ไก่ที่ ‘ดี’ เป็นยังไง? เมื่อฟาสต์ฟู๊ดไทยถูกจัดอันดับว่าดูแลชีวิตของไก่ที่จะมาส่งมอบให้กับผู้บริโภคได้ ‘ยอดแย่’
คุณชอบกิน ‘ไก่’ กันไหม?
ไก่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกมนุษย์บริโภคมากเป็นอันดับต้นๆ ในวัฒนธรรมอาหารทั่วโลก ในแต่ละปีมีไก่ราว 65,000 ล้านตัวกลายเป็นอาหารในจาน เพราะมันอร่อย ให้โปรตีนที่ดี และมีราคาถูก คนไทยกินไก่เฉลี่ยคนละประมาณ 15 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งถือเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณเนื้อสัตว์ทั้งหมดที่ถูกบริโภค
แต่คุณจะรู้ได้ยังไงว่าไก่ที่คุณบริโภคไปนั้นมี “คุณภาพ”?
จากรายงานการจัดอันดับฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลกด้านการจัดการสวัสดิภาพไก่ หรือ The pecking order 2021 ที่จัดทำโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์โลก (World Animal Protection) เผยว่า 2 ใน 3 ของจำนวนไก่ที่ถูกบริโภคในแต่ละปีถูกเลี้ยงในระบบอุตสาหกรรมที่ไม่คำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของไก่
พวกมันถูกเลี้ยงอยู่ในพื้นที่แออัดคับแคบ ไม่ได้รับแสงแดดธรรมชาติ และอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการบังคับให้ไก่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขัดกับพฤติกรรมทางธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดความเครียดและอาจนำมาสู่ความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาดได้อีกด้วย ดังนั้นในบางฟาร์ม ยาปฏิชีวนะจำนวนมากจึงได้ถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันโรคแบบรวมกลุ่มในไก่ซึ่งอาจตกค้างไปจนถึงผู้บริโภคได้
ไม่ใช่แค่นั้น ในระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ไก่เนื้อถูกคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ทำให้พวกมันโตเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 3 เท่า มีเนื้อมากขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น ในขณะที่ใช้ต้นทุนการผลิตเท่าเดิม พวกมันมีชีวิตอยู่แค่เพียง 5-6 สัปดาห์เท่านั้นก่อนถูกผลิตเป็นอาหาร
ปัจจัยเร่งการเจริญเติบโตนี้ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของไก่โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ขาพิการ กล้ามเนื้ออ่อนแรง, การทำงานของหัวใจและปอดบกพร่อง ไปจนถึงเป็นแผลพุพองตามร่างกาย
ในรายงานการจัดอันดับยังเผยอีกว่าฟาสต์ฟู๊ดชั้นนำในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น McDonald, KFC, Burger King, Pizza Hut และอื่นๆ ล้วนมีการจัดการสวัสดิภาพไก่อยู่ใน “เกณฑ์แย่–แย่มาก” ต้องเร่งปรับปรุงเป็นการด่วน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลย เพราะแบรนด์ฟาสต์ฟู๊ดกระจายตัวอยู่ทั่วโลก เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่มีการสั่งซื้อเนื้อไก่จำนวนมหาศาล หลังมีรายงานเรื่องสวัสดิภาพของไก่ในฟาร์มตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฟาสต์ฟู๊ดแบรนด์ใหญ่ที่ขายไก่เป็นเมนูหลัก เริ่มมีการขยับตัวและให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างจริงจังมากขึ้น โดยหลายประเทศในยุโรปได้มีการประกาศกับสาธารณะว่าจะเลือกสั่งซื้อเนื้อไก่จากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน ด้านสวัสดิภาพสัตว์สอดคล้องกับ Better Chicken Commitment เพื่อตอบโจทย์การบริโภคและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่วนในประเทศไทยและอีกหลายพื้นที่ยังไม่มีการปรับปรุงในประเด็นนี้ถึงแม้จะเป็นแบรนด์เดียวกันก็ตาม
หลายคนอาจสงสัยว่าสวัสดิภาพไก่ที่ดีควรเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าสุดท้ายปลายทางของพวกมันจะถูกผลิตเป็นอาหาร
ข้อเสนอขององค์กรพิทักษ์สัตว์โลกต่อแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดในการเลือกซื้อเนื้อไก่ คือ เลือกซื้อจากฟาร์มที่ “ให้มันได้มีชีวิตที่สามารถแสดงออกตามธรรมชาติให้ได้มากที่สุด” และสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment ดังนี้
- เลือกสายพันธุ์ที่เติบโตในอัตราที่ช้าลง เพื่อลดปัญหาสุขภาพของไก่ที่เสี่ยงกับอาการขาพิการจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไป และลดการทำงานบกพร่องของหัวใจและปอด
- ลดความแออัด ความหนาแน่นของไก่ควรอยู่ที่ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เพื่อให้ไก่ได้มีพื้นที่มากขึ้นและลดความเครียดได้
- ปรับโรงเรือนให้มีแสงสว่างจากธรรมชาติ รวมทั้งมีช่วงเวลาที่ไม่มีแสงสว่างเพื่อให้ไก่ได้นอนหลับตามธรรมชาติอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เช่น มีคอนให้เกาะ มีวัสดุให้จิกกัด หรือสิ่งของต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมทางธรรมชาติของไก่
แม้ว่าไก่ในฟาร์มปศุสัตว์จะต้องถูกบริโภคในวันหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าพวกมันก็เป็นสัตว์ที่มีชีวิต และไม่ควรถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมและผิดไปจากชีวิตตามธรรมชาติมากจนเกินไป ซึ่งความเปลี่ยนแปลงในสวัสดิภาพของไก่ในฟาร์มอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู๊ดมีส่วนสำคัญมาก นอกจากควรสนับสนุนด้วยการคัดเลือกไก่จากฟาร์มที่มีมาตรฐานแล้ว ควรเปิดเผยข้อมูลในการเลือกซื้อเนื้อไก่ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ เพื่อสร้างจุดยืนให้ทั้งแบรนด์และลูกค้า
เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าเราจะได้บริโภคไก่ที่มีคุณภาพ สวัสดิภาพที่ ‘ดี’ จริงๆ
อ้างอิง:
- World animal protection. The Pecking Order 2020. https://bit.ly/2V3wXCi
- World animal protection.รายงานการจัดอันดับบริษัทฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลกด้านการจัดการสวัสดิภาพไก่ 2021. https://bit.ly/2ViTw5R
- World animal protection.สวัสดิภาพคุณภาพชีวิตไก่. https://bit.ly/3BW3CKt
- Thailand inside new. องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชั้นนำมีมาตรฐานสวัสดิภาพไก่ อยู่ในระดับต่ำ จนน่าตกใจ. https://bit.ly/2VmG9RP