่อยากเป็น อย่างที่เจสสิก้าสนับสนุนลูซี่ ดังนั้น ที่เราเลือกคู่นี้เพราะเป็นคู่ที่สะท้อนมิติด้านความรักในความเป็นมนุษย์ ที่มากกว่ามิติเรื่องเพศและรูปลักษณ์ ” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘คุณลี-คุณจีน่า’
“ความพิเศษของคู่นี้ นอกจากความแตกต่างที่เหมือนหยิน-หยางของทั้งคู่แล้ว คุณจีน่ายังต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์’ ไม่ต่างจากครอบครัวอื่น ด้วยการพยายามให้นมลูกจนสำเร็จ ตรงนี้เองคือสิ่งที่ทำให้เราเห็นถึงพลังแห่งความรักของผู้หญิงข้ามเพศผู้อยากทำให้คำว่าครอบครัวสมบูรณ์เป็นจริงขึ้นมา” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘คุณเควิน-คุณเมเปิ้ล’
“อุปสรรคของคู่นี้คือ สังคมรอบตัวที่ยังไม่ยอมรับการเป็นผู้ชายข้ามเพศ และด้านคุณเมเปิ้ลเองก็มีลูกหนึ่งคน ชายข้ามเพศจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้จริงหรือ? เลยเป็นคำถามที่คุณเควินเจอจากทั้งสังคมรอบข้าง เพื่อน คนสนิท ไปจนถึงคนในครอบครัวของคุณเมเปิ้ล ซึ่งสิ่งที่ทำให้ทลายกำแพงเหล่านั้นจนครอบครัวคุณเมเปิ้ลยอมฝากชีวิตลูกสาวไว้ได้
“คือ คำว่า ‘ความพยายามที่เสมอต้นเสมอปลาย’ เราเลยเห็นความแข็งแกร่งที่ผสมผสานความมานะ จนกลายเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความรัก เหมือนที่ทั้งคู่เลือกนิยามความรักของพวกเขาเป็นดอกทานตะวัน ที่หันหน้าสู้แสง และมองแต่ดวงอาทิตย์ไปตลอดชีวิตของดอกทานตะวัน” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘คุณอั๋น-คุณปาย’
“ถ้าได้ดูจะเห็นว่านิยามความรักของคู่นี้คือ เวลากับความเปลี่ยนแปลง มันยากนะที่เราจะเจอคู่ที่รักกันด้วยหัวใจโดยไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งคุณอั๋นทำให้เรานึกถึงการรวมกันของสเปกตรัมสีรุ้งทั้ง 7 สี กลับไปเป็นสีขาว ที่มนุษย์คนหนึ่งรักมนุษย์อีกคนหนึ่งจริงๆ
“โดยที่ไม่ได้ต้องจำแนกออกมาว่าคุณเป็นสีอะไร ไม่ว่าคุณปายจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูที่เป็นผู้หญิง หรือสีเหลืองในช่วงที่บวช หรือกลับมาเป็นลุคผู้ชายแบบ masculine แต่คุณอั๋นก็ยังรักในทุกเวอร์ชันที่คุณปายเป็น มันคือความยืดหยุ่นให้กับภายนอก แต่ไม่เคยย้วยจากภายในเลย” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘คุณภัทร-คุณโอ’
“คู่นี้เป็นตัวแทนของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบตามความเชื่อเดิม ซึ่งจุดทดสอบความรักคืออุปสรรคเข้ามาในชีวิต ทั้งอุบัติเหตุและการสูญเสีย ทำให้พวกเขาต้องค่อยๆ ประคองไปด้วยกัน แต่แม้ภายนอกจะพบความสูญเสีย แต่เพราะความรักจากภายในที่เข้ามาเป็นแขนขาให้ครอบครัวนี้สมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม” – ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
‘คุณเบิร์ด-คุณน้ำมนต์’
“แม้จะเป็นคู่รักชายหญิงที่ทุกคนคิดว่าพบได้ทั่วไป แต่ความพิเศษของคู่นี้คือ การปรับตัวเข้าหากัน เพื่อเบลนด์สีสันจัดจ้านกับขาวเทาดำให้เข้ากันได้ เราเลยมองว่า บางครั้งความรักมันก็แค่ back to basic คือปรับเปลี่ยนเพื่อเป็นจิ๊กซอว์ที่ลงล็อกให้เป็นความเรียบง่ายที่ทรงพลัง เพื่อเคียงข้างกันไปในทุกช่วงเวลา
“ซึ่งคีย์เวิร์ดที่ทั้งคู่ต่างยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง คือต่างคนต่างอยากให้อีกคนพัฒนาในเวอร์ชันที่ดีขึ้น คุณเบิร์ดอยากให้คุณน้ำมนต์ดูนิ่งและโตขึ้น ส่วนคุณน้ำมนต์ก็อยากให้คุณเบิร์ดออกจากเซฟโซนมากขึ้น แล้วก็ยังมีการเติมเต็มและช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะในยามที่อีกฝ่ายสูญเสียก็ยังอยู่เคียงข้างกัน ตรงนี้เองที่กลายเป็นฟันเฟืองที่แข็งแรง ทำให้จิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ กลายเป็นภาพของความรักที่เราได้เห็นกัน”
- ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’
รับชมภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’ ได้ที่