2 Min

ระหว่าง ‘Bare Minimum’ กับ ‘Princess Treatment’ คู่รักควรดูแลกันแบบไหน?

2 Min
61 Views
17 Sep 2025

เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า จริงๆ แล้วเราควรได้รับการดูแลแบบไหนในความสัมพันธ์ 

แบบทั่วไปขั้นพื้นฐานที่ควรเป็น หรือก็ควรจะได้รับดุจเจ้าหญิงไปเลยกันนะ? 

MOODY เชื่อว่าหลายครั้งสิ่งที่คู่เดตหรือคนรักปฏิบัติกับเรานั้น ทำให้เกิดความสับสนอยู่ไม่น้อย ระหว่างสิ่งที่ควรเป็นเรื่อง ‘ปกติ’ กับสิ่งที่ถูกมองว่าเป็น ‘พิเศษ’ แบบไหนกันแน่ที่เราควรจะได้รับ 

มาริสา ที. โคเฮน (Marisa T. Cohen) นักจิตวิทยาความสัมพันธ์อธิบายว่า ‘การดูแลขั้นพื้นฐาน’ (Bare Minimum) คือความพยายามน้อยที่สุดหรือขั้นต่ำสุดที่ใครบางคนเต็มใจทำเพื่อความสัมพันธ์ ซึ่งหมายถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เช่น การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา การใส่ใจด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด การเคารพเวลาและพื้นที่ส่วนตัว หรือการยอมรับคู่รักในแบบที่เขาเป็น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง การดูแลขั้นพื้นฐานนี้เองที่ทำให้ความสัมพันธ์ยังคงยืนอยู่ได้ 

แต่หากมันน้อยเกินไป เช่น การหลีกเลี่ยงปัญหา การไม่พร้อมทางอารมณ์ หรือความตั้งใจที่หายไป มันอาจค่อยๆ บอกโดยนัยว่า เราไม่คุ้มค่ากับเวลาและความใส่ใจของเขา และทำให้เราลดความต้องการของตัวเองลงเพื่อไม่ให้ผิดหวัง

ทีนี้มาดูกันที่ ‘การดูแลดุจเจ้าหญิง’ (Princess Treatment) หลายคนอาจตีความว่าการดูแลรูปแบบนี้คือการตามใจเกินพอดี ทั้งดินเนอร์หรู ของขวัญราคาแพง หรือทริปพักผ่อนต่างประเทศ แต่นักจิตวิทยาอธิบายว่า หัวใจจริงๆ ของมันคือ ‘การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกหวงแหนและมีค่า’ ซึ่งอาจเป็นการใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำขนมโปรดให้เมื่อเขาหรือเธอกำลังยุ่งเรื่องงาน ช่วยจัดการงานบ้านในตอนที่เขาไม่มีเวลา ทำให้ช่วงเวลาธรรมดากลายเป็นความทรงจำ หรือแม้แต่การฟังอย่างตั้งใจเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงความฝันที่ดูเล็กน้อย สำหรับบางคน นี่คือสิ่งที่เกินความคาดหวังเล็ก ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า เราสำคัญพอที่เขาจะให้เวลารวมถึงการแสดงออกถึงความพิเศษต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้ นูชา นูฮี (Nusha Nouhi) นักจิตวิทยาคลินิก ยังเสริมว่า เนื่องจากหลายคนเติบโตมากับความเชื่อที่ว่า ‘การมีความต้องการทำให้เราเป็นภาระ’ เราจึงไม่กล้าพูดออกมาอย่างชัดเจน หรือพูดด้วยความรู้สึกผิด ทั้งที่ความจริงแล้ว การมีความต้องการในเรื่องใดๆ ก็ตามไม่ได้ทำให้คุณเป็นคนเรื่องมาก แต่มันทำให้คุณเป็นมนุษย์ และความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่การซุกซ่อนความต้องการเอาไว้ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายกล้าพูดและกล้ายอมรับกันและกันอย่างสบายใจ

มาดูตัวอย่าง เรื่องเล่าของผู้คนที่มีประสบการณ์ตรงจากเรื่องนี้กัน เคสแรกคือเรื่องของรีเบกกา อายุ 44 ปี เคยใช้ชีวิตคู่ด้วยการได้รับเพียงการดูแลขั้นพื้นฐาน จนเธอเชื่อว่าตัวเองไม่สมควรได้รับความรักที่มากกว่านั้น เธอทนอยู่ในความสัมพันธ์นั้นจนหมดแรง และสุดท้ายความไม่สมดุลจึงพาไปสู่การหย่าร้าง 

ส่วนคาดีร์ อายุ 29 ปี เล่าว่า เขามักเจอคู่รักที่คาดหวังการดูแลดุจเจ้าหญิงแบบเกินจริง จนเขาหมดไฟจะตามให้ทัน และในที่สุดเขาก็เรียนรู้ว่าต้องกล้าที่จะตั้งขอบเขตและพูดในสิ่งที่ต้องการอย่างจริงใจ

ดังนั้น เมื่อมองลึกลงไป คำถามจริงๆ อาจไม่ใช่ว่าเราควรได้รับการดูแลขั้นพื้นฐานหรือการดูแลดุจเจ้าหญิง แต่คือการที่เราได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกว่า ตัวเองไม่ต้องลดทอนคุณค่าความต้องการของตัวเองลงเพื่อจะถูกรัก 

เพราะความรักที่ดีไม่จำเป็นต้องเวอร์วังอลังการ ขณะเดียวกันไม่ควรเล็กน้อยจนเราไม่เห็นค่าของตัวเอง แต่มันคือการเจอกันตรงกลางอย่างเข้าใจต่างหาก

MOODY เชื่อว่าบางทีความรักอาจไม่ได้ถูกกำหนดด้วยหมวดหมู่ใดเลย แต่คือการที่เรากล้าถามตัวเอง และกล้าบอกกับอีกฝ่ายว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ” และเขาก็ตั้งใจจะฟังด้วยหัวใจจริงๆ

แล้วทุกคนล่ะ คิดว่าตัวเองกำลังได้รับการดูแลขั้นพื้นฐาน หรือการดูแลดุจเจ้าหญิง มากกว่ากัน หรือได้รับทั้งสองอย่างแบบตรงใจกันทั้งคู่

อ้างอิง: