2 Min

อยู่ดีๆ ก็วิตกกังวลแบบไร้สาเหตุ จนไม่มีสมาธิ หงุดหงิดง่าย เหมือนเครียดตลอดเวลา

2 Min
1436 Views
12 Jul 2022

เคยเป็นกันไหม? อยู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือ มักจะคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆ ไปในเรื่องร้ายก่อนเสมอแล้วดันกังวลกับเรื่องนั้นขึ้นมาเอง พฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความสัมพันธ์ หรือในการทำงาน

พฤติกรรมเหล่านี้ที่เกิดขึ้นอาจเป็นที่มาของการวิตกกังวลอย่างไร้สาเหตุ หรือ ‘Free-Floating Anxiety’ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น

สารเคมีในสมองที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล 

ประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตส่งผลมาถึงในปัจจุบัน

พันธุกรรมจากครอบครัวที่มีแนวโน้มส่งต่อความกังวลทางสายเลือด

ไม่ว่าความกังวลนี้จะเกิดขึ้นจากปัจจัยใดก็ตาม เรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจความกังวลประเภทนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่า

Free-Floating Anxiety คือ การวิตกกังวลที่เราไม่สามารถหาที่ไปที่มาของมันได้ หรือเรียกได้ว่ามันเกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล ซึ่งมันจะทำให้เราไม่มีสมาธิ หงุดหงิดง่าย หรือส่งผลให้เราเป็นคนที่กังวลกับการใช้ชีวิตตลอดเวลา นั่นอาจจะนำไปสู่ความเครียดในอนาคตได้ ถ้าเราไม่จัดการกับความกังวลเหล่านั้นก่อนจะสายเกินไป

ความกังวลที่เกิดขึ้นนอกจากจะทำให้เราใช้ชีวิตประจำวันอย่างไม่มีความสุขแล้ว มันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ เพราะมันจะสร้างความเหนื่อยล้าให้เราเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้เรานอนหลับยากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต จนอาจส่งผลถึงเรื่องความสัมพันธ์และในการทำงานได้อีกด้วย

ถ้าอย่างนั้นเรามาดูวิธีการรับมือกับความกังวลที่เกิดขึ้น เพื่อให้เราได้มีความสุขในการใช้ชีวิตยิ่งกว่าเดิม

  1. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
    บางทีเราควรหลีกหนีจากสิ่งต่างๆ ที่สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เราเกิดความกังวลได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม การเอตัวเองออกห่างอาจช่วยลดความวิตกกังวลได้
  2. ปริมาณที่พอเหมาะ
    บางครั้งเมื่อเรารู้สึกกังวลและเกิดความเครียด เราอาจจะใช้แอลกอฮอล์หรือบุหรี่เป็นตัวช่วยเราในการหลุดพ้น แต่นั่นอาจช่วยแค่ในระยะสั้น เพราะสารต่างๆ เช่น นิโคตินหรือคาเฟอีนอาจทำให้รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นถ้ารับมันเกินความพอดี
  3. หากิจกรรมที่สนใจ
    การหากิจกรรมใหม่ๆ ทำหรือลองทำในสิ่งที่เรามองข้ามมันมาตลอด อาจช่วยลดความคิดในแง่ลบของเราได้ เช่น การออกกำลังกาย การทำอาหาร หรือการเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ชอบ
  4. พูดคุยขอคำปรึกษา
    การที่เราได้ระบายความรู้สึกของเราออกไปให้ผู้อื่นฟัง เป็นตัวช่วยที่ดีในการรับมือกับความวิกตกกังวล เพราะเราไม่ควรปลีกตัวออกจากสังคมและเก็บความรู้สึกไม่ดีไว้คนเดียว บางทีการเล่าออกมาบ้างอาจทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ ที่ช่วยจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

 อย่างไรก็ตามหากเราหากเราไม่สามารถรับมือกับความรู้สึกกังวลเหล่านี้ได้อีกแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งการไปพบจิตแพทย์ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการจัดการกับความรู้สึกนี้ที่เกิดขึ้น 

ท้ายที่สุด การใช้ชีวิตของเราจะมีความสุขไม่ได้เลยถ้าเรายังจมอยู่กับความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราพร้อมที่จะเรียนรู้และเข้าใจตัวตนของเรามากขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณแรกที่เรากำลังจะก้าวข้ามผ่านความรู้สึกและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นก็ได้นะ

อ้างอิง