เมื่อความหิวน่ากลัวกว่าจระเข้ คนแองโกลายอมลุยดงจระเข้อพยพออกนอกประเทศ เพราะรู้ว่าอยู่ไปก็มีแต่อดตาย
ความอดอยากหิวโหยอาจสร้างแรงผลักดันให้คนเราตัดสินใจกระทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด
ดังเช่น คนชนบทในประเทศแองโกลา ทวีปแอฟริกาใต้ ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตภัยแล้งรุนแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปีจนไม่สามารถเพาะปลูกผลผลิตใดๆได้อีกในปีนี้
ตามรายงานที่เผยแพร่โดยโครงการอาหารโลกชี้แจงว่าประชาชนในบางจังหวัดกำลังอดอยากปากแห้งไม่ต่างจากที่คนในประเทศมาดากัสการ์ต้องกินกระบองเพชรประทังชีวิตไปเมื่อปีก่อน
แต่ ณ ประเทศแองโกลาเวลานี้ คนชายขอบหลายพันชีวิตต้องเด็ดยอดหญ้ามาปันกันกิน
เมื่อความหิวไม่เคยปรานีใคร คนแองโกลาจึงตัดสินใจอพยพไปประเทศนามิเบีย ซึ่งมีพรมแดนอยู่ติดกัน และเป็นที่ที่พวกเขาเชื่อว่าจะมีโอกาสหางานและอาหารได้มากกว่าการจมจ่อมอยู่กับผืนดินที่แตกระแหงร่วนร้าว
แม้จะมีเรื่องต้องเสี่ยงอันตรายรออยู่เบื้องหน้าก็ตาม…
เรื่องเสี่ยงที่ว่า คือการจะไปยังนามิเบีย ผู้อพยพจะต้องเดินข้ามแม่น้ำกูเนเนที่กั้นขวางพรมแดน ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นถิ่นของ ‘จระเข้แม่น้ำไนล์’ สัตว์นักล่าขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการล่าเหยื่ออย่างชาญฉกาจอาศัยอยู่ตลอดสาย และเป็นปรปักษ์กับผู้คนมาช้านาน
ทุกๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นคนแองโกลาหรือคนนามิเบีย หากทะเล่อทะล่าไม่ระมัดระวัง มิวายต้องกลายเป็นเหยื่อจระเข้อย่างเลี่ยงไม่ได้
อันที่จริงการเดินทางไปยังนามิเบียไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในทำนองอย่างว่า คนทั้งสองฝั่งสามารถไปมาหาสู่ได้ตามระเบียบของกฎหมาย
แต่ปัญหานั้นกลับอยู่ตรงที่ประเทศนามิเบียไม่ค่อยอยากรับผู้อพยพจากแองโกลาเข้าประเทศสักเท่าไหร่เหตุเพราะภัยแล้งที่แองโกลากำลังเผชิญที่นามิเบียเองก็ประสบพบเจอไม่ต่างกัน
ต่อสถานการณ์ที่มีทำให้รัฐบาลนามิเบียกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับผู้อพยพดีหากรับคนแองโกลาเข้ามาย่อมหมายถึงการแบ่งปันทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้กับผู้อพยพตามหลักมนุษยธรรมเช่นพวกหยูกยารักษาโรคที่นามิเบียเองก็ไม่ได้มีมากพอสำหรับปันส่วนให้ใครได้อย่างอารี
สุดท้ายรัฐบาลนามิเบียจึงประกาศเสียงแข็งว่าจะส่งผู้อพยพจากแองโกลากลับประเทศ ทำนองว่านั่นเป็นปัญหาที่คุณต้องแก้ ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบมาให้ฉัน
เมื่อความเป็นเช่นนั้น ชาวแองโกลา (ที่ต่างก็ทราบดี) จึงต้องแอบเข้าประเทศผ่านช่องทางที่ไม่มีการตรวจสอบ โดยพร้อมรับความเสี่ยงว่าจะเจอะนักล่าแห่งแม่น้ำได้ทุกเมื่อ
เพราะหากเดินทางเข้าช่องทางปกติ พวกเขาจะมีชื่ออยู่ในระบบและกลายเป็นคนกลุ่มแรกที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ และอาจต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่มีใครอยากพบเจอเป็นหนที่สองในช่วงชีวิต
ตามรายงานอย่างเป็นทางการยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากการถูกจระเข้ทำร้ายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา – ซึ่งแน่นอนว่าการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายย่อมไม่มีรายงานที่ตรวจสอบได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แต่หากสืบสาวเรื่องราวย้อนหลังจะพบเหตุจระเข้ทำร้ายคนตามจุดต่างๆ ของแม่น้ำกูเนเนปรากฏอยู่ตลอด และในด้านตรงกันข้ามก็พบศพจระเข้ลอยอืดกลางแม่น้ำในจำนวนไม่น้อยไปกว่ากัน
ในระหว่างปี 2019-2020 สื่อของนามิเบียรายงานว่า มีจระเข้ถูกฆ่าจำนวน 20 ตัวขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของนามิเบียให้ข้อมูลว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้อพยพเข้าประเทศ
หากมองในมุมการอนุรักษ์ก็ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิด แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อทั้งแองโกลาและนามิเบียล้วนลำบากยากแค้นไม่ต่างกัน ผลสุดท้ายจึงกลายเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งของคนกับสัตว์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งปัญหา
ปัจจุบันคนแองโกลาที่อพยพไปอยู่นามิเบียส่วนใหญ่จะรวมตัวตั้งแคมป์กันอยู่รอบๆชุมชนชนบทของนามิเบียสร้างที่พักอาศัยด้วยกิ่งไม้กระดาษลังและถุงพลาสติกมีจำนวนไม่น้อยที่อยู่อย่างคนมีฟ้าเป็นมุ้งมีพื้นดินเหมือนดั่งพื้นเรือนดำรงชีพด้วยการหาเช้ากินค่ำเก็บฟืนไปขายในตลาดนำเงินไปซื้ออาหาร
แม้คุณภาพชีวิตจะไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็พอมีโอกาสฆ่าความหิวให้ผ่านพ้นวัน
ในการสัมภาษณ์ผู้อพยพบางส่วนยังคงคิดถึงบ้านเกิด และอยากกลับไปทำมาหากินในถิ่นเดิม แต่มีเงื่อนไขว่าต้องรอให้ฝนกลับมาตกเป็นปกติเสียก่อน
ขณะที่ผู้อพยพบางส่วนคิดว่าอยากกลับไปพาญาติพี่น้องมาอยู่นามิเบีย แต่เมื่อคำนวณความเสี่ยงแล้ว ก็ทำได้แค่คิด
อ้างอิง
- WFP. Drought in south-western Angola drives severe hunger, https://shorturl.asia/CcsmA
- Aljazeera, ‘A journey with no end’ Angola’s climate refugees, https://shorturl.asia/HPGwj
- The Guardian, Hunger forces thousands to cross from Angola into Namibia – in pictures, https://shorturl.asia/H8hPn
- Bloomberg, Namibia Under Pressure From Angolan Migrants Fleeing Drought, https://shorturl.asia/xFcve
- Eagle Fm, 20 Crocodiles Killed between 2019 and 2020 in Kunene river, https://shorturl.asia/ielng