2 Min

‘แองเจลินา โจลี’ เผยอาจย้ายไปอยู่กัมพูชา ด้านคนท้องถิ่นรายหนึ่งเชื่อ อดีตชาติเธอเคยเกิดเป็นคนเขมร!

2 Min
549 Views
12 Dec 2023

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา DailyMail สื่อสัญชาติอังกฤษ ได้รายงานถึงกรณีช็อกวงการฮอลลีวูด หลังนักแสดงระดับโลกวัย 48 ปี ‘แองเจลินา โจลี’ ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal ว่า เธอไม่ได้รู้สึกอยากเป็นนักแสดงอีกต่อไป และมีความคิดอยากย้ายไปอยู่กัมพูชาหลังจากสะสางปัญหาหย่าร้างกับแบรด พิตต์ อดีตสามีเรียบร้อย  

โจลีกล่าวว่า การหย่าร้างนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่ออิสรภาพในการใช้ชีวิตและเดินทางของเธอ แต่ตอนนี้เรื่องดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลง และเธอจะยุติบทบาทในฮอลลีวูดก่อนจะย้ายไปอยู่ที่กัมพูชา โจลีอธิบายเสริมว่า เธอเติบโตมาในครอบครัวนักแสดง แต่ไม่เคยประทับใจกับเสน่ห์ของฮอลลีวูดเลย ก่อนยอมรับว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกคาดหวังให้เปิดเผยชีวิตส่วนตัวต่อสาธารณชนมากมายเช่นนี้ และนี่ก็ส่งผลกระทบในแง่ลบทั้งต่อตัวเธอเองและลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอ ได้แก่ แมดดอกซ์, แพกซ์, ซาฮารา, ไชโลห์, น็อกซ์ และวิเวียน  

โจลียังเปิดเผยอีกว่า ปัจจุบันเธอไม่ค่อยได้เข้าสังคมมากนัก และตระหนักว่าเพื่อนสนิทส่วนใหญ่ของเธอเป็นผู้ลี้ภัย และผู้คนส่วนมากที่เธอจะได้ใกล้ชิดนั้นล้วนมาจากเหตุสงครามและความขัดแย้ง ซึ่งการเปิดเผยครั้งนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเธอในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วโลก

และหลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวกัมพูชาบางกลุ่มก็ได้แสดงความยินดีกับการตัดสินใจครั้งนี้ของเธอ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นในเชิงให้การต้อนรับ 

‘กล ธิดา’ ชาวกัมพูชารายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ  DailyMail ว่า เธอมองว่าโจลีเปรียบเสมือน ‘นักบุญของพวกเขา’ เห็นได้จากการที่เธออุปถัมภ์เด็กๆ จากทั่วทุกมุมโลก สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอรักมนุษยชาติและมีเมตตาโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเชื้อชาติ 

ในขณะ ‘พัลลา อุง’ ชาวนาชาวกัมพูชาได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีชาวกัมพูชาหลายคน เชื่อว่าโจลีเคยเกิดเป็นคนเขมรในอดีตชาติ ก่อนกล่าวเสริมว่า ดวงตา สีผิว ผม และรอยยิ้มของโจลีนั้นดูเป็นกัมพูชามากๆ เลย และชาวเขมรเองก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เธอจะย้ายมาอยู่ที่นี่

แองเจลีนา โจลี มีความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาในหลายด้าน  ครั้งแรกเธอได้เดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ‘Lara Croft: Tomb Raider’ ในปี 2001 ก่อนที่อีกสองปีต่อมาจะอุปการะ ‘แม็ดดอกซ์’ เด็กกำพร้าจากเมืองพระตะบองให้มาเป็นบุตรชายคนโตของเธอ นอกจากนี้เธอยังได้สร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเขมรโดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือชีวประวัติของนักสิทธิมนุษยชนเชื้อสายกัมพูชาอย่าง ‘First They Killed my Father’ 

อีกทั้งยังได้ทำโครงการด้านสิทธิมนุษยชนหลายโครงการ เช่น   ‘Women for Bees’ ในเมืองเสียมราฐ และในการเยือนกัมพูชาครั้งล่าสุดของโจลีเมื่อปี 2022 เธอได้กล่าวว่า “แค่เพียงไม่กี่วันท่ามกลางชาวบ้าน ฉันรู้สึกว่าจิตใจได้รับการฟื้นฟู” ทั้งยังเคยกล่าวว่าตนรู้สึกผูกพันกับกัมพูชาเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง

อ้างอิง