4 Min

ไม่แพ้ใครแน่นอน! B Autohaus ผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมียมนำเข้า ยกระดับธุรกิจตอบโจทย์ 360 องศา-ชูจุดแข็ง ‘พร้อมส่งมอบ’

4 Min
735 Views
04 Nov 2022

แม้ธุรกิจหลายด้านจะซบเซาจากกระแสเศรษฐกิจที่เจอช็อตฟีลจากโควิด-19 และสงครามรัสเซียยูเครน จนผันผวนกันไปทั้งในประเทศและระดับโลก แต่สำหรับ ‘B Autohaus – บี ออโต้ฮาวส์ผู้นำธุรกิจรถยนต์พรีเมียมนำเข้าของไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ rebranding เมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งยังจะเดินหน้าเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ตามสโลแกน ‘360 องศาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น 

ในช่วงที่เจอกับโควิดหลายระลอก B Autohaus ไม่มีการเลย์ออฟพนักงานแม้แต่รายเดียว และมีการเพิ่มบุคลากรเสริมทีมอีก 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังเป็นผู้นำตลาดที่มียอดขาย มากที่สุดในปี 2022 อีกด้วย ซึ่ง อัครวัชร คงสิริกาญจน์และ สุธิสา คงสิริกาญจน์สองผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อน B Autohaus สะท้อนว่า ผลงานโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะจุดแข็งหลายด้าน 

ประเด็นสำคัญไม่ได้มีแค่การต่อยอดธุรกิจจากการเป็นตัวแทนเมอร์เซเดส เบนซ์ ในนามของ Benz Auto Service ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องศูนย์บริการนำเข้าและซ่อมบำรุงมานานเกือบ 30 ปี แต่รวมถึงการประเมินนโยบายให้เข้ากับสถานการณ์โลก โดยมีการสต็อกรถยนต์เอาไว้แทนที่จะยกเลิกออเดอร์เหมือนที่อื่นๆ 

ทั้งหมดนี้ทำให้ตลอดปีที่ผ่านมา B Autohaus มีรถพร้อมส่งมอบให้กลุ่มลูกค้าได้มากที่สุดในไทย ทั้งยังสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ทั้งเป็นตัวแทนนำเข้า ศูนย์ซ่อมบำรุง แต่งรถ ทำสี ทำประกัน และรับเทรดรถมือสอง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมหรือว่าลูกค้าใหม่ นำไปสู่ความเชื่อมั่นและ Brand Loyalty ที่เหนียวแน่น และได้รับการยืนยันแบบปากต่อปากในกลุ่มคนรักรถพรีเมียม

บริษัทเราเป็นบริษัทรถยนต์ที่ทำธุรกิจครบวงจร คือ 360 องศา ไม่ใช่แค่ขายอย่างเดียว แต่ทั้งขาย ซ่อม ทำสี แต่งรถ สปารถ ซื้อกลับ แล้วก็รีเซลขายใหม่ เพราะฉะนั้นมันครบทุกวงจร ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าซื้อแล้วเราไม่ได้หายไปไหน เราเซอร์วิสเขาได้ ผมว่าอันนี้คือความมั่นใจของรถในตลาด luxury เพราะก็ต้องพูดตรงๆ ว่าในตลาดมีหลายคนมากที่ขายอย่างเดียว แล้วก็หายไปเลย หรือขายแล้วซ่อมไม่ได้

อัครวัชร คงสิริกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พูดถึงความพร้อมให้บริการทุกรูปแบบของ B Autohaus รวมไปถึงนโยบายที่ชัดเจน คือ ไม่รับพรีออเดอร์แต่เน้นที่การสต็อกผลิตภัณฑ์หลากหลายแบรนด์และมีหลายช่วงราคา ซึ่งทั้งหมดนี้ พร้อมส่งมอบเมื่อลูกค้าต้องการ ถือเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างสวนกระแสในช่วงที่ผ่านมา แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ B Autohaus แข็งแกร่งอย่างมาก

นโยบายของเราไม่ได้รับพรีออเดอร์ ซึ่งนโยบายนี้ตอนที่เพิ่งเริ่มมีโควิดใหม่ๆ หลายคนในเมืองไทยหรือในระดับโลกเขามองว่ามันจะขายไม่ได้ เพราะการผลิตได้รับผลกระทบ แต่เรากลับมองว่ารถยิ่งผลิตไม่ได้ ยิ่งต้องหายากขึ้น เพราะฉะนั้นคนทั้งโลกแคนเซิลรถกันหมด แคนเซิลออเดอร์ที่สั่งไปกันหมด นอกจากเราจะไม่แคนเซิลแล้ว เรายังไปเลือกซื้อรถที่เขาออเดอร์แล้วโดนแคนเซิลด้วยซ้ำ มันกลายเป็นคลิกเลยว่าเราเป็นคนเดียวที่มีรถมากที่สุด

