ผู้ประท้วงเมียนมาเผาธงอาเซียน หลังหมดศรัทธาหลังที่ไม่ช่วยต่อต้านความรุนแรง และมีท่าทีรับรองรัฐบาลเผด็จการ
ธงสีน้ำเงินตัวแทนการรวมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนถูกไฟจากผู้ประท้วงเผาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในเมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้ออกว่าผู้ประท้วงหมดศรัทธาต่อท่าทีที่ประชาคมอาเซียนมีต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
หลังจากที่มีการรัฐประหารโดยพล.อ. มิน อ่อง หล่าย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ความรุนแรงในเมียนมายังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์ความรุนแรงในเมียนมายังคงต่อเนื่องรุนแรงมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยเหตุการณ์การเผาธงเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน หลังจากเลขาธิการอาเซียน Lim Jock Hoi และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจากบรูไนเข้าพบผู้นำเผด็จการทหารในวันก่อนหน้า
โดยการประชุมกับตัวแทนอาเซียนเกี่ยวกับประเด็นด้านมนุษยธรรม ประเด็นเรื่องการชะลอการเลือกตั้งจนกว่าประเทศจะมีเสถียรภาพ และเรื่องไวรัสโควิด-19 โดยยังไม่มีการรายงานรายละเอียดการประชุมครั้งนี้ต่อสาธารณชน แต่ผู้ประท้วงมองว่านี่เป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าประชาคมอาเซียนเมินเฉยต่อความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน และอาจเป็นการแสดงถึงยอมรับการเป็นรัฐบาลของ มิน อ่อง หล่าย ซึ่งรัฐประหารขึ้นมาแล้ว จึงเกิดความไม่พอใจต่อประชาคมอาเซียน
ในวันเดียวกันสื่อท้องถิ่นในเมียนมารายงานว่ามีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน หลังเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งขอเข้าค้นอาวุธซึ่งมีหน้าไม้และหนังสติ๊ก แต่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี สื่อ Delta News รายงานว่าการปะทะครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย ในขณะที่สื่อของรัฐรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย
ซึ่งหากยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 20 รายในวันเดียวจะเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา และนับว่ารุนแรงที่สุดในเขตพื้นที่อิรวดีซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวพม่าและกะเหรี่ยง โดยหากนับตั้งแต่มีการรัฐประหารมีประชาชนเสียชีวิตอย่างเป็นทางการแล้ว 845 ราย ในขณะที่ท่าทีของประชาคมอาเซียนก็ทำให้ผู้ประท้วงสิ้นหวังว่าจะมีการยื่นมือเข้ามาช่วยยุติความรุนแรงในประเทศเมียนมาได้
อ้างอิง:
- Ucanews. ASEAN flag burns as Myanmar people lose faith in bloc. https://bit.ly/3z0J5D8
- MGR online. ทหารพม่าปะทะกองกำลังประชาชนในเขตอิรวดี สื่อท้องถิ่นอ้างดับอย่างน้อย 20 ราย> https://bit.ly/3583R6l
+0