ขณะเดียวกัน สุธิสา คงสิริกาญจน์ ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ พูดถึงการเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2023 โดยจะมีการจัดเทรนนิ่งและเดินหน้าคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อตอบสนองความสนใจและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าแต่ละเซกเมนต์ และย้ำจุดแข็งเรื่องการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ B Autohaus แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ในธุรกิจเดียวกัน

จุดแข็งของเราน่าจะเป็นเรื่องการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว จริงๆ ตอนเจอโควิด เรื่องสต็อก เรื่องสั่งรถ เราก็มีคุยกันภายใน forecast ว่าตลาดจะเป็นยังไงในการ react เรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายรถ ซึ่งจริงๆ เรามองว่ามันน่าจะไปต่อได้ ก็เลยเดินหน้าสต็อก สั่งออเดอร์ ทำให้ทุกวันนี้เรายังมีอยู่ แล้วก็มีการ stock planning ที่ทำล่วงหน้ามาแล้ว ก็เลยต่อเนื่องมาถึงปีนี้

มีคนถามบ่อยมากว่าเราต่างกันยังไงกับรถนำเข้าเจ้าอื่นๆ หรือศูนย์อื่นๆ จริงๆ ก็ต้องบอกว่าต่างตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว นี่ไม่ได้โฆษณาเกินไปนะคะ ตั้งแต่เดินเข้ามา เจอสถานที่ เจอพนักงาน เซอร์วิสต่างๆ ที่เรามี จะมากางให้ดูเลยว่าคุณอยากจะทำอะไร คุณอยากซื้อรถอะไร มีหมด พนักงานเราเทรนหนักมากในเรื่องของโปรดักส์ ด้วยความที่เราไม่ได้ถือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เราต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ รุ่นนั้นๆ มันค่อนข้างเยอะมากและหนักมาก เราก็จะมีแผนกโดยเฉพาะเลยที่เป็นแผนกต่างประเทศที่เอาไว้ศึกษาเรื่องโปรดักส์ เรื่องเทรนนิ่งโดยเฉพาะ

เราชูเรื่อง product training มากๆ และปีหน้าเราก็จะจับมือกับพาร์ตเนอร์อีกที่หนึ่งที่จะชูเรื่องการเทรนนิ่งเกี่ยวกับรถ เพราะมันเป็น pain point อย่างหนึ่งนะคะ เวลาที่ลูกค้าไปซื้อรถแต่คนขายไม่รู้จักสิ่งที่ขาย เพราะบางที่ถ้าไปดูมีขายอยู่สิบแบรนด์ แต่อาจจะไม่รู้จักทุกแบรนด์ทุกโมเดลก็ได้

แนวโน้มที่ชัดเจนอีกประการในปีหน้าคือ จะมีการขยายสาขาเพิ่มเติม จากที่แรก Flagship Store บนถนนวิภาวดีรังสิต และสาขา 2 ตรงข้ามสวนลุมพินีบนถนนพระราม 4 ไปสู่สาขาที่ 3 ในบริเวณพระราม 3 ซึ่งจะเป็นแหล่งสต็อกรถยนต์หรูแบรนด์ต่างๆ ได้ประมาณ 100 คัน แต่จะใกล้ขึ้นและเดินทางสะดวกกว่าการไปยัง แหลมฉบังที่เป็นทำเลเดิม 

นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2022 ยังมีกิจกรรมที่น่าจับตา เพราะ B Autohaus นำรถหายาก Ultra Rare รุ่น Collective แบรนด์ดังระดับโลก 14 คัน รวมมูลค่ากว่า 235 ล้านบาท มาจัดแสดงและเปิดให้ผู้ที่สนใจซื้อหาจับจองอีกด้วย โดยสถานที่จัดกิจกรรมคือ The Emquartier ชั้น G (Quartier Avenue ลานน้ำตก

ภายในงาน พลพรรคคนรักรถหรูจะได้พบกับยนตรกรรมพรีเมียมซึ่งถูกจัดแสดงใน 3 โซน คือ Ultra Rare Zone, Ultra Customization Zone และ Ultra SUV Zone โดยมี Porsche ครบทุกรุ่น รวมถึง Bentley, Mercedes-AMG G63, The Chevrolet Corvette (C8), Toyota Land Cruiser, Toyota Alphard และชุดแต่งระดับโลก TECHART GERMANY และ ROWEN ทั้งยังมีสิทธิพิเศษในแคมเปญ EXCLUSIVE สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานนี้ด้วย ได้แก่

ต่อที่ 1: 

  • ฟรี Warranty 2 ปี 
  • ฟรี ประกันภัย*

ต่อที่ 2:

  • ฟรีชุดแต่ง Techart สำหรับรถ Porsche
  • ฟรีชุดแต่ง Rowen สำหรับรถ Alphard

ต่อที่ 3: 

  • ที่พักฟรี จาก Soneva – Soneva Kiri Koh Kood และ Exclusive Membership Package จาก Clinique La Prairie Aesthetics & Medical มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท
  • ดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับ Service Maintenance ฟรี 1 ครั้ง จาก AlphaX